Friday, 22 November 2024

สารพัดข้อถกเถียงเรื่อง “โซเชียลมีเดีย” กับสุขภาพของ “เด็กรุ่นใหม่” Social Media VS. Teen

28 Sep 2022
228

Social Media VS. Teen โซเชียลมีเดียกับสุขภาพ จิตของ “วัยรุ่น” Lifestyle เด็กรุ่นใหม่ที่ยังเป็นประเด็นปัญหาให้คนจำนวนไม่น้อยหยิบยกมันขึ้นมาเถียงกันไม่เลิกไม่แล้วว่า Social Media แท้จริงแล้วมันดีหรือไม่ดีและมีประโยชน์หรือไม่มี เพราะว่าเรื่องราวทั้งดีและไม่ดีนั้นถูกเผยแพร่ออกมาบนโลกออนไลน์จำนวนมาก

สล็อต xo Slotxo

โซเชียลมีเดียกับสุขภาพ จิตของ “วัยรุ่น” ที่ยังเป็นประเด็นปัญหาให้คนเถียงกันไม่เลิกว่า Social Media มันดีหรือไม่ดีและมีประโยชน์หรือไม่มี

โซเชียลมีเดียกับสุขภาพ-จิตของ “วัยรุ่น”

เมื่อไม่กี่ปีที่ผ่านมาหากทุกคนนั้นสังเกตจะเห็นได้ว่า Facebook นั้นต้องรับมือกับปัญหาหลายๆอย่างมามากมาย ในหลายๆเรื่องๆ อาทิ ความเป็นส่วนตัว เหตุการณ์ความรุนแรง และข่าววปลอมต่างๆมากมาย ที่มักมีจุดจบเหมือนๆกันก็คือ ปล่อยให้เรื่องราวพวกนั้นเงียบหายไปจากโซเชียลเองซึ่งว่า “Mark Zuckerberg” CEO ของบริษัทก็ออกมาอธิบายบางอย่างให้ฟัง และสัญญาว่าจะทำให้ Social Media แห่งนี้ดีขึ้น และทุกอย่างก็กลับมาเริ่มต้นใหม่อีกครั้งหนึ่ง สัญญาที่เขานั้นลั่นออกมาดูเหมือนว่าจะน่าเชื่อถือ เพราะผู้คนจำนวนมากมายนั้นหวังว่าพวกเขานั้นน่าจะพยายามแก้ปัญหาที่เกิดขึ้น และทุกคนนั้นก็เฝ้ารอคอยดูว่าทุกอย่างนั้นจะดีขึ้นจริงหลังจากถูกแก้ไข แต่ความเป็นจริงแล้วเรื่องนี้นั้นมันน่าจะไม่ได้เป็นไปตามความหวังของเรา

เพราะว่าช่วงไม่กี่เดือนที่ผ่านมาตามหลักฐานชิ้นใหม่นั้นถูกเผยแพร่ผ่านเว็บไซต์ The Wall Street Journal ที่ชี้ให้เห็นว่าสิ่งที่พวกเขากำลังทำไม่ว่าจะเป็นแรงจูงใจหรืออะไรต่างๆในการแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้นแล้ว ยังสื่อให้เห็นถึงความล้มเหลวของการตัดสินใจของผู้นำพวกเขา ที่รับรู้เรื่องพวกนี้มานานหลายปี แต่ยังปล่อยให้เกิดขึ้นต่อไปโดยไม่ทำอะไรเลย มีหลายเรื่องที่รายงานใน The Wall Street Journal ที่ค่อนข้างน่าสนใจแต่ถ้าว่ามันมีอยู่เรื่องหนึ่งที่น่าสนใจเอามากๆที่บอกว่า “อันตรายต่อสุขภาพจิต” ของกลุ่มเด็กรุ่นใหม่ที่ใช้งาน Social Media ผ่าน Instagram ที่อยู่ภายใต้ Facebook โดยเฉพาะกลุ่มของวัยรุ่นเพศหญิง

