รู้หรือไม่ว่า!! ตะคริว เกิดจากอะไร แล้วมีวิธีทำให้อาการปวดแบบนั้นบรรเทาลงได้อย่างไร!? ใครที่ยังไม่รู้มาดูคำตอบและวิธีแก้ได้เลยที่นี่ เพราะเราได้ไปนำเกร็ดความรู้เกี่ยวกับ สุขภาพ ในเรื่องของการดูแลตัวเองเมื่อ ตะคริว นั้นเกิดขึ้นที่ส่วนต่างๆของร่างกายเราอย่างง่ายๆ ที่หลายคนนั้นไม่รู้ว่าทำแบบนี้แล้วมันจะหาย
ตะคริว เกิดจากอะไร แล้วมีวิธีทำให้อาการบรรเทาลงได้อย่างไร!? มาดูได้ที่นี่
เชื่อว่ายังไม่มีมนุษย์คนไหนที่ไม่เคยไม่ได้สัมผัสกับความเจ็บปวดที่เรียกว่า ตะคริว อย่างแน่นอนโดยเฉพาะกับกลุ่มคนที่ไม่ค่อยได้ขยับขเยือนร่างกาย หรือนั่งนอนในท่าเดิมๆตลอดทั้งวัน และรวมถึงคนที่ไม่ยืดร่างกายก่อนออกกำลังกาย และอีกสาเหคุหลักที่ทำให้เกิดอาการดังกล่าวคือ อากาศเย็นจัด
และในวันนี้เราก็ได้ไปนำเกร็ดความรู้ง่ายๆ ที่สามารถทำให้ ตะคริว หายได้ในเวลาที่สั้นมาฝาก ซึ่งเป็นคำแนะนำที่มาจากโค้ชวิทที่เป็นผู้เผยแพร่เกร็ดความรู้นี้ แต่ก่อนที่เราจะไปทราบวิธีทำให้ ตะคริว หายขาดนั้นเดี่ยวเราไปทำความรู้จักกับ ตะคริว ก่อนว่ามันคือสาเหตุและมีที่ไปที่มาอย่างไร
ตะคริว คืออะไร
มันคืออาการที่เกิดขึ้นเมื่อกล้ามเนื้อส่วนต่างๆของเรานั้นหดและเกร็ง จนส่ลผลให้มันเป็นปั้นๆกลมๆที่แข็งๆปูดขึ้นมา ซึ่งอาการดังกล่าวนั้นจะเกิดขึ้นอย่างรวดเร็วแบบที่ไม่สามารถคาดเดาได้ ซึ่งเมื่อมันเกิดขึ้นมันก็อาจจะทำให้เรารู้สึกเจ็บปวดได้ อาการดังกล่าวนั้นสามารถเกิดขึ้นได้กลับทุกส่วนในร่างกาย และสามารถเกิดขึ้นได้กับหลายๆที่หรือกล้ามเนื้อหลายๆมัดพร้อมๆกัน
อาการดังกล่าวนั้นสามารถเกิดขึ้นได้ทุกช่วงเวลา และมันก็มักจะเกิดกับช่วงเวลาที่สำคัญจนส่งผลอันตรายถึงชีวิต เช่น เวลาที่กำลังว่ายน้ำ เวลาที่กำลังวิ่ง เวลาที่กำลังออกกำลังกาย เวลาที่เล่นกีฬา ซึ่งช่วงเวลาที่สำคัญที่กล่าวมานั้นกล้ามเนื้อของเรานั้นชอบเกิดการหดตัวเข้าไปอย่างรวดเร็วโดยที่เราไม่ทันตั้งตัวจนอาจจะทำให้เกิดอันตรายต่อชีวิตได้อย่างไม่คาดฝัน
และบางคนนั้นก็มักเจออาการดังกล่าวในตอนที่นอนหลับตอนกลางคืน จนทำให้ต้องตื่นขึ้นมากลางดึกเพื่อรับรู้ความรู้สึกเจ็บปวดนี้ได้อีกด้วย ซึ่งอาการดังกล่าวนั้นมักเกิดกับกล้ามบริเวณเนื้อขา ส่วนช่วงอายุที่มักเจออาการนี้ก็คือคนวัยกลางคนและคนแก่ บางคนนั้นก็พบเจอกับอาการนี้ที่หน้าท้อง และที่ด้านหลัง และพบได้บ่อยในคนวัยกลางคนและผู้สูงอายุ บางรายก็เกิดที่ หลัง หรือหน้าท้อง
