Saturday, 18 May 2024

7 วิธีพักผ่อนที่แพทย์ แนะนำทำตามง่ายถ้าทำได้สุขภาพร่างกายดีไม่เหนื่อยล้าแน่นอน

20 Jun 2022
191

7 วิธีพักผ่อนที่แพทย์ อยากแนะนำให้ลองไปทำเพราะนอนไปก็ไม่ได้ช่วยอะไรให้ดีขึ้นมา และ 7 วิธีที่เรานำมาให้ดูในวันนี้สามารถทำตามง่ายถ้าทำได้สุขภาพร่างกายดีไม่เหนื่อยล้าแน่นอน เพราะไม่ว่านอนเร็วนอนช้ากินยาบำรุงร่างกายนั้นก็ยังเหนื่อยอ่อนไม่ไหว!?? ใครที่กำลังตกอยู่ในภาวะที่ว่ามานั้นต้องดูห้ามพลาดเด็ดขาด

สล็อต xo Slotxo

7 วิธีพักผ่อนที่แพทย์ อยากแนะนำให้ลองไปทำเพราะนอนไปก็ไม่ได้ช่วยอะไรให้ดีขึ้นมา

7 วิธีพักผ่อนที่แพทย์-อยากแนะนำ

หลายครั้งที่มีความรู้สึกว่าเหนื่อยล้าจนอยากลาพักผ่อนต่อในช่วงวันหยุด แม้ว่าตลอดทั้งวันหยุดนั้นจะพักผ่อนเต็มอิ่มนอนเต็มที่ก็ตาม เชื่อว่าพฤติกรรมเหล่านี้ที่ว่ามาคนวัยทำงานนั้นมักพบเจออยู่เป็นประจำ ส่วนวิธีแก้ปัญหาส่วนใหญ่ของพวกเขานั้นก็คือ เอนหลังลงไปนอนหมอนใบเดิมที่คุ้นเคย?? นอนแล้วหายเหนื่อยหายล้าไหม??ตอบเลยไม่!! เพราะพฤติกรรมที่ว่ามานั้นไม่ได้ทำให้ร่างกายของเรานั้นดีขึ้นจากอาการเหนื่อยล้าได้แม้แต่น้อย เพราะการนอนนานๆนั้นไม่ได้ช่วยให้ทุกอย่างดีขึ้น ดังนั้นเราจึงควรเปลี่ยนวิธีคิดใหม่ด้วย 7 วิธีพักผ่อนที่แพทย์อยากแนะนำที่เรานำมาให้ทุกคนได้ดูในวันนี้

Saundra Dalton-Smith แพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านความสมดุลระหว่างงานและการใช้ชีวิต กล่าวว่า

แม้เราจะเหน็ดเหนื่อยและอยากนอนอยากพักผ่อนมากแค่ไหนในแต่ละวันนั้นบอกเลยว่ามันไม่สามารถทำได้ เนื่องจากว่าการนอนนั้นไม่ใช่วิธีที่ดีที่สุดที่ร่างกายจะได้พักผ่อน เพราะวิธีที่ร่างกายจะพักผ่อนได้อย่างเต็มที่นั้นมีอยู่ทั้งหมด 7 วิธี และหนึ่งในวิธีนั้นก็มีการนอนที่ไม่ใช่นอนทั้งวันหรือนอนนานๆ สำหรับคนที่ไม่อยากเหนื่อยล้าเรื้อรังอันเป็นผลมาจากการนอนนั้นบอกเลยว่าต้องรู้จักวิธีแก้ไขให้ตรงจุด เนื่องจากการพักผ่อนนั้นนมีมากมายหลากหลายประเภทแตกต่างกันไป ส่วนการพักผ่อนแต่ละเภทที่ว่านั้นจะมีอะไรบ้างเดี่ยวตามาดูพร้อมกันได้เลย

1.Physical rest พาร่างกายไปพักผ่อน

การพักผ่อนทางกายภาพที่เราทำอยู่ทุกวันและขาดไม่ได้ไม่บอกทุกคนก็ทรายดีอยู่แล้วว่ามันคือการนอน การนอนที่ว่านั้นไม่เพียงแต่ต้องนอนหลับสนิทอย่างเดียว แต่มันรวมไปถึงการงีบหลับ การนอนเล่น นอนดูหนัง หรือนอนทำอะไรก็ได้ที่ไม่ใช่ความคิด เนื่องจากว่าการนอนของมนุษย์นั้นมีกลไกลบางอย่างของมันเอง ส่วนวิธีการพาร่างกายของเราไปพักผ่อนนั้นคือการ พาตัวเองออกไปพบเจอกับอะไรที่แปลกใหม่ที่ดูแล้วไม่ต้องทำให้คิดมาก เช่นการออกกำลังหรือการออกไปนวดเพื่อผ่อนคลายอารมณ์และกล้ามเนื้อ หรือที่เรียกว่าการออกไปพักผ่อนนอกบ้านที่ไม่สร้างความตึงเครียด