Social Media VS. Teen

เอกสารงานวิจัยของ Instagram บอกว่าหนึ่งในสามของกลุ่มเด็กวัยรุ่นเพศหญิงนั้นมีความรู้สึกไม่ดีต่อรูปร่างของพวกเขายิ่งใช้งาน Instagram มากเท่าไหรยิ่งทำให้พวกเขานั้นรู้สึกแย่ลงมากกว่าเดิม  แถมยังทำให้พวกเขานั้นรู้สึกว่า Instagram ทำให้พวกเขานั้นตื่นจระหนกและซึมเศร้าเพิ่มมากขึ้น และที่สำคัญ คือ ในกลุ่มของผู้ใช้งานที่ยัง “เด็กวัยรุ่น” ที่มีความคิดในเรื่องของการ “ฆ่าตัวตาย” โดยคิดเป็น 13 เปอร์เซ็นต์เป็นชาวอังกฤษ และ 6 เปอร์เซ็นต์เป็นชาวอเมริกัน บอกว่า ความรู้สึกนี้สามารถกลับไปดูอดีตกลับไปหา Instagram ที่เชื่อมโยงกันกับปัญหาที่เกิดขึ้นมาได้

ตัวเลขดังกล่าวที่เรานำมานั้นมาจากรายงานผลการทดลองของ Instagram ของพวกเขาเองชัดเจนว่าทุกเรื่องที่เกิดขึ้น Facebook ย่อมมีส่วนรู้เห็นและเป็นผู้ที่ควบคุมข้อมูลเอาไว้ในมือ มีการเผยแพร่และตอบกลับมาจากทาง Facebook ที่นำเอาหลักฐานและรายงานมาหักล้างประเด็นที่เกิดขึ้นมา ซึ่งก็เป็นเรื่องที่ถูกนำมาพูดถึงต่อกันต่อว่า The Wall Street Journal  อาจจะทำให้เรื่องนี้ดูเกินจริวและเลือกให้ค่าแค่บางเรื่องที่อาจจะไม่ใช่ภาพรวมของทั้งหมดใช่หรือไม่ (Nick Clegg) รองประธานฝ่ายกิจการระดับโลกของ Facebook ได้บอกว่าการพาดพิงของ The Wall Street Journal  นั้น “ไม่ถูกต้องเลย”

โซเชียลมีเดียกับสุขภาพ-ของ “เด็กรุ่นใหม่”

เขาบอกว่าพวกเขานั้นไม่ยอมรับการนำเสนองานที่ยบิดเบื้อนและขัดต่อการทำงานของบริษัท เพราะจุดประสงค์จริงๆของการวิจัยภายในของ Facebook “คือการสะท้อนสิ่งที่พวกเขานั้นทำและถามคำถามที่ยาก” ปัญหาที่ซับซ้อนที่ว่ามานั้นมักไม่ได้มาพร้อมกับคำตอบง่ายๆ” แต่ประเด็นเรื่องของผลกระทบของ “adolescent mental health” นั้นไม่ใช่เรื่องที่น่าตื่นเต้นที่เพิ่งเกิด เพราะตามรายงานของ Facebook ปี 2017 ก็เล่าแบบนี้เหมือนกันว่า  platform ของพวกเขาอาจจะส่งผลเสียต่อผู้ใช้งาน แต่มันก็ขึ้นอยู่กับว่าแต่ละคนนั้นเลือกใช้งานมันยังไง

ยกตัวอย่างเช่น งานวิจัยชิ้นหนึ่งบอกว่า จากการทดลองกับกลุ่มของเด็กวัยรุ่นมากกว่า 5,000 คนใน England พบว่าความมั่นใจและสภาพจิตใจของเด็กจะไม่มีความแตกต่างกันสำหรับเด็กวัยประถม แต่เมื่อสำหรับกลุ่มเด็กที่มีอายุประมาณ 14 ปี สุขภาพจิตจะเริ่มแย่ลงมากขึ้น เฉพาะเด็กเพศหญิงที่เห็นชัดเจนกว่ามากเพศชาย จากการทดลองพบว่า เด็กเพศหญิงหนึ่งในสามไม่พึ่งพอใจกับรูปร่างหน้าตาของพวกเขา เมื่อพวกเขานั้นมีอายุ 14 ปี เมื่อเทียบกับมีเพียงหนึ่งในเจ็ดเท่านั้นตอนจบชั้นประถมศึกษา

