Monday, 20 May 2024

รู้ไหมว่าว่าถ้าเลิก “จู้จี้จุกจิก” ชีวิตจะสงบสุขมากขึ้น!!เพราะบางครั้งใส่ใจรายละเอียดมากเกินไปมันก็ทำให้เกิดความไม่สายใจ

25 Jun 2022
291

รู้ไหมว่าว่าถ้า เลิกจู้จี้จุกจิก แล้วชีวิตจะดีขึ้นเพียงแค่เอาใจใส่ให้น้อยลงความน่ารักก็จะเพิ่มขึ้นมา!! เพราะบางครั้งใส่ใจรายละเอียดมากเกินไปมันก็ทำให้เกิดความไม่สายใจ เนื่องจากไลฟ์สไตล์ในการดูแลเอาใจใส่ของแต่ละคนนั้นมันก็แตกต่างกันไป บางคนชอบบวุ่นวานชชอบจู้จี้จุกจิกแต่บางคนนั้นอาจไม่ชอบอะไรในทางตรงกันข้าม

สล็อต xo Slotxo

เลิกจู้จี้จุกจิก แล้วชีวิตจะดีขึ้นเพียงแค่เอาใจใส่ให้น้อยลงความน่ารักก็จะเพิ่มขึ้นมา

เลิกจู้จี้จุกจิก-แล้วชีวิตจะดีขึ้น

การดูแลเอาใจใส่รายละเอียดนั้นถือว่าเป็นเรื่องที่ดีและเป็นเรื่องที่หลายๆคนนั้นอยากเป็น แต่บางครั้งการเป็นคนที่มีรายละเอียดสูงใส่ใจทุกสิ่งทุกอย่างมากเกินไปนั้นมันก็อาจทำให้เรานั้นกลายเป็นคน “จู้จี้จุกจิก” ในสายตาของคนรอบข้างได้ เนื่องจากบางพฤติกรรมของเราที่เราไม่สามารถรับรู้ได้ด้วยเองว่ามันมากเกินไปนั้น อาจไปส่งผลให้คนที่อยู่รอบข้างนั้นอึดอัดและไม่สบายใจ ในความไม่พอดีของตัวเราเอง บางครั้งความอึดอัดใจมันไม่ได้อยู่แค่เพียงกับคนรอบข้างแต่มันอยู่กับเราโดยที่เราก็ไม่รู้ตัวและไม่ชอบมันมากๆเช่นกัน

ชีวิตจะดีขึ้นเพียงแค่เอาใจใส่ให้น้อยลงความน่ารักก็จะเพิ่มขึ้นมา

การจู้จี้จุกจิกนั้นสามารถแสดงออกมาให้เราเห็นได้หลากหลายรูปแบบ เช่น มาในรูปแบบของคำพูดซึ่งคำพูดที่ออกมานั้นมักจะเป็นคำสั่งที่ไม่ค่อยน่าฟัง บางครั้งอาจมาในรูปแบบของคำขู่ที่ดูแล้วน่าอึดอัดใจ และเมื่อคำพูดจู้จี้จุกจิกที่พ่นออกมาเรื่อย ๆ ใส่คนรอบข้างนั้นแน่นอนว่ามันไม่น่ารักและไม่น่าฟังแน่นอน แม้มันคือความห่วงใยและความหวังดีก็ตามแต่ สาเหตุที่ทำให้เรานั้นกลายเป็นคนจู้จี้จุกจิกนั้นบางครั้งมันอาจมาจากความผิดหวังของบุคคลนั้นเช่นการกระทำและพฤติกรรมและเรื่องอื่นๆที่เราไม่พอใจ สมองของเรานั้นเลยสั่งให้เรานั้นแสดงความต้องการที่เรานั้นคาดหวังเอาไว้ภายในจิตใจตอนแรกออกมาจนมันกลายเป็นการจู้จี้จุกจิกที่มากเกินไป แล้วนิสัยจู้จี้จุกจิกแบบนี้นั้นส่งผลกระทบต่อความสัมพันธ์ของเรากับผู้อื่นอย่างไรบ้าง?

