Friday, 20 September 2024

มีขนหรือไม่มีขน แล้วถ้ามันดีจะมีการกำจัดขนในยุคนี้มีไว้เพื่ออะไร!!ถ้าไม่ดีขนจะขึ้นมาทำไม!??

24 Jun 2022
269

มีขนหรือไม่มีขน อะไรดีกว่ากันแล้วถ้ามันดีจะมีการกำจัดขนในยุคนี้มีไว้เพื่ออะไร!!ถ้าไม่ดีขนจะขึ้นมาทำไม!?? หรือมันขึ้นอยู่กับค่านิยมและไลฟ์สไตล์ของยุคสมัยที่เปลี่ยนไปตามกาลเวลา เพราะในอดีตนั้นชาวอเมริกันนั้นก็นิยมโกนขนเพื่อความสวยงามกันเป็นอย่างมาก

สล็อต xo Slotxo

มีขนหรือไม่มีขน ในยุคสมัยนี้แบบไหนดีกว่ากันหรือมันขึ้นอยู่กับค่านิยมของยุคสมัย!??

มีขนหรือไม่มีขน-ในยุคสมัยนี้แบบไหนดีกว่ากัน

การโกนขนตามส่วนต่างๆของร่างกายนั้นมีมานานตั้งแต่ในอดีตแล้ว แม้ว่าจะไม่มีเทคโนโลยีต่างๆเข้าช่วยเหลือให้การโกนขนนั้นสามารถทำได้ง่าย อย่างเช่น น้ำยากำจัดขนและการเลเซอร์ แต่คนสมัยโบราณนั้นก็ยังสามารถกำจัดขนด้วยวิธีต่างๆมาได้ ในอียิปต์นั้นบอกว่าคนอียิปต์ยุคกรีกรวมถึงยุคจักวรรดิโรมัน นั้นมีความเชื่อบางอย่างเกี่ยวกับขนว่า คนที่สะอาดและบริสุทธิ์นั้นคือคนที่ไม่มีขน ยิ่งแข็งแรงมากแค่ไหนก็ยิ่งต้องกำจัดขนให้สะอาดมากเท่านั้น และนี่การกำจัดขนในยุคนนั้นทั้งชายทั้งหญิงจึงเป็นเรื่องปกติที่ทุกคนนั้นนิยมทำกัน

ในขณะที่เอเชียตะวันออกมาในแนวที่สวนทางเพราะเชื่อกันว่าเส้นขนนั้นคือสิ่งสำคัญห้ามตัดเด็ดขาด เนื่องจากที่ไปที่มาของมันนั้นมาจากพ่อแม่ผู้ให้กำเหนิด ดังนั้นการตัดผมจึงเป็นสิ่งต้องห้าม สังเกตได้จากภาพยนตร์จีนเก่าและใหม่ที่นักแสดงนั้นมีแต่คนผมดกดำยาว ส่วนขนคิ้วนั้นก็หนาเรียงตัวกันสวยงามทั้งผู้หญิงและผู้ชาย หนึ่งในประเทศที่ให้ความสำคัญกับขนนั้นก็คือเกาหลี ส่วนสำคัญของขนที่คนเกาหลีเอาไว้เป็นจุดสังเกตนั้นก็คือ “ขนบริเวณหัวหน่าว” ถ้าขนตรงนี้ของหญิงสาวขึ้นนั้นคือสัญลักษณ์ที่บ่งบอกว่าหญิงสาวคนนี้นั้นสุขภาพดีและโตเป็นสาวเรียบร้อยแล้ว และนี่คือเหตุผลที่ทำให้คคนเกาหลีนิยมปลูกขนบริเวณหัวหน่าวกันอย่างมากมายในช่วงหนึ่ง

