โอนเงิน “ผิดบัญชี” ดึงคืนได้ไหม??!! ทำยังไงถึงจะได้เงินคืน แล้วคนรับต้องคืนเงินมั้ย? “ได้” แค่ทำตามขั้นตอนที่เรานำมาให้ดูในวันนี้

Lifestyle โอนเงินผิดบัญชี ดึงคืนได้หรือเปล่า??!! ทำยังไงถึงจะได้เงินคืน แล้วคนรับต้องคืนเงินมั้ย?  ไม่ต้องตกใจ!! เพราะมีวิธีแก้และสามารถดึงเงินคืนกลับมาหาเราได้ง่ายๆ ด้วยวิธีที่เรานำมาให้ดูในวันนี้ บอกเลยวันนี้ใครที่มีปัญหาในการใช้แอปธนาคารแล้วกลัวว่าโอนผิดบัญชีนั้นต้องไม่พลาดแวะเข้ามาดูกันก่อน

โอนเงินผิดบัญชี ไม่ต้องตกใจ!! เพราะมีวิธีแก้ สามารถดึงเงินคืนได้ง่ายๆตามนี้

เชื่อว่าหลายๆคนนั้นคงเคยใช้บริการ Internet Mobile Banking และอาจใช้งานบริการตู้ ATM ที่เป็นสิ่งอำนวยความสะดวกให้การใช้จ่ายเรื่องการเงินนั้นสะดวกสบาย แน่นอนว่าการใช้จ่ายสิ่งอำนวยความสะดวกพวกนี้จะต้องมีหลายๆคนนั้นเคยผิดพลาด พิมพ์ตัวเลขบัญชีผิดใส่ยอดเงินโอนผิด และมันก็ก่อให้เกิดปัญหาต่างๆนาๆตามมา

บอกเลยใครที่เคยพบเจอเรื่องราวแบบนี้หรือยังไม่อยากพบเจอนั้นต้องไม่พลาดแวะเข้ามาดูเรื่องราวที่เรานำมาให้ดูในวันนี้ก่อน เพราะว่าในวันนี้เราได้ไปนำเอาเรื่องราวการดึงเงินขอเงินคืน ในกรณีที่เรานั้นโอนเงินผิดบัญชีหรือใส่จำนวนเงินเกินไป ด้วยวิธีง่ายๆที่สามารถทำตามเองได้ที่ด้านล่างนี้เลย

กรณีที่โอนเงินผิดบัญชี และใส่จำนวนเงินผิด

• แจ้งปัญหากับธนาคารที่เราเลือกใช้บริการโอนเงิน เช่น
• ส่งหลักฐานที่เกี่ยวข้อง
• แจ้งปัญหากับธนาคารที่เกิดขึ้น
• ธนาคารที่เราเลือกใช้บริการโอนเงินจะแจ้งวันเวลาที่ใช้ตรวจสอบการโอนเงิน
• ธนาคารติดต่อผู้รับโอนเงินผิด
• เพื่อให้คนที่รับเงินไปยินยอมคืนเงิน
• ธนาคารแจ้งผลการดำเนินการ

กรณีผู้รับโอนยินยอมคืนเงิน

• ธนาคารเราเลือกใช้บริการจะโอนเงินคืนให้เรา

กรณีผู้รับโอนไม่ยินยอมคืนเงิน

• เราคือผู้เสียหายสามารถเดินทางไปแจ้งความกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ เพื่อขอออกคำสั่งทางเกี่ยวกับเรื่องนี้ให้ธนาคารของเราเลือกใช้บริการดำเนินการอายัดบัญชีของคนที่เราโอนเงินผิดไป
• หรือให้ขอให้เปิดเผยข้อมูลบัญชีให้แก่เจ้าหน้าที่ตำรวจ เพื่อดำเนินการทางกฎหมายต่อไป

กรณีคนอื่นโอนเงินมาให้เราผิดบัญชี

1.หากมีคนติดต่อมาจากธนาคารแจ้งว่า

• มีการโอนเงินผิดเข้ามาในบัญชีเรา
• ควรตรวจสอบก่อนว่ามีความผิดปกติอะไรหรือเปล่า
• เพื่อป้องกันการถูกมิจฉาชีพหลอก

2.สอบถามว่ามาจากธนาคารอะไร

• สอบถามชื่อ-นามสกุล
• สอบถามเบอร์โทรศัพท์ที่สามารถติดต่อกลับได้

3.ปลายสายจะต้องบอกรายละเอียดที่เกิดขึ้นโดยต้องระบุข้อมูลที่สำคัญได้อย่างชัดเจน เช่น

• วันที่ เวลา
• จำนวนเงิน
• ช่องทางการโอน เช่น Mobile Banking หรือตู้ ATM
• หลักฐานอื่น มากกว่าที่จะสอบถามข้อมูลส่วนตัวจากเรา

4.ปลายสายจะต้องแจ้งให้เรา เช็ครายละเอียดบัญชีว่ามีเงินเข้าจริงไหม

• จะต้องไม่เร่งรีบให้เราโอนเงินคืนอย่างเดียว
• จะต้องให้ข้อมูลเราเยอะที่สุด
• จะต้องให้เราตรวจสอบบัญชีก่อน

5.เราจะต้องตรวจสอบบัญชีของตัวเราเองว่ามียอดเงินโอนเข้ามาที่บัญชีของเรา อย่างที่มีคนโทรมาแจ้งเราหรือเปล่า ด้วยช่องทางที่เรานำมาให้ดูดังนี้

• Internet Banking สามารถตรวจสอบได้ทันที
• Mobile Banking สามารถตรวจสอบได้ทันที
• ตรวจสอบการโอนเงินได้ที่ตู้ ATM
• อัพเดตสมุดบัญชีที่ตู้ ATM

6.หากตรวจสอบแล้วพบว่ามีเงินโอนเข้ามาผิดจริงๆ และมันก็ไม่ใช่เงินเราเราควรทำตามดังนี้

• ต้องโอนเงินกลับไปให้เจ้าของบัญชี
• ถ้าเราไม่คืนเจ้าของตัวจริง เจ้าของเงินสามารถฟ้องร้องเพื่อเรียกเงินคืนจากเราได้

กรณีเกิดความผิดพลาดจากธนาคารโดยตรงที่ทำผิดพลาดเอง

• ธนาคารสามารถดำเนินการแก้ไขข้อมูลเองได้

กรณีที่พนักงานเป็นคนที่ทำหน้าที่ผิดพลาดเอง อย่างเช่น

• กรอกเลขบัญชีผิด
• กรอกจำนวนเงินผิดจะ
• พนักงานจะต้องติดต่อไปยังเจ้าของบัญชีคนรับโอนเพื่อขอให้โอนเงินกลับมา

ต้องขอบอกเลยว่าวิธีป้องกันปัญหาที่ดีที่สุดในการใช้งานธุรกรรมทางการเงินนั้นก็คือ ตรวจสอบข้อมูลการโอนเงินให้ถูกต้อง ก่อนยืนยันการโอนเงินทุกครั้ง เช่น เช็คเลขบัญชีอย่างถี่ถ้วน อ่านชื่อของคนที่เราจะโอนเงินให้ถูก ตรวจสอบจำนวนเงินให้ดีทุกครั้งที่จะยืนยันโอนเงิน