Friday, 22 November 2024

แนะนำให้รู้จัก “บอนชอนชิกเกน” เอกลักษณ์ไม่ซ้ำใคร ชวนใครไปกินก็ติดใจ

ตอบคำถามคาใจ!? บอนชอนชิกเกน เอกลักษณ์ไม่ซ้ำใคร ชวนใครไปกินก็ติดใจ ทำไมถึงเป็น นับเบอร์วัน แห่ง อาหาร Korean Fried Chicken ที่ครอบครองใจคนทั่วโลก บอกเลยใครที่ติดใจในรสชาติของ ไก่ทอดเกาหลี แบรนด์นี้ จนอดสงสัยวิธีทำไม่ได้นั้นต้องห้ามพลาดแวะเข้ามารับชมเรื่องราวที่เรานำมาให้ดูในวันนี้ก่อน ประวัติศาสตร์

สล็อต xo Slotxo

บอนชอนชิกเกน ทำไมถึงเป็น “นับเบอร์วัน” แห่ง Korean Fried Chicken ที่ครอบครองใจคนทั่วโลก

บอนชอนชิกเกน ทำไมถึงเป็น “นับเบอร์วัน”

บอนชอน ถือว่าเป็นอีกหนึ่งร้านอาหารที่เป็นเซฟโซนสำหรับนักกินจำนวนไม่น้อย เพราะมันคือร้านอาหารที่เป็นนับเบอร์วัน สำหรับ Korean Fried Chicken ที่สามารถสร้างมั่นใจให้ใครหลายๆคนได้ว่า ถ้าไปกินเองก็อร่อยถูกใจ และถ้าชวนใครไป ผลตอบรับก็มักดีเสมอ

ต้องขอบอกตรงนี้เลยว่า ไก่เกาหลีจาก Bonchon ถือว่ามีเอกลักษณ์ที่น่าจดจำ เพราะมีวิธีการเคลือบซอสบนไก่ทีละชิ้นอย่างละเอียดด้วยอุปกรณ์โดยเฉพาะ ส่วนตัวแป้งเองก็บางกรอบมีรสชาติที่อร่อยแตกต่างจากไก่ทอดแบรนด์อื่นๆ และไม่ว่าจะมองหาแบรนด์อื่นใด ก็ยังไม่มีใครทำได้เหมือน

จนมีแต่คนอยากรู้สูตรเด็ดของซอสว่าทำมาจากอะไรซื้อมาจากที่ไหนทำไมมันแซ่บนัวร์ขนาดนี้ ส่วนเคล็ดลับและสูตรเด็ดของเมนูนี้มันจะคืออะไร แล้วเชฟนั้นใส่ใจกับวัตถุดิบและส่วนผสมมากแค่ไหน เดี่ยวเรามาออกเดินทางไปสำรวจเรื่องราวเหล่านี้พร้อมๆ กันได้เลยที่ด้านล่างนี้

ผู้ก่อตั้ง Bonchon  ที่มีชื่อว่า Jinduk Seo

ทำความรู้จักที่มาจากความตั้งใจของผู้ก่อตั้ง Bonchon  ที่มีชื่อว่า Jinduk Seo

ก่อนที่เรานั้นจะไปดูความลับสุดแสนอร่อยนั้นเดี่ยวเรามาเริ่มทำความรู้จักที่ไปที่มาของเมนูนี้ก่อน Bonchon ในภาษาเกาหลีมีความหมายว่า hometown หรือถิ่นฐานบ้านเกิด ซึ่งที่ให้กำเนิดของ Bonchon ก็อยู่ที่เขต Haeundae เมือง Busan ประเทศเกาหลีใต้ ถือกำเนิดจาก Jinduk Seo เมื่อปี 2545 หรือราว 20 ปีที่ผ่านมา

Jinduk Seo คนนี้แหละที่เป็นตัวการหลักที่สำคัญในการพัฒนารสชาติที่อร่อยล้ำลึก ในแบบฉบับของบอนชอน Jinduk Seo เป็นคนที่มีความสามารถในการทำอาหารให้อร่อยเป็นอย่างมาก เพราะเขาอยากให้ลูกค้าได้กินของดีๆ ได้ลิ้มรสซอสอร่อยๆ เลยใช้เวลาปรับปรุงสูตร และเลือกส่วนผสมอยู่นานส่วนผสมก็เป็นของดีๆ ทั้งนั้น สุดท้ายก็ได้สูตรที่ใช่ออกเป็นไก่ทอดและซอสในแบบฉบับของเขาเอง