อาการดังกล่าวนั้นสามารถหายไปเองได้ภายใน 2-15 นาที แล้วทุกอย่างจะสงบลง แต่จะมีบางคนเท่านั้นที่ต้องพบเจออาการเจ็บปวดเรื้อรังที่จะรู้สึกเจ็บปวดนานข้ามวันอาการถึงจะดีขึ้นตามลำดับ แน่นอนว่าอาการนี้มันทำให้เรานั้นพบเจอกับปัญหาในการชีวิตไม่น้อย ดังนั้นเราจึงต้องมาทำความรู้จักมันให้มากทั้งการรักษาการดูและการป้องกัน
สาเหตุของการเกิดตะคริว
อาการดังกล่าวนั้นสามารถเกิดขึ้นมาได้มากมายหลากหลายสาเหตุ ที่เรานั้นไม่สามารถรู้ได้เลยว่ามันเป็นเพราะอะไร อีกทั้งยังไม้สามารถบังคับมันได้อีกต่างหาก ส่วนสาเหตุหลักๆที่ทำให้เกิดอาการเจ็บปวดนที่ทางการแพทย์และคุณหมอผู้เชี่ยวชาญนั้นบอกมาน่าจะมีดังนี้
1.เอ็นและกล้ามเนื้อไม่ได้ยืดตัวบ่อยๆ
- ส่งผลทำให้มีการหดรั้งหรือเกร็งได้ง่าย
2.เซลล์ประสาทและเส้นประสาทที่ทำหน้าที่ดูแลบังคับการหดและคลายตัวของกล้ามเนื้อทำงานผิดปกติ
- ในขณะนอนหลับ
- ในบางเวลา
3.เกิดได้จากโรคบางโรค เช่น
- โรคตับ
- โรคไต
4.เกิดจากการใช้ยาบางกลุ่ม เช่น
- ยาขับปัสสาวะ
- ยาราโลซิฟีน
5.การดื่มน้ำน้อยเกินไป
- ทำให้เซลล์กล้ามเนื้อขาดน้ำ
6.เกลือแร่ในร่างกายไม่สมดุล โดยเฉพาะ
- โซเดียม
- โพแทสเซียม
- ท้องเดิน
- อาเจียน
- เสียเหงื่อมาก
7.ภาวะแคลเซียมในเลือดต่ำ
- ก็อาจเป็นสาเหตุที่ทำให้เป็นตะคริวได้บ่อย
8.ตั้งครรภ์อาจเป็นตะคริวได้บ่อยขึ้น
- เนื่องจากระดับของแคลเซียมในเลือดต่ำ
9.บาดเจ็บที่กล้ามเนื้อ
- อาจเกิดจากการกระแทกระหว่างเล่นกีฬา
10.ใช้กล้ามเนื้อส่วนนั้นทำงานหนักมากเกินไป
- ระหว่างการทำกิจกรรมออกแรง
- การออกกำลังกาย
- เดิน
- วิ่ง
- ว่ายน้ำ
11.เลือดไปเลี้ยงกล้ามเนื้อไม่พอ
- จากการออกกำลังกายหนัก
- ออกกำลังกายแบบวอร์มอัพไม่พอ
12.การนอน นั่ง หรือยืน ในท่าที่ไม่สะดวกนานๆ
- ส่งผลทำให้การไหลเวียนของเลือดไม่สะดวก
13.ผู้ที่มีภาวะหลอดเลือดแดงแข็ง
- หลอดเลือดตีบตันๆ
- ทำให้ระบบไหลเวียนเลือดไม่ดี
จะแก้ตะคริวอย่างไร