ในยุคสมัยนี้แบบไหนดีกว่ากันหรือมันขึ้นอยู่กับค่านิยมของยุคสมัย

เมื่อถามถึงยุคนี้แน่นอนว่าความเชื่อโบราณที่เรากล่าวมาเมื่อตอนแรกนั้นจางหายไปกับสายลมเป็นที่เรียบร้อยแล้ว หนึ่งมุมของขนที่ผู้เชี่ยวชาญบอกว่ามันมีประโยชน์ในหลายๆด้านนั้นก็น่าคิดตามเช่น มันสามารถป้องกันการสูญเสียความร้อน ช่วยดักจับฝุ่น ช่วยป้องกันสิ่งสกปรก และลดการเสียดสีที่เกิดขึ้นกับผิวหนัง แม้จะบอกว่ามันมีประโยชน์แต่ผู้คนนั้นก็เลือกที่จะเอาขนออกไปด้วยการกำจัดวิธีต่างๆเช่นการโกนอยู่ดี โดยเฉพาะหญิงสาวที่ดูจะชอบการเอาขนออกจากร่างกายมากกว่าชาย

การโกนขนเกิดขึ้นเพื่อ “ความสวยงาม” นั้นเริ่มขึ้นตั้งแต่เมื่อไหร่?

“Rebecca Herzig นักเขียนหนังสือบอกว่ามันน่าจะมาจาก ช่วงที่การล่าอาณานิคมของชาวอเมริกัน ที่ต้องการอยากสร้างความแตกต่างจากกลุ่มคนที่อาศัยอยู่ในป่า เนื่องจากกลุ่มคนบางกลุ่มนั้นมีหนาวดมีเคามีผมที่หนาแลดูรกรุงรัง พวกเขาจึงต้องการความแตกต่าง”

นักธรรมชาติวิทยาชาวตะวันตกในยุคนั้นยังหยิบยกทฤษฎีที่ว่า 

“การที่ส่วนต่างๆในร่างกายไม่มีขน คือการบ่งบอกว่านี่คือการพัฒนาเสน่ห์ที่รุนแรงที่ดึงดูดเรื่องเพศ” และตั้งแต่นั้นเป็นต้นมาชาวตะวันตก โดยเฉพาะชาวอเมริกันจึงพากันชื่นชอบการกำจัดขนเพื่อความสวยงามตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา”

การโกนขนเกิดขึ้นเพื่อ “ความสวยงาม” นั้นเริ่มขึ้นตั้งแต่เมื่อไหร่?

เมื่อสถานการณ์ต่างๆทำให้สหรัฐอเมริกากลายเป็น “มหาอำนาจ” ไม่ต้องเล่าเลยว่าค่านยิมต่างๆเกี่ยวกับวัฒนธรรมและวิถีชีวิตความเป็นอยู่ของผู้คนนั้นจะแพร่กระจายออกไปทั่วโลกได้รวดเร็วมากขนาดไหน โดยเฉพาะเรื่องเพศที่ในปี 1915 ได้มีผู้คนมากมายออกมาต่อต้าน “ขนใต้วงแขน” และเหตุการณ์นี้ทำให้หลายๆคนกังวลโดยเฉพาะผู้หญิง เรื่องที่แย่ไปกว่านั้นก็คือ หลังช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 ผู้คนนั้นตอกย้ำว่าผู้หญิงที่ไม่มี “ขน” เท่านั้นคือผู้หญิงที่สวย

จากสิ่งที่เรากล่าวมาเมื่อกี้นั้นคือเหตุผลที่ทำให้ผู้หญิงหลายๆคนนั้นรู้สึกว่าตัวเองนั้นต้องกำจัดขนบนร่างกายออกให้หมด ก่อนที่พวกเขานั้นจะออกจากบ้านแต่ทำกิจกรรมต่างๆเช่นกิจกรรมบนเตียง เพื่อเสริมความมั่นใจให้กับตัวเอง และถ้าไม่กำจัดขนพวกเขาจะเสียความมั่นใจไปเลย ถึงแม้ว่าคนสมัยก่อนจะมองว่าคนไม่มีขนคือคนสวยงามก็ไม่สามารถนำมาใช้ในยุคนี้ได้ เพราะยุคสมัยนั้นเปลี่ยนและแตกต่างกันไป และมาตรฐานความงามของสังคมนั้นก็ไม่ได้มีข้อกำหนด ดังนั้นการที่ผู้คนจะมีขนหรือไม่มีขนมันก็คือสิทธิส่วนบุคคลที่แล้วแต่ใครจะพอใจแบบไหน