นักวิจัยเผย!!การใจดีกับคนอื่น คนที่ถูกทำดีด้วย จะมี แนวโน้ม แบ่งปันสิ่งดี ต่อไปให้กับคนอื่นมากขึ้น

Lifestyle นักวิจัยเผย!! การใจดีกับคนอื่น คนที่ถูกทำดีด้วย จะมี แนวโน้ม แบ่งปันสิ่งดี ต่อไปให้กับคนอื่นมากขึ้น เพราะสามารถนิสัยเหล่านี้ “ติดต่อ” สู่คนใกล้ชิดได้ จากงานวิจัยของ The University of Chicago, UChicago ที่พึ่งค้นพบความจริงบางอย่างเกี่ยวกับเรื่องนี้ที่ไม่น่าเชื่อว่ามันจะเกิดขึ้นได้จริง

การใจดีกับคนอื่น วิจัยชี้!!สามารถนิสัยเหล่านี้ “ติดต่อ” สู่คนใกล้ชิดได้

เชื่อว่าไม่เคยมีใครที่เกิดมาแล้วไม่เคยได้ยินคำสอน ที่เหล่าบรรนดาผู้ใหญ่ทั้งหลายนั้นค่อยพร่ำบอกพร่ำสอนอยู่ตลอดเวลาว่า “ให้เรานั้นทำดีกับคนอื่น” ซึ่งการทำดีกับคนอื่นสำหรับคนบางคนนั้นก็เป็นเรื่องที่ทำได้ยากมากๆ แม้จะคอยมีคนพร่ำบอกพูดกรอกหูอยู่เป็นประจำก็ตาม ซึ่งบางคนนั้นก็สามารถทำดีได้กับทุกคนแบบไม่มีข้อยกเว้นเลยซึ่งมันก็เป็นเรื่องที่แปลกประหลาดมากๆ ซึ่งเรื่องราวพวกนี้มันก็ถือเป็นว่าเป็นเรื่องที่น่าเสียดายมากจริงๆ เพราะเมื่อไม่นานมานีไช้ได้มีงานวิจัยใหม่ของ The University of Chicago, UChicago ที่พวกนักวิจัยนั้นเพิ่งจะค้นพบเลยว่า “การทำความดี” กับคนอื่นนั้นจริงๆ แล้ว มีผลดีในระยะยาวกับทั้งตัวของผู้ที่กระทำและสังคมกว่าที่หลายๆ คนคิด

เพราะการกระทำดังกล่าวนั้นไม่เพียงส่งผลให้กับผู้ที่ได้รับจะรู้สึกดีมากๆขึ้น จากการกระทำของตัวเราเท่านั้นแต่ถ้าว่าคนที่ได้รับความหวังดีและความดีของเราไป ยังมีแนวโน้มว่าพวกเขาเหล่านั้นมีโอการที่จะทำดีกับคนอื่นมากขึ้นอีกด้วย โดยนักวิจัยนั้นยืนยันแนวคิดนี้ของพวกเขาด้วยการทดลองมากมายหลากหลายชิ้น ในการทดลองครั้งแรกของพวกเขานั้นได้ไปค้นหากลุ่มอาสาสมัครจำนวน 84 คน ซึ่งอาสาสมัครเหล่านั้นจะได้เลือกว่า จะแบ่งเครื่องดื่มรสชาติช็อกโกแลตร้อนให้กับคนอื่นที่ไม่รู้จัก หรือว่าพวกเขานั้นจะเก็บเอาไว้ทานเพียงคนเดียว ก่อนที่คนที่เลือกแบ่งเครื่องดื่มจะมีโอกาสได้คาดเดาคะแนนอารมณ์ของผู้ที่ได้รับการแบ่งปัน

หลังจากผลการทดลองสิ้นสุดนักวิจัยก็พบว่า อาสาสมัครส่วนมากคิดว่าผู้ที่ได้รับการแบ่งปันเครื่องดื่มที่พวกเขาแบ่งให้นั้นจะมีคะแนนอารมณ์อยู่ที่ 2.7 (คะแนนต่ำสุดคือ -5 และสูงสุดคือ 5) ในทางกลับกันนั้นกลุ่มคนที่ถูกำความดีด้วยจะมีคะแนนเฉลี่ยอยู่ที่ 3.5 ซึ่งมันแปลว่าคนส่วนมากจะอารมณ์ดีขึ้นมากกว่าที่เราคิดเวลาถูกทำดีด้วย เท่านั้นยังไม่พอในการทดลองอีกครั้งที่พกวเขานั้นได้ทดลองกับลบอาสาสมัคร ในเงื่อนไขที่พวกนักวิจัยนั้นจะนำเงินจำนวน 100 ดอลลาร์ ให้กับกลุ่มอาสาสมัครหรืออาจได้รับจากอาสาสมัครกลุ่มอื่นๆโดยที่พวกเขานั้นไม่ทราบว่าเป็นเงินจากการทดลอง

เมื่อนักวิจัยทดสอบให้อาสาสมัครลองเลือกว่าจะแบ่งเงินจำนวนกี่บาทให้กับคนที่พวกเขานั้นไม่รู้จัก และคนที่ได้รับเงินจากกลุ่มอาสาสมัครกลุ่มอื่นๆจะแบ่งจำนวนเงินที่ได้รับออกมาได้เท่ากันหรือเปล่า รวมไปถึงอาสาสมัครที่ได้เงินจากนักวิจัยโดยตรงด้วย(เฉลี่ย 48.02 ดอลลาร์ เทียบกับ 41.2 ดอลลาร์) ซึ่งทั้งหมดทั้งมวลที่กล่าวมานั้นสามารถสรุปได้ว่า “ความใจดี” นั้นถือว่าเป็นสิ่งที่ดีมากๆสำหรับมนุษย์และมันเป็นสิ่งที่พวกเรานั้นนำมาติดต่อกันได้มากกว่าที่พวกเรานั้นรับรู้ เพราะผู้ที่ได้รับประโยชน์จากความใจดีทุกอย่างที่ผ่านเข้ามานั้น จะมีโอกาสที่จะแพร่กระจายความเมตตาแบบที่พวกเขาได้รับออกไปเช่นกัน ดังนั้นหากเราอยากมีส่วนช่วยให้สังคมรอบตัวของเรานั้นน่าอยู่มากขึ้นกว่าเดิม เราก็ควรเริ่มจากการเป็นคนใจดีก่อน ถึงแม้ว่าความใจดีสำหรับบางคนนั้นจะเป็นเรื่องที่ทำยากก็ตาม