ไขปริศนาคาใจทำไมบางประเทศ!? น้ำเปล่ามีวันหมดอายุ ทั้งๆที่มันไม่ได้มีโปรตีนหรือมีอะไรที่ทำให้เน่าเสียเช่นอาหารทั่วไป

ไขปริศนาคาใจทำไมบางประเทศ!? น้ำเปล่ามีวันหมดอายุ มันใส่อะไรพิเศษลงไปให้มันเสียเหรอ? หรือน้ำเปล่ามันต้องมีวันหมดอายุจริงๆ? ทั้งๆที่มันไม่ได้มีโปรตีนหรือมีอะไรที่ทำให้เน่าเสีย อย่างเช่น อาหารทั่วไปที่เรากินกันที่มีเครื่องปรุงเติมแต่งเพิ่มความบูดเสียให้เร็วจนต้องติดวันเดือนปีที่ผลิตควรปริโภคก่อนวันนั้นวันนี้

น้ำเปล่ามีวันหมดอายุ มันใส่อะไรพิเศษลงไปให้มันเสียเหรอ? หรือน้ำเปล่ามันต้องมีวันหมดอายุจริงๆ?

สำหรับคนที่เดินทางท่องโลกมานับไม่ถ้วนนั้นแน่นอนว่าต้องเป็นคนที่ถือ “ขวดน้ำ” เดินทางติดตัวไปด้วยเป็นประจำบ่อยกว่าแบรนด์แนมที่มีราคาแพงแน่นอน และทุกคนนั้นต้องทราบดีอยู่แล้วว่าบางประเทศนั้นราคาขวดน้ำนั้นแพงแสนแพง แต่สามารถดื่มได้จากก๊อกน้ำทั่วไปที่สะอาด แต่สำหรับประเทศไทยนั้นมันไม่น่าจะทำตามได้ เพราะความสะอาดนั้นไม่สามารถรับรองได้เหมือนที่ต่างประเทศเขาทำกัน แม้ว่าวัฒนธรรมการดื่มน้ำของแต่ละประเทศนั้นไม่เหมือนกันแต่มีสิ่งหนึ่งที่คนทั่วโลกนั้นคิดเหมือนกันนั้นก็คือ น้ำเปล่านั้นมันมีวันหมดอายุด้วยจริงๆหรือ!?? บอกเลยนี่คือสิ่งที่แปลกประหลาดพิสดารมากที่สุดอีกเรื่องที่มนุษย์เรานั้นตั้งข้อสงสัย ว่าทำไมน้ำเปล่าถึงมีวันหมดอายุมันใส่อะไรลงไปในนั้น สิ่งที่ใส่ลงไปนั้นมันพิเศษอะไรเหมือนอาหารไหมที่มีนสชาติ??

อย่างแรกต้องเข้าใจก่อนว่าในบางประเทศอย่างบางรัฐในสหรัฐอเมริกานั้นเขามีกฎหมายข้อบังคับให้ผู้ผลิตนั้นจำเป็นจะต้องใส่วันเดือนปีผลิตและหมดอายุเอาไว้ที่ข้างขวดอย่างชัดเจน ส่วนวันหมดอายุนั้นน่าจะไม่มีอยู่จริงเป็นเพียงตัวเลขทางกฎหมายที่ต้องเขียนใส่เอาไว้เท่านั้น

อย่างที่สองถ้าน้ำเปล่าแบบ “เปล่า” ธรรมชาติจริงๆ ต้องไม่มีโปรตีนหรือน้ำตาลผสมลงในขวดน้ำนั้น เพราะว่าทั้งสองสิ่งที่ผสมลงไปในน้ำนั้นมันส่งผลให้อาหารหรือน้ำนั้นบูดเสียได้เหมือนอาหารทั่วไปที่เรารับประทานลงไป สรุปง่ายๆนั้นก็คือ โปรตีนจะเปลี่ยนสภาพน้ำส่งผลทำให้เกิดกลิ่นเน่าเสียได้ในสิ่งที่ใส่ลงไป ส่วนน้ำตาลที่ใส่ลงไปนั้นมันจะเข้าไปเลี้ยงสารพัดจุลินทรีย์ที่เพิ่มกลิ่นความบูดเน่าได้มากขึ้นกว่าเดิม ดังนั้นนั่นหมายความของคำว่า “น้ำเปล่า” ตามหลักสากลทั่วไปที่โลกต้องยอมรับนั้นคือต้องไม่มีวันนหมดอายุสามารถเก็บเอาไว้ได้นาน

แต่ปัญหาคือสิ่งที่เราเรียกว่า “น้ำเปล่า” มันไม่ได้ “เปล่า” จริงๆ เพราะน้ำบางชนิดนั้นเติมสารเติมกลิ่นเติมรสชาติลงไปในการผลิตนิดหน่อย ซึ่งนี่มันคือเหตุผลที่น้ำเปล่าแต่ละแบรนด์แต่ละยี่ห้อนั้นมีรสชาติที่แตกต่างกัน แน่นอนว่าสารที่เติมลงไปในน้ำเปล่านั้นก็ไม่น่าจะสามารถเก็บเอาไว้ดื่มได้นานๆ จึงจำเป็นจะต้องมีวันหมดอายุติดข้างขวด เพราะหากเกินเวลารสชาติก็จะเปลี่ยนและไม่อร่อยพร้อมกับมีกลิ่นเน่าส่งออกมา

ต้องขอบอกเลยนะว่าสิ่งที่เรากล่าวมานั้นก็คือสิ่งที่บอกว่าทำไมน้ำเปล่าถึงมีวันหมดอายุ แต่ในความเป็นจริงแล้วการเลือกดื่มน้ำนั้นขึ้นอยู่กับประสาทสัมผัสของเรา เมื่อเราดื่มลงไปแล้วรู้สึกปกติก็สามารถดื่มต่อได้เลย ในส่วนทีรู้สึกไม่ปกตินั้นก็แนะนำว่าทิ้งไปสะตามความรู้สึก แม้ข้างขวดจะบอกยังไม่หมดอายุก็ตาม