Saturday, 27 April 2024

7 เคล็ดลับ ออกกำลังกายนอกบ้าน ให้หุ่นฟิตแอนด์เฟิร์ม เสริมสร้างความมั่นใจ

29 Aug 2021
446

ในช่วงที่หลายๆคนต้องกักตัวอยู่ที่บ้าน ซึ่งก็ต้องปรับตัวปรับเปลี่ยนวิธีการออกกำลังกายง่ายๆที่บ้าน เพื่อเสริมสร้างหุ่นฟิตแอนด์เฟิร์มและสร้างร่างกายให้มีสุขภาพแข็งแรง ทำให้คลายเครียด แต่ถ้าหากจะให้ออกกำลังกายที่บ้านก็คงจะน่าเบื่อจนเกินไป หากเราเริ่มอยากเปลี่ยนบรรยากาศในการออกกำลังกายนอกบ้าน ซึ่งวันนี้เราขอเสนอ 7 เคล็ดลับ ออกกำลังกายนอกบ้าน ให้ปลอดภัยกับตนเองและคนรอบข้าง อย่างถูกสุขอนามัย ไม่เสี่ยงติดโรค

สล็อต xo Slotxo

7 เคล็ดลับ ออกกำลังกายนอกบ้าน ให้หุ่นฟิตแอนด์เฟิร์ม

1. อยู่ในที่โล่ง เว้นระยะคนข้างๆ

อยู่ในที่โล่ง 7 เคล็ดลับ
ให้เราเลือกพื้นที่หรือสนามที่ใช้สำหรับออกกำลังกายที่อยู่กลางแจ้ง เปิดโล่ง และมีอากาศที่ปลอดโปร่ง ถ่ายเท เช่น สวนสาธารณะ หรือสนามส่วนกลาง โดยทำการหลีกเลี่ยงสถานที่ปิด อาทิเช่น ห้องแอร์ หรือโรงยิม ที่จะต้องใช้อุปกรณ์ในการออกกำลังกายร่วมกับผู้อื่น อาทิ ฟิตเนตหรือสระว่ายน้ำ โดยขณะในขณะที่ออกกำลังกายลมหายใจหรือเหงื่ออาจจะมีการแพร่กระจายไปไกลกว่าปกติ จึงควรที่จะอยู่ห่างจากกันขณะออกกำลังกายอย่างน้อย 4 เมตร ควรที่จะทิ้งระยะเพิ่มเป็น 10 เมตร ในขณะที่วิ่งหรือปั่นจักรยาน ที่มีการเคลื่อนที่เร็วๆ รวมถึงควรที่จะเลือกช่วงเวลาในการออกกำลังกายที่มีคนน้อย ไม่แออัด

2. เลี่ยงออกกำลังกายแบบกลุ่ม งดใส่หน้ากาก

เลี่ยงออกกำลังกายแบบกลุ่ม7 เคล็ดลับ
ให้เลี่ยงกิจกรรมที่เป็นกลุ่มหรือต้องใกล้ชิดกับผู้อื่น เน้นกิจกรรมออกกำลังกายที่สามารถออกกำลังกายได้คนเดียวที่จะต้องมีระยะห่าง อาทิเช่น เดิน วิ่ง ปั่นจักรยาน กระโดดเชือก เป็นต้น ซึ่งจะตอบโจทย์ดีกว่า ปรับกิจกรรมที่จะต้องทำเป็นกลุ่ม ให้ปรับเปลี่ยนมาเล่นคนเดียว แต่ก็ยังสามารถที่จะสนุกไปกับเพื่อนได้อีกด้วย เช่น ผลัดกันซู้ตบาสเพื่อทำแต้ม เดาะเทนนิสกับผนัง เต้นแอโรบิก โยคะเดี่ยว เป็นต้น เป็นการช่วยลดความเสี่ยงการแพร่เชื้อผ่านฝอยละออง สารคัดหลั่ง รวมถึงการงดใส่หน้ากากอนามัยในขณะที่ออกกำลังกาย เนื่องจากร่างกายต้องการอากาศหายใจ ได้อย่างเต็มที่ เพื่อทำให้ได้รับปริมาณออกซิเจนอย่างเพียงพอ หากเราใส่หน้ากากอนามัยในขณะที่ทำการออกกำลังกายอาจส่งผลให้หายใจไม่สะดวก อาจส่งผลต่อระบบทางเดินหายใจ ที่ทำงานหนักเกินไป แต่ในขณะที่เดินทางไปยังสนามหรือสวนสาธารณะจะต้องสวมใส่หน้ากากอนามัย