1.เป็นพิษในความสัมพันธ์

เมื่อเราจู้จี้จุกจิกมากเกินไปไม่ว่าจะครอบครัวหรือกับคนรอบข้างนั้นจะทำให้กลุ่มคนเหล่านั้นเกิดความรู้สึกอึดอัด บางครั้งพวกเขานั้นอาจรู้สึกเหมือนถูกควบคุมความคิดเห็นบางอย่างไปเลย

2.เกิดปัญหาที่ไม่จำเป็น

จู้จี้จุกจิกมากเกินไปกับเรื่องเล็กน้อยเป็นประจำนั้นไม่ใช่เรื่องที่ดี เพราะมันส่งผลให้คนรอบข้างนั้นรู้สึกย้ำแย่และรู้สึกเหนื่อยมากขึ้นเมื่อเจอกัน

3.จ้องจับผิดกับสิ่งรอบตัว

เมื่อเรารู้สึกไม่พอใจกับอีกฝ่ายความจู้จี้จุกจิกมันจะเข้ามาแทรกแซงทันที เมื่อมันเข้ามาความหงุดหงิดความไม่สบายใจและความรู้สึกไม่ไว้วางใจก็จะเข้ามาสุดท้ายเราก็จะไปจ้องจับผิดคนรอบข้างเสมอไม่ว่าจะเป็นเรื่องอะไร

เลิกจู้จี้จุกจิก-ชีวิตจะมีความสุข

แม้นิสัยจู้จี้จุกจิกจะเป็นกันบ่อยแต่ไม่ใช่ว่ามันจะแก้ไขไม่ได้ เพราะมันมีวิธีเปลี่ยนแปลงตัวเองให้ไม่เป็นคนจู้จี้จุกจิกได้ ด้วยการลดพฤติกรรมบางอย่างที่มากจนเกินไปลง เรื่องไหนที่ไม่ควรคิดไม่ควรพูดก็อย่าพูด เมื่อทำได้คนรอบข้างและเรานั้นก็จะมีสุขภาพที่ดีทั้งจิตใจและกาย ส่วนวิธีแก้นั้นสามารถทำตามได้ดังนี้

1.เปลี่ยนวิธีในการสื่อสาร

บางครั้งการพูดจาถากถางคนที่อยู่ใกล้ตัวและการแสดงออกว่าใส่ใจพวกเขามากจนเกินไปนั้นไม่ใช่เรื่องที่ดี แม้ทำไปโดยไม่รู้ตัวก็ตาม ดังนั้นการเปลี่ยนวิธีการพูดแบบใหม่เช่น เปลี่ยนจากคำสั่งเป็นคำแนะนำที่ห่างไกลจากอารมณ์ที่ทำให้คนฟังนั้นสบายหูมากขึ้น

2.จัดการอารมณ์ของตัวเอง

เมื่อเรากำลังหงุดหงิดกับเรื่องที่ไม่ได้ดั่งใจทั้งกับตัวเองและกับคนรอบข้างนั้นขอแนะนำเลยว่าให้หลบหนีไปจากผู้คนก่อนในตอนที่ยังรู้สึกตัว เพราะถ้าเมื่อไหร่ที่ควบคุมไม่ได้คนรอบข้างและเราแย่แน่นอน โดยเฉพาะในตอนที่โกรธและหงุดหงิดมากๆ

3.รู้ว่าอะไรอยู่เหนือการควบคุมของเรา

เรื่องบางเรื่องที่อยู่เหนือการควบคุมของเรานั้นมักเกิดขึ้นได้บ่อยโดยที่เราไม่รู้ตัว และเมื่อรู้สึกว่ามันจะทีเหตุการณ์แบบนี้เกิดขึ้นนั้นแนะนำว่าให้คุณลองถอยออกมาก้าวหนึ่ง แล้วทำการเบี่ยงเบนความสนใจในเรื่องแย่ๆพวกนั้นเพื่อตัวของเราเอง