2.Mental rest ปล่อยจิตใจได้ผ่อนคลาย

หลงลืมบ่อยๆ ไม่ค่อยมีสมาธิ หงุดหงิดง่าย อาการเหล่านี้เรามีหรือเปล่า??ถ้ามีบอกเลยว่านี่คือสัญญาณเตือนจากร่างกายภายใน ว่ามันต้องการผ่อนคลายเพราะความเครียดของคุณที่มีมาตั้งแต่เช้านั้นกำลังสะสมตกกระทบกับเป็นทอดๆ และสุดท้ายมันก็จะส่งต่อมาให้สุขภาพร่างกายและจิตใจนั้นย่ำแย่ จนทำให้ไม่หลับไม่นอน ส่วนวิธีการพาตัวเองออกมาพักผ่อนที่ดีมากๆนั้นก็คือ ทุกๆสองชั่วโมงในช่วงที่ทำงานนั้นควรลุกออกจากโต๊ะที่นั่งอยู่ เพื่ออกมายืดเส้นยืดสายและพักผ่อนนสายตาที่จ้องานจ้องจอ

นอนไปก็ไม่ได้ช่วยอะไรให้ดีขึ้นมา

3.Sensory rest พักผ่อนประสาทสัมผัส

ตาที่เหนื่อยล้าจากการจ้องจอและหูที่ทำงานหนักต้องค่อยรับฟังสิ่งที่อยู่รอบข้าง ส่วนปากที่ต้องใช้ระมัดระวังในการพูดจานั้นก็คือว่าเป็นหนึ่งประสาทสัมผัสที่ควรได้รับการพักผ่อน เพราะพวกมันนั้นถูกใช้ให้ทำงานอยู่ตลอดเวลา ส่วนวิธีการพักประสาทสัมผัสนั้นก็สามารถทำตามได้ง่ายๆ เพียงปิดหูปิดตาปิดปากลงสัก 15 นาที ในช่วงที่ทำงานเพียงแค่นี้ก็สามารถช่วยให้ประสาทสัมผัสในการทำงานดีขึ้นและได้พัก

4.Creative rest พักการใช้ความคิดอย่างหนักหน่วง

ใช้สมองระดมไอเดียมาตลอดทั้งวันทำงานนั้นหารู้ไหมว่ามันสามารถหมดลงได้เช่นกันกกับการดื่มน้ำในแก้ว เพราะสมองของเรานั้นไม่ใช่ผู้วิเศษที่จะสามารถเสกทุกอย่างให้เข้ามาได้อย่างง่ายดาย โดยเฉพาะความคิด สำหรับวิธีการพักสมองนี้นั้นก็สามารถทำตามได้ง่ายๆด้วยการ เคลื่อนย้ายร่างกายไปสถานที่ที่แปลกใหม่และดูสวยงาม อย่างเช่นไปเที่ยวป่าไปเที่ยวเขา หรือไปในที่ที่สร้างความผ่อนคลายให้กับร่างกาย อย่างปล่อยให้ตัวเองอยู่กับผนังห้องตลอดทั้งวัน

5.Emotional rest ใส่ใจอารมณ์ความรู้สึกของตัวเอง

เหนื่อยก็บอกเหนื่อยเมื่อก็บอกเมื่อไม่สบายก็บอกว่าไม่สบาย นี่คือการใส่ใจอารมณ์ของตัวเองที่ดีสุด เพราะการซื่อตรงกับอารมณ์และความรู้สึกคือหนึ่งสิ่งที่ทำให้เรานั้นปลดปล่อยทุกอย่างที่มีในใจออกไปได้ ซึ่งถ้าไม่มีคนคุยด้วยการคุยกับตัวเองเองนั้นแหละคือทางออกที่ดีที่สุดและผ่อนคลายมากที่สุด

Emotional rest ใส่ใจอารมณ์ความรู้สึกของตัวเอง

6.Social rest พาตัวเองไปอยู่ในที่สังคมดี

หากรู้สึกว่าสังคมที่อยู่ข้างกายนั้นไม่โอเคเมื่อไหร่บอกเลยว่าให้รีบพสตัวเองออกมาจากตรงนั้นทันที และย้ายตัวเองไปอยู่ในสังคมที่ดีขึ้นมากกว่า เพราะการอยู่ในสภาพแวดล้อมที่ดีมันก็จะส่งผลดีต่อจิตใจและร่างกาย แต่ถ้าเมื่อใดไปอยู่ใกล้คนที่ทีพลังด้านลบความคิดและจิตใขของเรานั้นก็แย่ลงตามคำพูดเหล่านั้นได้เลย

7.Spiritual rest ผ่อนคลายจากภายใน

นอกจากการดูแลร่างกายภายนอกแล้วภายในจิตใจนั้นก็คือว่าเป็นเรื่องที่สำคัญและจะต้องทำ เช่นการนั่งพักผ่อนโดยไม่ต้องคิดอะไร หรือการนั่งสมาธิให้จิตใจและร่างกายเชื่อมโยงกันวันละ 15-20 นาที ซึ่งวิธีนี้นั้นมันสามารถช่วยให้เรานั้นจัดแจงระบบระเบียบร่างกาย และสิ่งที่คิดในหัวได้ และถ้าไม่สามารถทำด้วยตัวเองได้ก็ลองหาตัวช่วยผ่านแอปพลิเคชันหรือก็ไปที่วัดก็ได้เช่นกัน