แน่นอนว่าทุกความตั้งใจมันต้องส่งผลให้สิ่งที่ออกมามันดีเสมอ พอแบรนด์ บอนชอน ตีตลาดได้ก็มียอดจำหน่ายขยาย และเติบโตขึ้นไปเรื่อยๆ ตามประเทศต่างๆ จนกลายเป็นตำนาน และแน่นอนว่า มันไม่ได้สั่นสะเทือนแค่ในเกาหลีใต้ แต่ไก่ทอดและซอสของบอนชอนกำลังสร้างสรรค์ความอร่อยที่สั่นสะเทือนไปทั่วโลก และในไทยเองก็เช่นกัน

ส่วนกระแสที่สร้างตำนานอย่างโด่งดังที่คนทั่วโลกนั้นอึ้งก็คือ กระแสที่ร้านขายไก่ บอนชอน ที่สหรัฐอเมริกาในช่วงเวลานั้นมีผู้บริโภคจำนวนมากไปต่อคิวรอซื้อ ไก่ บอนชอน เยอะมาก จนกลายเป็นกระแสไวรัลสุดโด่งดังปังปุริเย่มากๆ ในยุคสมัยนั้น

Korean Fried Chicken

การควบคุมคุณภาพซอสส่งตรงจากเมืองปูซาน ประเทศเกาหลี

หลังจากที่ทราบที่ไปที่มาและถิ่นกำเนิดไปแล้ว เดี่ยวเราจะพาทุกคนกลับมาหาพระเอกของเรื่องอย่าง ตัวซอส กันบ้าง อย่างที่เราทุกคนนั้นรู้และเข้าใจกันดีว่า บอนชอน เป็นธุรกิจที่ก้าวหน้าในรูปแบบ franchise และหัวใจหลักในการเดินหน้าของการทำ franchise ก็คือการควบคุมคุณภาพ เพราะถ้าหากมีสาขาใดสาขาหนึ่งทำแย่ เราก็ปฏิเสธไม่ได้ว่ามันจะส่งผลเสียต่อแบรนด์โดยรวมไปด้วย

แน่นอนว่า บอนชอน เป็นแบรนด์ที่ทำยอดทำอะไรได้เยี่ยมมากจริงๆ เพราะถึงแม้จะเติบโตส่งออกทั่วโลกแต่ซอสนั้นต่างก็ถูกส่งตรงมาจากถิ่นฐานบ้านเกิดอย่างเมืองปูซานทั้งหมด เพราะมีส่วนผสมที่คลุกเคล้ากันอย่างลงตัวกว่า 20 ชนิด โดยใช้วิธีการหมัก (แบบกิมจิ) เป็นวิธีการหลักในการผลิตซอสของพวกเขา

เพราะทั้งไก่และซอสของ บอนชอน นั้นคือสูตรเด็ดที่เป็นความลับที่ไปหาจากที่ไหนไม่ได้ เนื่องจากว่าสูตรดังกล่าวนั้นถูกดัดแปลงและพัฒนาใช้เวลานานมากกว่า 20 ปี และก็นั่นแหละ รสชาติของบอนชอนที่ทุกคนเคยลองก็ตอบโจทย์สิ่งที่เราอธิบายไว้หมดแล้ว

บอนชอนชิกเกน ไก่ทอดอันดับของวัยรุ่น

เกลือจาก Shin An แผ่นดินอันเป็นเอกลักษณ์ระดับโลก

อย่างที่เราเล่าให้ทุกคนฟังตั้งแต่ตอนแรกว่าซอส บอนชอน มีส่วนวัตถุดิบมากกว่า 20 ชนิด แน่นอนว่าวัตถุดิบแต่อย่างนั้นจะต้องสำคัญและดีมากๆ อย่างเช่น วัตถุดิบอย่าง เกลือ ก็ถือว่าเป็นอีกหนึ่งในหัวใจหลักสำคัญของซอส บอนชอน ที่ทำให้เราได้ลิ้มรสชาติความอร่อย

เกลือนั้นคือวัตถุดิบที่สำคัญเป็นอย่างมากกับอาหารหลายๆประเทศ โดยเฉพาะกับประเทศเกาหลี เนื่องจากว่าเกาหลีจะมีรูปแบบอาหารที่ตั้งเป้าไปที่การหมัก การดอง และเกลือเองก็จะเข้ามาทำหน้าที่ตรงนี้ โดยเกลือที่พวกเขาใช้เป็นส่วนผสมก็ไม่ใช่เกลืออะไรก็ได้ แค่เพียงเกลืออย่างเดียว