ประโยชน์และโทษของโซเชียลของวัยรุ่น

สิ่งที่เจอต่อมาก็คือความเกี่ยวเชื่อมโยงกันระหว่างการใช้ Social Media เป็นเวลานานตั้งแต่อายุ 14 ปี จะมีความมั่นใจในตัวเองลดน้อยลง เสริมกับความเครียดทางสภาพจิตใจที่เพิ่มสูงขึ้นเมื่ออายุพวกเขานั้น 17 ปี ในปี 3.32 นักวิจัยนั้นยังพบว่า มีวัยรุ่นหหนุ่มสาวมีโอกาสที่จะป่วยเป็นโรคทาง “จิต” เพิ่มมากขึ้นจากหนึ่งเป็นหก และเพิ่มเป็นจากหนึ่งในเก้าในปี 2017 โดยพวกเขานั้นบอกว่าการใช้ Social Media ติดต่อกันเป็นเวลานานๆมีความเกี่ยวข้องกันกับสุขภาพจิตในทางลบและความมั่นใจในตัวเองก็จะลดลง โดยส่วนมากนั้นเป็นเพศหญิงที่รู้สึกซึมเศร้าและหมดหวัง”

แม้ว่าผลกระทบในทางที่กล่าวมานั้นจะทำให้เรารู้สึกว่า Social Media นั้นก่อให้เกิดแต่เรื่องแต่ราว แต่ในความเป็นจริงแล้วเราก็ไม่สามารถบอกได้แบบนั้นเลย เพราะการจะบอกว่ามันส่งผลโดยตรงให้สุขภาพย่ำแย่นั้นก็พูดได้ไม่เต็มปาก เพราะมีงานวิจัยจำนวนไม่น้อยออกมาแย้งเรื่องที่เกิดขึ้น เพราะการจะบอกว่ามันแย่เลยก็ไม่ได้ เนื่องจากว่ามันก็ช่วยให้เรานั้นสามารถติดต่อสื่อสารกับคนที่อยู่ไกลได้อย่างสะดวกสบาย และอาจทำให้เรานั้นรับรู้ข่าวสารที่รวดเร็วได้ นี้แหละถึงบอกว่าจะไปต่อว่ามันส่งผลเสียส่งผลไม่ดีเลยก็ไม่ได้เพราะเรานั้นก็ยังได้ใช้ประโยชน์จากมันค่อนข้างเยอะอยู่

โซเชียลมีเดียกับสุขภาพ-จิตของเด็กรุ่นใหม่มีประโยชน์หรือไม่

เพราะทางองค์กร Mental Health Foundation ที่อังกฤษบอกว่าพวกเขานั้นไม่อาจบอกได้ว่า technology  online นั้นไม่ดีเพราะมันนั้นทำให้พวกเขาสามารถเข้าถึงกลุ่มคนที่ต้องการความช่วยเหลือจริงๆ และกลุ่มคนที่ไม่ยอมเข้ามารับรักษา เพราะกลัวว่าการตัดสินจากสังคมที่พวกเขาอยู่ด้วย Social Media เป็นสิ่งที่สำคัญสำหรับคนที่มีปัญหาเรื่องสุขภาพ มันทำให้พวกเขารู้ว่ารู้สึกว่าพวกเขามีเพื่อน เพราะมีคนที่เคยผ่านโรคร้ายมาได้ด้วยสิ่งนี้และตอนนี้เขาก็ดีขึ้นแล้ว Social Media เป็นสังคมที่พวกเขานั้นสามารถเข้าไปอยู่ได้ โดยไม่รู้สึกโดดเดี่ยว เป็นความรู้สึกที่พวกเขาไม่สามารถไปหาที่ไหนได้ง่ายๆ เลย