Thursday, 23 May 2024

จิตแพทย์!!เตือนฟิลเตอร์ผีไม่ใช่เรื่องตลก!!เด็กจะเติบโตเป็นผู้ใหญ่แบบไหน?เมื่อถูกผู้ที่ไว้ใจแกล้งให้กลัว

20 Aug 2022
234

Lifestyle จิตแพทย์!! เตือนฟิลเตอร์ผี นำมาใช้หลอกเด็ก “ทำลาย” ความไว้วางใจที่มีให้หายไป ไม่ใช่เรื่องตลก!!เด็กจะเติบโตเป็นผู้ใหญ่แบบไหน?เมื่อถูกผู้ที่ไว้ใจแกล้งให้กลัว ข่าวเด่นออนไลน์หลังจากที่กระแสโซเชียลตีกลับพ่อแม่แกล้งลูกกน้อยให้อยู่คนเดียวในห้องกับหน้าจอรูปผีในมือถือ

สล็อต xo Slotxo

เตือนฟิลเตอร์ผี นำมาใช้หลอกเด็ก “ทำลาย” ความไว้วางใจที่มีต่อผู้เลี้ยงดูให้หายไป

เตือนฟิลเตอร์ผี ไม่ใช่เรื่องตลก

ฟิลเตอร์ผีในแอปพลิเคชัน TikTok ที่หลายๆคนเอามาใช้เล่นแกล้งเด็กๆที่ถูกผู้ใช้นั้นได้เล่นและแชร์คลิปวีดีโอออกมาให้เพื่อนๆที่ใช้งานดู ที่จะเห็นได้ว่ามีผู้ปกครองบางคนนั้นได้เปิดหน้าจอโทรศัพท์มือถือให้เด็กดู ก่อนที่จะใช้ฟิลเตอร์รูปผีปแสดงตัวขึ้นมาภายในห้อง แล้วทำการวิ่งหนีเด็กออกจากห้อง ซึ่งมันคือการทิ้งให้เด็กตามเพียงลำพัง ทำให้กกระแสตีกลับ!!จนจิตแพทย์และนักจิตวิทยาเด็กออกมาเตือนในหลายแง่มุมถึงการแกล้งลักษณะนี้ว่าเป็นเรื่องที่ไม่ควรทำเป็นอย่างยิ่ง เนื่องจากว่าการเล่นสนุกของผู้ใหญ่นั้นมันมีผลกระทบต่อจิตใจของเด็กในระยะยาว แม้ทำเพียงครั้งเดียวเด็กก็สามารถจดจำทุกอย่างได้ไม่ว่าจะเป็นช่วงเวลาที่สั้นก็ตาม

ทางด้านจิตแพทย์เด็กและวัยรุ่นบอกว่า เด็กชอบมีความกลัวแอบซ่อนอยู่ภายในใจ ที่ผู้ใหญ่แบบเรารับรู้ว่ามันไร้เหตุผล มันเกิดขึ้นเมื่อความกลัวเกิดขึ้นกับเด็กที่มีพัฒนาทางความคิดไม่แข็งแรงเหมือนเด็กโต การแปลความหมายในสิ่งที่พวกเขานั้นรับรู้ยังไม่ถูกต้องตามความเป็นจริง ดังนั้นความกลัวที่มีมันก็ยิ่งเข้ามาเสริมให้ความรู้สึกแย่ และส่งผลกระทบในช่วงเวลาอั้นสั้นและช่วงเวลาที่ยาวนาน หากความกลัวนั้นรุนแรงและเกิดขึ้นบ่อยครั้ง ตามทฤษฎีของ Piaget บอกว่าเด็กอายุ 2-7 ขวบ คือช่วงที่เรียกว่า Preoperational stage เป็นช่วงที่เด็กจะมีความคิดมี fantas ที่ค่อนมาก และจินตนาการของเด็กมันคือจุดเริ่มต้นของความคิดสร้างสรรค์