1.อาการดังกล่าวนั้นสามารถหายได้เมื่อเราพบเจอในตอนที่เรานั้นออกกำลังกายหรือเล่นกีฬาบนพื้นดิน ด้วยการนวดบริเวณที่มีอาการประมาณ 1-2 นาที หากอาการยังไม่หายดี ให้ค่อยๆนวดไปเรื่อยๆ
2.ถ้าอาการนี้เกิดขึ้นในตอนที่เรานั้นว่ายน้ำหรือเล่นน้ำอยู่ อย่างแรกคือให้เราตั้งสติก่อนหลังจากนั้นให้พยายามลอยตัวในน้ำให้ได้ด้วยวิธีต่างๆ ก่อนจะค่อยๆยกขาขึ้นมาบนผิวน้ำแล้วดึงขาขึ้นมาหาใบหน้า
- ถ้าหากอาการนี้เกิดขึ้นที่หลังขาอ่อน แนะนำให้ทำให้ตัวอยู่ในท่าคว่ำ และงอข้อเท้าเข้ามาที่ข้างหลัง
- ถ้าหากมันเกิดขึ้นที่ข้อเท้าให้อยู่ในท่านอนหงายและให้เท้าอยู่เหนือน้ำ แล้วนวด หรือหมุนสบายๆ ที่ข้อเท้า
3.หากอาการนี้ขึ้นเมื่อตอนที่นอนหลับอยู่ ให้ยืดขายืดส่วนที่ปวดออกมาให้ตรง และกรงอปลายเท้าขึ้น ค้างไว้ 5 วินาที ทำแบบนี้ 5-10 ครั้ง แล้วนวดกล้ามเนื้อขาเป็นวงกลมจนกว่าจะหาย
4.สำหรับคนท้องที่พบเจออาการดังกดล่าวให้รับพบแพทย์ทันที เพราะมันอาจเป็นสัญญาณของภาวะแทรกซ้อนที่ร้านแรงได้
จะป้องกันตะคริวกินอย่างไร
1.อบอุ่นร่างกายยืดเส้นยืดสายกล้ามเนื้อ
- ก่อนเริ่มออกกำลังกาย
- ก่อนเล่นกีฬา
- ก่อนว่ายน้ำ
- ก่อนวิ่ง
2.ดื่มน้ำให้เพียงพอ
- อย่างน้อยวันละ 8-10 แก้ว
- หรือดื่มน้ำมากกว่า 2 ลิตร
3.กินอาหารที่มีประโยชน์ เช่น
- แคลเซียม
- โพแทสเซียม
- แมกนีเซียม
- ปลา
- นม
- ผักโขม
- ลูกเกด
- กล้วยหอม
4.ดื่มนมก่อนนอนเพิ่มแคลเซียมให้กับร่างกาย
- โดยเฉพาะผู้ที่เจอมันระหว่างนอนตอนกลางคืน
5.นอนยกขาให้สูง
- โดยใช้หมอนรองขาให้ขาสูงขึ้น
- สูงขึ้นจากเตียงประมาณ 10 เซนติเมตร
- หรือประมาณ 4 นิ้ว
ฝึกยึดกล้ามเนื้อมัดที่เกิดตะคริวบ่อยๆ
1.ระมัดระวังการยกของหนัก
- หรือการทำกิจกรรมที่ใช้กล้ามเนื้อหนักอย่างต่อเนื่อง
2.หลีกเลี่ยงการออกกำลังกาย
- หลังการรับประทานอาหาร
3.การออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ
- อย่างน้อยวันละ 30-60 นาที
- สัปดาห์ละ 3-5 วัน
4.นอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอวันละ 7-9 ชั่วโมง
สามารถติดตามข่าวสารเพิ่มเติมต่อได้ที่นี่
สนับสนุนโดย
UFABET | UFA365 | UFABET เข้าสู่ระบบ | UFABET เว็บตรง | สล็อต เว็บตรง | SLOTXO | สล็อต | PG SLOT | สล็อต XO | สล็อต | JOKER123 | สล็อต เว็บตรง | สล็อตโจ๊กเกอร์