Friday, 22 November 2024

เผย 5 เหตุผลที่คน “เชื่อ” ข้อมูล จากเพื่อนในโซเชียลมีเดีย

07 Mar 2023
256

ไลฟ์สไตล์ เหตุผลที่คนเชื่อ ในสิ่งที่เห็น เชื่อในสิ่งที่ได้อ่าน สิ่งที่ลอยอยู่ใน “โลกออนไลน์” ตามแพลตฟอร์มต่างๆ แม้กระทั้งการเป็นเพื่อนที่ไม่รู้จัก 5 ข้อ บอกเลยใครที่สงสัยเกี่ยวกับเรื่องนี้ต้องแวะเข้ามารับชมเรื่องราวที่เรานำมาให้ทุกคนได้ดูในวันนี้ก่อน

สล็อต xo Slotxo

เหตุผลที่คนเชื่อ ในสิ่งที่เห็น เชื่อในสิ่งที่ได้อ่านใน “โลกออนไลน์”

เหตุผลที่คนเชื่อ ในสิ่งที่เห็น เชื่อในสิ่งที่ได้อ่านใน “โลกออนไลน์”

ทุกวันนี้เชื่อว่าทุกคนนั้นใช้ social media Platform ต่างๆมากๆใน Smart Phone และถ้าคุณเป็นคนใช้ Facebook และ Instagram คุณต้องทราบเรื่องจริงเรื่องนี้ก่อนว่า ผู้บริหารระดับสูงของ Facebook และ Instagram ไม่ยอมให้ลูกของพวกเขานั้นมี Account ใน Platform ที่พวกเขาคิดขึ้นมา​

ผู้สร้าง TikTok เคยตอบคำถามกับสื่อต่างประเทศแบบติดๆขัดๆ หลังจากที่ถูกยิงคำถามใส่ว่า เขานั้นอนุญาตให้ลูกของเขานั้นมี Account ในสิ่งที่เขาสร้างขึ้นมาที่เรียกว่า TikTok หรือเปล่าคำตอบของเขาคือไม่อนุญาติด้วยเหตุผลที่ว่าลูของเขานั้นยังเด็กเกินไปที่จะใช้งาน Application พวกนี้หรือแม้กระทั้งสิ่งที่เขาสร้าง

เมื่อสื่อนั้นโต้เถียงตอบกลับไปว่ามีเด็กจำนวนมากสมัครเข้าใช้งานเป็น Account ส่วนตัวใน TikTok เป็นจำนวนมาก เจ้าของ Platform online ที่มาแรงสุดๆในตอนนี้ก็ได้ออกมาแก้ตัวว่า Platform ของเขานั้นสามารถตั้งค่าได้ ครอบครัวญาติผู้ใหญ่สามารถเข้าไปตั้งค่าให้เด็กไม่เข้ามายุ่งได้ (ดูจะเป็นคำตอบที่ไม่รับผิดชอบแม้แต่น้อย)

ส่วนเจ้าของ Twitter Platform ที่ขึ้นชื่อเรื่องของข่าวลือข่าวเด่นข่าวเร็วข่าวด่วนข่าวออนไลน์ข่าวมั่วและข่าวจริงจำนวนมากอย่าง Jack Dorsey ที่เป็นผู้ก่อสร้างก็ได้ขายหุ้นทั้งหมดให้ Elon  Musk เป็นที่เรียบร้อย และต้องขอบอกอย่างนี้ว่า Platform Social Mediaในปัจจุบันได้กลายเป็นส่วนหนึ่งในชีวิตของคนยุคนี้

และมันก็กำลังเป็นศูนย์รวมอาชญากรที่น่าจะเป็นจุดเริ่มต้นการก่ออาชญากรรมมากมายให้กลุ่มคนที่ไม่ดี ที่สามารถดูดเงินผู้คนให้หายไปเกลี้ยงหมดตูดได้อย่าสงไม่น่าเชื่อ ซึ่งมันสร้างความเสียหายให้ผู้คนอย่างไม่สามารถประเมินค่าตีราคาได้จากการใช้ Social Media ที่เป็นดังเครื่องมือที่สร้างความเชื่อใจให้เกิดขึ้นระหว่างบุคคลหลายๆคน

แน่นอนว่าความเชื่อใจความไวใจมันก็เลยกลายมาเป็นเครื่องมือชั้นเลิศในการนำมาทำร้ายนำมาหลอกเงินจากใครหลายๆคน และในวันนี้เราก็จะพาทุกคนไปดู 5 เหตุผลที่ทำให้คุณเชื่อใจคนแปลกหน้าบนโลกออนไลน์ ที่นับว่าเป็นจิตวิทยาแบบเดียวกับที่เราเคยไว้ใจคนใกล้ชิดและคนใกล้ชิดนั่นแหละ ที่หลอกคุณได้อย่างแนบเนียนที่สุด