แต่บางครั้งการที่พวกเขานั้นก็ยังไม่มีความสามารถแยกได้ว่าเรื่องจริงออกจากความคิดสร้างสรรค์ออกไม่ได้เหมือนผู้ใหญ่ มันเลยเกิดความกลัวที่ผู้ใหญ่นั้นไม่สามารถรับรู้ได้เหมือนกับพวกเขาขึ้นมา ความกลัวของแม้บางครั้งมันอาจดูไม่มีความหมายในความคิดเห็นของพวกเรา แต่มันคือเรื่องที่มีความหมายและมีความสำคัญมากๆกับพวกเขา และการหลอกผีเด็กด้วยการใช้ฟิลเตอร์ผีที่น่ากลัว นั้นมันก็อาจทำให้เด็กๆกลัวมากๆ เพราะว่าพวกเขานั้นยังไม่สามารถแยกแยะได้ว่านี้มันคือเรื่องจริงหรือจินตนาการ อย่างเช่น เด็กบางคนนั้นกลัวการเข้าห้องน้ำไม่กล้านั่งชักโครกเพราะกลัวมันดูดลงไป

ฟิลเตอร์ผี“ทำลาย” ความไว้วางใจที่มีต่อผู้เลี้ยงดูให้หายไป

การขู่ให้เด็กกลัวกระทบถึงตอนเป็นผู้ใหญ่ เพราะว่าการที่ผู้ปกครองหลายๆคนนั้นขู่ให้เด็กเกิดความกลัว เด็กเหล่านั้นก็จะเชื่อสุดใจเลยว่ามันจะเกิดขึ้นจริง อย่างเช่น แม่คนหนึ่งนั้นขู่ลูกน้อยว่าถ้าหากเขานั้นซนแม่จะหนีออกจากบ้าน แต่ตั้งแต่นั้นเป็นต้นมาเด็กคนดังกล่าวก็ไม่ออกไปไหนเลย เพราะกลัวแม่ของเขาหายไปที่ผลออกมาเป็นแบบนี้นั้นมันมีความเชื่อมโยงกันกับความปลอดภัยของตัวเขาและคนที่พวกเขานั้นรัก จนบางครั้งนั้นมันส่งผลทางจิตใจจนเด็กเก็บเอาไปฝันแล้วนอนไม่หลับ และในระยะยาวเรื่องราวที่ถูกขู่ถูกแกล้งนั้นอาจส่งผลกระทบมาให้ถึงตอนเป็นผู้ใหญ่ อย่างเช่น กรณีของชายคนหนึ่งที่เขานั้นโตแล้วแต่ยังกลัวความมืดและที่แคบ เพราะในอดีตชายคนนี้ถูกขังเอาไว้ในห้องเก็บของมืดๆแคบๆ หลายชั่วโมง จนมันกลายมาเป็นปมในใจ

ความไว้วางใจที่เด็กมีต่อผู้เลี้ยงดูถูกทำลายลงหากถูกแกล้ง

สำหรับเด็กอายุตั้งแต่แรกเกิดไปจนถึงอายุ 7 ขวบ เป็นต้นไปคือช่วงเวลาที่เด็กนั้นจะสร้างความสัมพันธ์กับพ่อแม่และคนที่เลี้ยงดู ซึ่งเด็กนั้นจะสร้างความไว้วางใจกับพ่อแม่และคนที่เลี้ยงดูขึ้นเรื่อยๆ เมื่อเด็กถูกแกล้งด้วยวิธีดังกล่าวที่เราเกริ่มมาแล้วอารมณ์ทางลบถูกกระตุ้นขึ้นมาอย่างรวดเร็ว ผลกระทบที่จะเกิดขึ้นกับเด็กคือ การจดจำภาพที่ฝังในใจและนำไปสู่ความไม่ไว้วางใจต่อผู้เลี้ยงดูสุดท้ายมันก็ได้ถูกทำลายลง เพราะพวกเขานั้นไม่สามารถคาดเดาได้เลยว่าพวกเขานั้นจะถูกกลั่นแกล้งอีกกตอนไหน ซึ่งเรื่องที่เกิดขึ้นนั้นมันก็ส่งผลให้พวกเขานั้นเกิดความระแวง ถ้าความกลัวนั้นมันรุนแรงมากในอนาคตเด็กคนบางคนอาจกลายเป็นคนที่เป็นโรคกลัว (Phobia) หรือโรควิตกกังวล (Anxiety Disorder) ได้เลย และในอนาคตเด็กนั้นอาจเปลี่ยนมุมมองของโลกไปในแบบใหม่ ในแบบที่ไม่ไว้ใจใครเลยที่อยู่รอบๆตัว เพราะพวกเขานั้นอาจกลัวว่าพวกเขาจะถูกทำร้าย และจะถูกแกล้ง