3. ดื่มน้ำทุกๆ 10 – 20 นาที

ดื่มน้ำทุกๆ 10 – 20 นาที 7 เคล็ดลับ
เตรียมตัวก่อนจะออกกำลังกายโดยการดื่มน้ำ 240 – 300 มิลลิลิตร ก่อนที่จะทำการออกกำลังกาย 15 นาที ซึ่งในขณะที่ออกกำลังกายควรที่จะจิบน้ำอย่างสม่ำเสมอ 250 มิลลิลิตร ต่อการออกกำลังกายทุกๆ 15 นาที โดยไม่ต้องรอให้ร่างกายรู้สึกกระหายน้ำ เพื่อเป็นการชดเชยการสูญเสียน้ำของร่างกายที่ได้ระบายออกมาทางเหงื่อ ช่วยคงสมดุลน้ำและแร่ธาตุ ทำให้ร่างกายรู้สึกกระปรี้กระเปร่า

4. เลี่ยงสัมผัสหน้า เตรียมผ้าซับเหงื่อ

เลี่ยงสัมผัสหน้า 7 เคล็ดลับ
เราควรที่จะเตรียมที่คาดศีรษะ (Headband) หรือเรียกอีกชื่อว่าที่รัดผม เพื่อช่วยป้องกันไม่ให้เหงื่อไหลเข้าตาหรือปาก รวมถึงผ้าขนหนูหรือสายรัดข้อมือสำหรับใช้ในการซับเหงื่อแทนการใช้มือสัมผัสใบหน้าโดยตรง ลดความเสี่ยงที่เชื้อโรคจะเข้าสู่ร่างกาย

5. พกเจล ล้างมือ ทำความสะอาดอุปกรณ์

พกเจล ล้างมือ 7 เคล็ดลับ
เราควรที่จะพกเจลแอลกอฮอล์ขวดเล็ก ๆ ติดตัวเอาไว้ เพื่อที่จะใช้ในการล้างมือหรือเช็ดสิ่งของที่จะต้องหยิบจับ โดยเฉพาะอุปกรณ์ที่ใช้ในการออกกำลังกาย ก่อนและหลังออกกำลังกายทุกครั้ง อาทิเช่น ดัมเบล , มือจับเชือกกระโดด , แฮนด์จักรยาน เพื่อเป็นการลดความเสี่ยงในการแพร่กระจายของเชื้อโรคเพื่อเป็นการดูแลทั้งตัวเองและผู้อื่นให้ปลอดภัย

6. ฟังเพลง เติมอารมณ์ดี

ฟังเพลง 7 เคล็ดลับ
การฟังเพลงช่วยผ่อนคลายในขณะทำการออกกำลังกาย ช่วยเพิ่มบรรยากาศดีๆ ทำให้เพลิดเพลินในการออกกำลังกาย และสามารถออกกำลังกายได้อย่างเต็มประสิทธิภาพมากขึ้น ให้เลือกเพลงที่มีจังหวะสม่ำเสมอช่วยทำให้การออกกำลังกายได้อย่างเป็นจังหวะ ทำให้ส่งผลดีต่อการเคลื่อนไหว การหายใจ ช่วยลดความเสี่ยงไม่ให้กล้ามเนื้อบาดเจ็บ หลังจากที่ได้ใช้หูฟังแล้ว ก็อย่าลืมที่จะเช็ดทำความสะอาด ด้วยแอลกอฮอล์เพื่อฆ่าเชื้อก่อนทุกครั้ง

7. กลับบ้านอาบน้ำทันที

กลับบ้านอาบน้ำทันที 7 เคล็ดลับ
เมื่อกลับมาถึงบ้านแล้ว เราไม่ควรที่จะเข้าไปพูดคุย สัมผัสคนภายในครอบครัว เพื่อที่จะลดความเสี่ยงในการแพร่เชื้อโรค หากเผลอไปสัมผัสสิ่งของสาธารณะภายในบ้าน เพื่อสุขอนามัยที่ดี เราควรที่จะล้างมือให้สะอาดทุกครั้งด้วยสบู่ นาน 20 วินาทีขึ้นไป และอาบน้ำทำความสะอาดร่างกาย สระผม เปลี่ยนเสื้อผ้าทันที เป็นไปได้เราควรที่จะทำการซักชุดออกกำลังกายทันที แต่หากไม่ซักในทันที ควรที่จะทำการแยกตะกร้าต่างหาก โดยในช่วงนี้ไม่ควรที่จะใช้บริการอาบน้ำในห้องน้ำสาธารณะที่จะต้องใช้ร่วมกับผู้อื่น

หากมีข้อสงสัยเพิ่มเติมหรือต้องการคำแนะนำในการออกกำลังกาย อาจจะต้องทำการปรึกษาจากแพทย์ ผู้เชียญชาญ หรือ เทรนเนอร์ ผ่านทางโทรศัพท์หรือผ่านทางออนไลน์ต่างๆ เพื่อเป็นการหลีกเลี่ยงการพบปะ รวมถึงเราควรที่จะสำรวจและประเมินตัวเองว่ามีอาการบาดเจ็บหรือไม่ หากเรามีอาการไม่สบายหรือมีอาการป่วย ควรที่จะเว้นระยะห่างและเว้นการออกกำลังกายนอกบ้าน