เพราะว่าคุณ Jinduk Seo  ก็ใช้เวลาค่อนข้างที่จะนานอยู่เพื่อเดินทางออกตามหาเกลือไปตามเกาะมากมาย เพื่อหาเกลือที่ดีที่สุดมาเป็นวัตถุดิบ จนได้มาพบกับเกลือจาก Shin An ซึ่งความโดดเด่นของพื้นที่ตรงนี้ก็คือดินโคลนที่มีลักษณะพิเศษ โดย UNESCO ยกให้เป็นพื้นที่ระดับท็อปของโลกเลยด้วยซ้ำ (แต่ละพื้นที่จะมีแร่ธาตุ และภูมิอากาศที่แตกต่างกันออกไป)

ทำให้เกลือจากพื้นที่นั้นกลายเป็นเกลือเกรดดีที่ผลิตจากพลังงานแสงอาทิตย์ (Cheonilyeom) จากเมือง Shin An จังหวัด Jeolla ประเทศเกาหลีใต้ โดยจะใช้เวลาประมาณ 3 ปี เพื่อให้รสชาติขม และความชื้นของเกลือเจือจางออกไป

กระเทียม จากพื้นที่ชุ่มน้ำในแผ่นดินที่ใหญ่ที่สุดของเกาหลี

ในมุมของวัตถุดิบอย่างเช่น “กระเทียม” ก็เหมือนกัน ทางคุณ Jinduk Seo  ก็พิถีพิถันในการเลือกกระเทียมเป็นอย่างมาก โดยกระเทียมที่ Jinduk Seo ใช้จะเป็นกระเทียมที่ได้มาจากพื้นดินชุ่มน้ำบริเวณ “อูโพ” พื้นที่ที่ได้รับการยกย่องว่าเป็นพื้นที่ชุ่มน้ำแหล่งใหญ่ที่สุดของเกาหลี ที่ต้องใช้เวลาก่อกำเนิดมายาวนานมากกว่าร้อยล้านปี

ทำให้กระเทียมที่ Jinduk Seo ใช้เป็นกระเทียมสายพันธุ์พิเศษ (Dae-seo-jong) ที่มีต้นกำเนิดจากสเปน แต่โตได้ดีในพื้นที่ดังกล่าวด้วยเช่นกัน ค่อนข้างต่างจากการกระเทียมทั่วไป ทั้งมีแร่ธาตุ และคุณประโยชน์สูง แถมช่วยบาลานซ์ความเผ็ดร้อนและความหวานได้อย่างลงตัวเอง และแน่นอนว่า เมื่อมันอยู่คู่กับไก่ทอด จึงกลายเป็นส่วนผสมที่ลงตัวกันแบบสุดๆ

ไก่ทอดบอนชอนสุดแซ่บ

ซอสถั่วเหลือง กับองค์ความรู้ที่ถูกส่งต่อกันมากว่า 3 รุ่น

ซอสถั่วเหลือง Soy sauce ก็เป็นอีกหนึ่งวัตถุดิบที่เป็นหัวใจหลักของอาหารเกาหลี ต้องขอบอกเลยนะว่าวัตถุดิบชิ้นนี้นั้นอยู่คู่คนเกาหลีมาตั้งแต่สมัยโบราณ อย่างเช่น ซอสถั่วเหลืองที่ บอนชอน เลือกใช้ ก็เป็นซอนที่มีขั้นตอนวิธีการผลิตที่นับว่าเป็นองค์ความรู้ที่ถูกส่งต่อกันมามากกว่า 3 รุ่น เป็นองค์ความรู้ที่ถูกพัฒนามายาวนานมากกว่า 70 ปี

ทำให้รสชาติของซอสถั่วเหลืองรสเลิศนั้นมีความคงที่และมีคุณภาพสูงไม่เปลี่ยนแปลง รสชาติดี มีกลิ่นหอม สีคาราเมลสวย ซึ่งซอสถั่วเหลืองไม่ได้มาเป็นเพียงแค่เครื่องปรุงที่ช่วยชูรสชาติ แต่เป็นเหมือนส่วนผสมพื้นฐานที่ทำให้ซอสของ บอนชอน เป็นซอสในแบบฉบับของ บอนชอน จริงๆ

เราจะเห็นว่าตัวอย่างวัตถุดิบกล่าวมาทั้งหมดทั้งมวลล้วนแล้วแต่มีส่วนสำคัญ และเป็นสิ่งที่ผู้ก่อตั้งนั้นมีความตั้งใจจนทำให้คนที่อ่านและคนที่กินนั้นสามารถสัมผัสได้ถึงพลังและความรักในการนำเสนออาหารดีๆ จริงๆ และนี่แหละอาจเป็นบทเรียนสำคัญ ที่ไม่ว่าเราจะทำอะไร ถ้าเราใส่ใจในทุกขั้นตอน ผลลัพธ์ก็จะออกมาปังได้ในแบบฉบับ บอนชอน