แกล้งให้กลัว หรือขู่ให้กลัวเพื่อให้เปลี่ยนพฤติกรรม ทำให้เกิดความกลัวอย่างไร้เหตุผล

แกล้งให้กลัว หรือขู่ให้กลัวเพื่อให้เปลี่ยนพฤติกรรม ทำให้เกิดความกลัวอย่างไร้เหตุผล

ผลกระทบในช่วงเวลาที่สั้นหลังจากที่เด็กจดจำภาพความกลัวเอาไว้ได้ เด็กๆเหล่านั้นจะเสี่ยงตกอยู่ในสภาพแวดล้อมที่เคยพบเจอแบบนั้นตลอดเวลา ยกตัวอย่างเช่น ผู้ปกครองนั้นกลัวจิ้งจกที่อยู่ในบ้านแล้วเด็กนั้นเห็นว่าเรากลัว ในอนาคตเมื่อเด็กโตขึ้นมา เด็กก็จะกลัวเพราะในอดีตเขานั้นเห็นคนที่เลี้ยงดูเขากลัว แล้วเขาจะจดจำว่ามันคือสิ่งอันตราย และนี้มันคือความกลัวที่เกิดจากครอบครัวของตัวเองทั้งนั้น หลายๆคนนั้นมองว่ากรณีของฟิลเตอร์ผีหลอกเด็กนั้นรุนแรงมาก เพราะว่าการการรับรู้ภาพและเสียงที่มีความน่ากลัวคนเดียว และอยู่ในห้องที่มืดๆที่ไม่มีใครสามารถเข้ามาช่วยเหลือเขาในตอนนั้น มันเหมือนกับว่าเขาถูกกระตุ้นความกลัวที่ไม่มีเหตุผลขึ้นมา ซึ่งมันเป็นเรื่องของทฤษฎีของการเรียนรู้

การสอนหรือปรับพฤติกรรมเด็กด้วยวิธีการขู่ให้กลัวในทางการแพทย์เป็นวิธีที่ไม่สมควรทำเป็นอย่างยิ่ง เนื่องจากว่าคำพูดของพวกเรานั้นในบางครั้งนั้นไม่มีเหตุผล เช่น บอกว่าเด็กจะถูกลักพาตั๋ว เด็กจะถูกนำมาทิ้ง ตำรวจจะจับถ้าไม่ยอมกินข้าว ซึ่งการกระทำดังกล่าวนั้นมันไม่สมเหตุไม่สมผลเอามากๆ นักจิตบำบัดพฤติกรรมและความคิดจิตบำบัดนั้นบอกว่าแม้เด็กในคลิปจะดูเป็นเด็กที่โตและเหมือนว่าเขานั้นไม่กลัวก็ไม่ได้หมายความว่าเขาจะไม่กลัว เพราะการตอบสนองของสมองเชิงลบด้านอารมณ์มันถูกกระตุ้นขึ้นมาแล้ว ดังนั้นการที่จะอธิบายบอกเขาว่าเรื่องคือเรื่องเล่นๆพวกเขาก็น่าจะไม่เข้าใจแล้ว เพราะพวกเขานั้นสามารถจดจำทุกอย่างได้แม่นยำ ทั้งเรื่องที่ดีๆและเรื่องที่แย่ๆ