ประสบการณ์ตรวจภายในของ ผู้หญิง!!เจ็บไหมนะน่ากลัวหรือเปล่า? สารพัดเหตุผลที่ทำให้หลายคนไม่กล้าไปตรวจภายใน

ประสบการณ์ตรวจภายในของ ผู้หญิง!!เจ็บไหมนะแล้วมันน่ากลัวมากหรือเปล่า? นี้แหละคือปัญหาหลักที่ส่งผลให้หลายๆคนๆเลือกที่จะไม่ไปตรวจสุขภาพภายใน สำหรับคุณผู้หญิงบางคนการตรวจภายในถือว่าเป็นเรื่องที่ค่อนข้างทำใจได้ยาก แต่สำหรับบางคนกลับเป็นอะไรที่ง่ายมาก บอกเลยวันนี้ใครที่ไม่กล้าไปตรวจภายในกับคุณหมอนั้นต้องดู เพราะในวันนี้เรามีประสบการณ์การตรวจภายในมาเล่าให้ฟัง!!

ประสบการณ์ตรวจภายในของ ผู้หญิง!!เจ็บไหมหรือเปล่า? เหตุผลที่คนไม่กล้าไปตรวจภายใน

คุณผู้หญิงทุกคนรู้ไหมว่าการตรวจสุขภาพภายในเป็นประจำทุกปีนั้นถือว่าเป็นเรื่องที่สำคัญอย่างยิ่งในยุคปัจจุบัน เพราะว่าในบางครั้งร่างกายของเรานั้นอาจไม่มีอาการใดๆที่สื่อออกมาให้เห็นว่าจะป่วยโรคร้ายอะไร แต่ถ้าว่าการตรวจเช็คก่อนเป็นประจำนั้นจะดีกว่าเพื่อป้องกันความเสี่ยงโรคร้าย และยิ่งเรารู้เร็วเท่าไหร่ ก็ยิ่งหาหนทางรักษาได้ง่ายมากขึ้นเท่านั้น สำหรับวันนี้เราจะพาทุกคนได้ดูบทสนทนาของเหล่า บรรดาวาวๆที่เคยไปตรวจภายในมาแล้วด้วยอาการต่างๆ อาทิ มดลูกผิดปกติ ติดเชื้อในช่องคลอด มีแผลที่มดลูก เพื่อไขข้อกังวลต่างๆที่หลายคนนั้นคิดมาตลอดเวลา ส่วนวิธีการตรวจภายในนั้นมีดังนี้

• อวัยวะในอุ้งเชิงกรานของผู้หญิง
• ตรวจทั้งอวัยวะภายนอกและภายใน
• บริเวณภายนอกของอวัยวะเพศ
• ช่องคลอด
• ปากมดลูก
• มดลูก
• ปีกมดลูก
• รังไข่
• เนื้อเยื่อที่อยู่รอบๆ อวัยวะดังกล่าว

ประสบการณ์ตรวจภายในของแต่ละคนตามส่วนต่างๆดังนี้

การตรวจนี้เป็นการตรวจไปเพื่อหาความผิดปกติของระบบสืบพันธุ์ และจุดที่สำคัญที่สุดคือมะเร็งปากมดลูก เพราะโรคนี้นั้นพบมากเป็นอันดับ 2 สำหรับผู้หญิงไทย อย่างเช่น กรณีของหญิงสาววัย 24 ปีที่เธอนั้นได้มีประจำเดือนนานกว่าคนปกติทั่วไป และเธอโชคดีบังเอิญได้คุยกับหมอ แล้วหมอส่งให้ไปตรวจภายใน สุดท้ายพบว่าเธอมีเลือดออกในมดลูก และเธอนั้นได้เล่าว่า

กรณีที่1**

“ประจำเดือนของเธอนั้นมาทีหนึ่งประมาณ 10-20 วัน แล้วมันก็มาบ้างไม่มาบ้างซึ่งถือว่าเป็นปัญหามากๆ อย่างเช่นรอบล่าสุดที่มานั้นเธอบบอกว่าเธอเป็นตั้งแต่วันที่ 10-30 แต่ถ้าเลือดที่ออกมานั้นไม่ได้เยอะเหมือนประจำเดือน และไม่ต้องใส่ผ้าอนามัยก็ได้เพราะออกไม่เยอะ มีเพียงแค่ไม่กี่วันเท่านั้นที่มีเยอะเหมือนเป็นประจำเดือนทุกวัน แล้วเธอก็เข้าใจมาตลอดว่าที่เป็นอยู่นี่คือประจำเดือน สุดท้ายอาการที่เธอเป็นนั้นแพทย์ก็ยังไม่สามารถหาเหตุผลให้ได้ต้องใช้เวลาให้ประจำเดือนหยุดก่อน ถึงจะหาแผลที่มดลูกได้ ซึ่งวิธีการตรวจนั้นคุณหมอจะทำด้วยการขูดมดลูกดูเพื่อหาแผล ซึ่งกรณีที่ว่ามานั้นมักมีสาเหตุมาจากความผิดปกติของมดลูก”