เหตุผลที่คนเชื่อ-เพื่อนใน Social Media

  1. เพราะการไม่เชื่อใครง่าย ๆ นั้น ทำให้คุณต้องใช้เซลล์สมองมากกว่าปกติ

ลองจินตนาการดูว่าถ้าเรานั้นลืมตามาในตอนเช้าแล้วพบเจอกับคำถามมากมายรอบๆตัว และคุณสามารถตั้งคำถามได้กับทุกคนที่พบเห็นเหตุการณ์แบบนั้นมันจะทำให้คุณหัวจะปวดมากแค่ไหน เช่น คุณไปขึ้นรถโดยสารประจำทางแล้วพบว่าคนขับมีสีหน้าที่เหมือนไม่ได้นอน ถ้าเราไม่ได้เชื่อใครง่ายๆคุณอาจจะคิดเลยเถิดไปว่าเขาอาจไปเมามาจากที่ไหนไปอดนอนเพราะอะไร

และถ้าหากสมองของคุณนั้นตั้งข้อสงสัยอยู่ตลอดเวลาทุกก็จะตั้งคำถามว่า คนชงกาแฟเจ้าประจำนั้นได้ล้างมือก่อนมาชงกาแฟให้คุณได้ดื่มหรือเปล่า ซึ่งนี่เป็นเพียงคำถามเบสิก และถ้าคุณคิดเยอะกว่านี้คิดดูเอาเองแล้วกันว่า การเชื่อคนยากมากมายนั้นจะสร้างความวุ่นวายสุดแสนหัวจะปวดมากมายเพียงใด

และด้วยวิธีคิดแบบเชื่อคนยากๆนั้นจะทำให้คุณกลายเป็นคนมองโลกแย่ขึ้น ดังนั้นเมื่อเพื่อนของคุณใน Social Media คุณอาจจะมองเห็นผ่าน ๆ แล้วไม่ได้ทักท้วง หรือบางครั้งก็ลืมความคิดเห็นทุกอย่างแล้วเชื่อในสิ่งที่เพื่อนใน Social Media ของคุณพูดถึง ดังนั้น จึงไม่ใช่เรื่องแปลกอะไรถ้าคุณจะเชื่อข้อความที่เพื่อนส่งมา หรือแชร์มาในโลก Social Media

  1. เพราะถ้าคุณเลือกที่จะไม่เชื่อโดยง่าย คุณอาจกลายเป็นแกะดำ

ในยุคปัจจุบันนี้ดูเหมือนว่าความคิดเห็นและความเชื่อที่มีมาตั้งแต่โบราณนั้นจะกลายเป็นเรื่องแปลกประหลาดมากขึ้นทุกวัน จนทำให้คนบางกลุ่มนั้นต้องหาวิธีเอาตัวรอดด้วยการเป็นน้ำที่ไหลตามอ่าง ตามเนื้อหาข้อมูลที่ได้ยินมาแม้จะไม่เชื่อหรือไม่เห็นด้วยก็ตาม อย่างเช่น ข้อมูลที่ไม่จริงใน Social Media ถูกแชร์ออกไปเป็นจำนวนมากแต่คุณไม่เห็นด้วยแต่ก็ไม่ได้พูด

เพราะมีคนจำนวนไม่น้อยที่เห็นด้วยและเชื่อในสิ่งนี้ ถึงแม้ว่าคุณนั้นจะตะหงิดใจว่ามันแปลกประหลาดแต่คุณและคนบางกลุ่มนั้นก็ไม่ตอบโต้ไม่ออกคววามคิดเห็น เพราะกลัวว่าจะโดนถล่มโดนด่า หรืออาจกลัวที่จะกลายเป็นคนแปลกแยกแบ่งพักแบ่งพวกในหมู่เพื่อนฝูง

ยกตัวอย่างให้เห็นภาพเช่น ในกลุ่มแชทของทุกคนในตอนนี้จะมีคนอยู่หนึ่งคนที่ชอบนำข้อมูลที่ไม่จริงมาแชร์ และบอกว่ามีคนแชร์มาให้ดูแต่ไม่ได้ตรวจสอบว่ามันคือเรื่องจริงหรือเรื่องไม่จริงก่อนส่งต่อ ซึ่งคุณเองก็รู้ว่าที่เพื่อนแชร์มาเป็น fake news แต่คุณก็เลือกที่จะนิ่งเฉย เพราะไม่อยากจะขัดคอใคร แต่ในความเป็นจริงแล้วคุณกำลังปล่อยให้ข้อมูลผิด ๆ ถูกส่งต่อ

