บินลัดฟ้าพาไปเที่ยว Jvari Monastery โบสถ์เก่าแก่สุดสวยงามที่ UNESCO การันตีให้เป็นมรดกโลกเมื่อปี ค.ศ. 1994

บินลัดฟ้าพาไป เที่ยว Jvari Monastery โบสถ์แห่งไม้กางเขนศักดิ์สิทธิ์แห่งคริสต์ศตวรรษที่ 6 ที่ UNESCO การันตีให้เป็นมรดกโลกเมื่อปี ค.ศ. 1994 บอกเลยว่าสถานที่ท่องเที่ยวที่เรานำมาให้ทุกคนได้ดูในวันนี้ไม่เพียงแค่สวยงามแต่ยังมีเรื่องราวเรื่องเล่าความศักดิ์ซ่อนเอาไว้ให้ทุกคนไปค้นหาอย่างมากมาย

เที่ยว Jvari Monastery โบสถ์แห่งไม้กางเขนศักดิ์สิทธิ์แห่งคริสต์ศตวรรษที่ 6

Jvari Monastery หรือที่เรารู้จักกันในชื่อ วิหารจวารี ต้องขอเล่าก่อนนะว่าวิหารจวารีนั้นคือโบสถ์แห่งไม้กางเขนที่ว่ากันว่าศักดิ์สิทธิ์มากที่สุดของศาสนาคริสต์นิกายออโธดอกซ์ แถมว่าทาง UNESCO ยังการันตีความสวยงามสุดน่าทึ่งนี้ให้เป็นมรดกของโลกเมื่อปี ค.ศ. 1994

สถานที่ตั้งของวิหารจวารีแห่งนี้นั้นตัวอยู่ที่ Mtskheta เมืองหลวงเก่าของจอร์เจีย จุดสังเกตของที่นี้คือเป็นจุดตัดของแม่น้ำอักราวิและแม่น้ำมิกวาริ ส่วนการก่อสร้างนั้นคาดการณ์ว่าน่าจะสร้างขึ้นมาเมื่อเมื่อคริสต์ศตวรรษที่ 6

สำหรับความสวยงามภายในโบสถ์แห่งนี้นั้นมีไม้กางเขนที่มีขนาดใหญ่ว่างตั้งโดดเด่นเป็นสง่าอยู่ใจกลางโถง แถมยังมีตำนานเรื่องเล่าขานกันอย่างหนาหูต่อกันมาว่า “นักบุญนีโน” (Saint Nino) แห่งคัปปาโดเกีย และเขาผู้นี้นั้นเป็นคนที่นำไม้กางเขนขนาดใหญ่ที่ตั้งโชว์ในตอนนี้เข้ามา

พร้อมกันกับนำศาสนาคริสต์เข้ามาในจอร์เจียครั้งที่หนึ่งประมาณช่วงต้นศตวรรษที่ 4 ลือกันหนาหูเลยในช่วงนั้นว่า เมื่อนักบุญนีโนปักไม้กางเขนที่เขานำมาในคราวนั้นลงบนพื้นดิน ได้เกิดเหตุการณ์ปาฎิหาริย์ที่ทำให้ผู้คนทั่วไปและทำให้กษัตริย์และชาวเมืองต่างๆที่อยู่ในระแวกนั้นหันมานับถือคริสต์ศาสนาอย่างจริงจังตั้งแต่บัดนั้นเป็นต้นมา

บอกเลยว่า Jvari Monastery ที่เรานำมาให้ดูในวันนี้คือสถานที่ท่องเที่ยวสำหรับคนที่กำลังมองหาที่เที่ยวแบบครบเครื่องที่ขึ้นชื่อว่า สวยงาม,ศักดิ์สิทธิ์,แถมยังมีประวัติศาสตร์ที่ยาวนาน นั้นต้องไม่พลาดและยิ่งในเดือนหน้าที่ประเทศของเรานั้นเปิดแล้วแนะนำเลยว่าต้องรีบจองตั๋วบินไปจอร์เจียด่วนเลย