เป็นคนขี้สงสัยมากไป อาจถูกเตะออกจากกลุ่ม

  1. เป็นคนขี้สงสัยมากไป อาจถูกเตะออกจากกลุ่ม

คนที่มีคำถามอยู่ในหัวอยู่ตลอดเวลาในสมัยนี้หลายๆคนเรียกคนกลุ่มนี้ว่าเป็นคนที่น่ารำคาญ และเป็นคนที่ไม่น่าคบเพราะเป็นคนที่มองโลกในแง่ร้ายเกินไป ทั้งๆที่ในความเป็นจริงแล้ว ข้อสงสัยดังกล่าวนั้นมันไม่มีที่ไปที่มาไม่มีความน่าเชื่อถือ แต่ถูกส่งต่อมาอย่างผิดเพี้ยน อย่างเช่น เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในสมัยนี้กับประโยคสั้น ๆ ในการทำธุรกิจแบบแชร์ลูกโซ่

หรือการโฆษณาอ้างว่าธุรกิจนี้ดีลงทุนไม่มากแต่ได้ผลตอบแทบที่สูง ซึ่งทุกคนย่อมทราบดีว่าอะไรทำนองนี้ไม่มีอยู่จริง และไม่มีคนที่ประสบความสำเร็จทางธุรกิจคนไหนที่จะยอมแชร์เคล็ดลับ ยอมแชร์ความสำเร็จของตัวให้คนอื่นรู้ฟรีๆ จะมีก็แค่ข้อความคำพูดที่นำมาให้หาเงินที่มีแต่คำโกหกทั้งนั้น แต่ก็ยังมีคนหลงเชื่อ เพราะเห็นว่ามีการยกตัวอย่างคนที่ลงทุนแล้วได้เงินจริง

ทั้งที่ในความเป็นจริงมันไม่มีความน่าเชื่อถือเลยสักนิด และเมื่อมีคนตั้งข้อสงสัยในความผิดปกติขึ้นมา คนคนนั้นจะตกเป็นจำเลยสังคมทันที และจะถูกหมายหัวว่าเป็นคนขี้อิจฉาเห็นความสำเร็จของคนอื่นไม่ได้ และไม่ต้องการเห็นคนอื่นได้ดี ทั้งที่การตั้งข้อสังเกตดังกล่าวนั้นมีเหตุและผลที่ควรแก่การเชื่อ คนกลุ่มนี้มักจะถูกเตะออกจากกลุ่มทันที

เหตุผลที่คนเชื่อ ใจคนในโซเชียล

  1. เพราะคนเรามักจะเชื่อใจคนที่ใกล้ชิด

สิ่งที่ปฏิเสธไม่ได้คือมนุษย์สามารถเชื่อใจกันได้อย่างง่ายดายโดยที่ไม่สงสัยอะไรเลย เพราะความเชื่อใจนั้นคือเรื่องที่ไม่ต้องทำให้เรานั้นคิดมากเกินไป และ Social Media ก็คือตัวกลางสื่อสารที่เชื่อกันว่า ทำให้เกิดมิตรภาพข้ามฟากฝั่งและเมื่อมีสัมพันธ์กันใกล้ชิด จากการพูดคุยใน Platform ทำให้หลายคนมีเพื่อนใน Social Media มากกว่าในโลกของความเป็นจริง

และมันก็สามารถทำให้หลายๆคนเชื่อใจคนที่ไม่เคยพบเจอหน้าและชื่อมาก่อนได้อย่างง่ายดาย แม้จะไม่เคยรู้ประวัติที่แท้จริงแม้แต่น้อยว่าเขาเป็นคนยังไง แค่เพียงเห็นภาพการใช้ชีวิต และข้อความของเพื่อนใน Social Media ผ่านหน้าฟีดของ Platform แต่การสร้างสัมพันธภาพโดยตรงระหว่างคุณกับคนแปลกหน้าก็ได้เกิดขึ้นแล้ว

เมื่อได้สนทนากันบ่อยเข้าได้เห็นภาพและข้อความเป็นประจำในทุกวัน ความเชื่อใจในตัวเพื่อนใหม่ที่ไม่เคยรู้จักผ่านทาง Social Media ก็เพิ่มมากขึ้น และไม่ต้องแปลกใจถ้าจะมีคนเอาเงินไปลงทุนกับเพื่อนใหม่ที่ไม่เคยรู้จักใน Social Media หรือซื้อของ Online ทั้งที่ยังไม่เคยเห็นของจริง ทั้งหมดเกิดขึ้นเพราะความรู้สึกเชื่อใจ

และถึงแม้จะถูกโกงไปคุณก็จะไม่โกธและให้อภัยอย่างง่ายดายเพราะคิดว่าเขานั้นเป็นเพื่อน อย่างเช่น ผลการศึกษาทางจิตวิทยา ที่เปิดเผยข้อมูลที่น่าสนใจว่า มนุษย์เมื่อถูกโกงหรือถูกหักหลังจากคนที่ไม่รู้จักหรือคนที่รู้จักแค่นิดหน่อย พวกเขาจะสร้างกลไกบางอย่างขึ้นมาป้องกันตัวเองขึ้นมาทันที

แต่ถ้าคนที่โกงหรือหักหลังคือเพื่อนหรือคนที่อยู่กับเราที่รู้จักเราจะเฉยเมย และปล่อยให้เขานั้นกลับมาทำพฤติกรรมแย่ๆ แบบเดิมกับเราอีกครั้ง อย่างในตำราที่บอกว่าเจ็บไม่จำ เพียงเพราะคนที่กระทำแบบนั้นเป็นเพื่อนสนิท เป็นคนข้างกายที่ไว้เนื้อเชื่อใจ หรือคนในครอบครัวที่พวกเขาเชื่อใจ

เพราะเราชอบเรื่องราวสุดเจ๋งของหนุ่มสาว

  1. เพราะเราชอบเรื่องราวสุดเจ๋งของหนุ่มสาว มากกว่าจะสนใจข่าวสารบ้านเมือง

ใน Social Media นั้นมากมายไปด้วยความสำเร็จของผู้คนมากหน้าหลายตาที่เรานั้นไม่สนิท และยิ่งมีเพื่อนใน Social Media มากเท่าไหร่ความสำเร็จมากมายนั้นจะทำให้เราเห็นจนชิน ทั้งจากเพื่อนนักเรียน เพื่อนร่วมคณะที่มหาวิทยาลัย เพื่อนร่วมงาน หรือญาติสนิทมิตรสหาย บน Platform Social Media ทุกคนชอบที่อวดให้เห็นความสำเร็จของตัวเอง

แน่นอนว่าไม่มีใครมานั่งจับผิดมานั่งตั้งคำถามว่าแท้จริงแล้วความสำเร็จของคนเหล่านั้นมาจากที่ไหน เพราะเรื่องราวสุดเจ๋งของคนใกล้ตัวนั้นทำให้หลายคนสามารถสร้าง หรือกลับไปนอนฝันกลางวันได้และจะมีคำพูดในสมองเตือนใจประจำว่า “ถ้าคนนี้ทำได้ ฉันก็ทำได้ ไม่เห็นจะยาก”

แน่นอนว่าเราก็แสดงความชื่นชมและยินดีกับคนเหล่านั้นด้วยข้อความที่ดี แต่ถ้าเอาเข้าจริงถ้าเราอยากสำเร็จแบบเขาเราก็จะก้าวขาเข้าสู่วงการความอยากได้อยากมีอยากดีอยากเด่นของตัวเอง อย่างเช่น มีสาวสวยคนหนึ่งที่หุ่นดีในมือถือบาลดน้ำหนักสวมชุดอะไรก็สวยไปหมด ทำให้สาวอวบบางคนอยากมีหุ่นดีแบบเธอ

มันก็ทำให้สาวบางคนนั้นเผลอไปสั่งซื้อยาลดน้ำหนักที่อวดอ้างว่ามีสรรพคุณทำให้ผอมได้โดยไม่ต้องออกกำลังมาแล้วโดยที่ไม่รู้ตัว และการสั่งของเหล่านั้นมาคุณก็ไม่ทราบเลยว่า แท้จริงแล้วสาวคนนั้นผอมเพรียวหุ่นสวยได้เพราะอะไร และเขาอาจมีเบื้องหลังในการลดหุ่นอย่างไรบ้างกับคลินิกเสริมความงาม

ทั้งหมดทั้งมวลที่กล่าวมานั้นคือ 5 เหตุผลแรกที่ทำให้มนุษย์สามารถเชื่อในสิ่งที่ได้เห็นเชื่อในสิ่งที่ได้อ่านบน Platform Social Media มากกว่าจะเชื่อเหตุผลและเรื่องจริงในอดีต และกว่าที่เราจะรู้ความจริงก็ต้องพิสูจน์ด้วยการเสียเงินเสียทองมากมายดังนั้น ก่อนที่จะเชื่ออะไรบน Platform Social Media ลองตั้งคำถามกับตนเองให้มากๆ