ส่วนหญิงวัย 62 ปีที่เคยมีประวัติแผลในมดลูก และแผลนี้ส่งผลทำให้เลือดออกในช่วงมีประจำเดือนมากกว่าคนปกติเช่นกันกับรายที่แล้ว แต่ถ้าว่ากรณีนี้เป็นนานมากถึง 1 เดือน 10 วัน แถมเธอยังมีเลือดออกมาจนตัวซีดเซียว นี้ขนาดเธอบอกว่าเธอตรวจภายในและสุขภาพเป็นประจำทุกปี เพราะช่วงหลังที่เธอหมดประจำเดือนตรสจพบเจอว่าทดลูกของเธอนั้นอักเสบ และต้องได้รับการรักษาด้วยวิธีการกินยาเพื่อป้องกันการเกิดโรคมะเร็งปากมดลูก

กรณีที่ 2**

สำหรับหญิงสาวอายุ 26 ปี ที่เธอมาพบหมอด้วยอาการปวดท้องในช่วงที่ประจำเดือนมาและมันก็ปวดหนักอยู่ทุกครั้งที่มันมา และเธอนั้นเริ่มมีอาการปวดตั้งแต่มีประจำเดือนครั้งแรก เมื่อไปพบหมอแล้วอัลตร้าซาวด์ดูพบว่ามดลูกของตัวเธอเองมีรูปลักษณ์ที่ผิดปกติ แต่หมอก็ไม่ได้เป็นอะไรมาก แล้วบอกไปว่าถ้าโตแล้วค่อยกลับมาตรวจใหม่ เมื่อเข้าสู่ช่วงทำงานตอนอายุ 25 ปี อาการปวดท้องก็รเริ่มหนักขึ้นแถมมันยังมาพร้อมกับตกขาวและหนอง เธอจึงรีบไปโรงพยาบาลเพื่อตรวจภายในและพบว่ามีมดลูกสองอัน

“โดยคนปกติจะมีมดลูกเพียง 1 อัน ที่มีหน้าตารูปร่างเหมือนสามเหลี่ยมคว่ำ ตรงปลายสามเหลี่ยมที่เห็นนั้นก็คือปากมดลูก แต่มดลูกของเธอคนนี้คือแบ่งเป็นสองฝั่ง แล้วกั้นผนังที่ตรงกลาง แบบฝั่งนึงมีปากมดลูกส่วนอีกฝั่งนึงตัน เมื่อมดลูกตันหนึ่งข้าง จะส่งผลให้ทุกครั้งที่มีประจำเดือน เลือดจากฝั่งจะไม่สามารถระบายออกมาได้เหมือนอีกฝั่ง ดังนั้นมันก็จะทำให้เกิดการสะสมเลือด สุดท้ายมันจะล้นและส่งผลให้ปวดท้องมากๆ และมีหนองออกมา หลังจากนั้นเธอได้เข้ารับการรักษาอย่างถูกวิธีด้วยการผ่าตัด แต่ถ้าว่าปัญหาที่ทำให้มีลูกนั้นเกิดขึ้นได้ยาก เพราะเสี่ยงที่จะแท้งมากๆ การตรวจสุขภาพประจำปีทั้งภายในภายนอกถือว่าเป็นเรื่องที่สำคัญ และนี้คือสิ่งที่เธอเห็น”

คุณหมอ**

“ส่วนคุณหมอนั้นฝากมาบอกว่า ผู้หญิงส่วนใหญ่จะรับรู้ถึงความผิดปกติที่มดลูกก็อาจช้าไปมากแล้วสำหรับการรักษา เพราะคนส่วนมากนิยมมาตรวจตอนที่อยากจะมีลูกหลังจากแต่งงานแล้ว”

กรณีที่ 3**

กรณีนี้ไปตรวจภายในครั้งนั้นเธอมีอาการปวดคันบ่อยๆที่แถวๆปากช่องคลอด แถมยังมีก้อนสีขาวเหมือนกับลิ่มเลือดออกมาด้วย เมื่อตรวจแล้วเจอว่ามันคือเชื้อราจากการใส่แผ่นอนามัยทุกวัน แล้วส่งผลให้ตรงนั้นมันอับชื้น หมักหมม และระคายเคือง ส่วนวิธีการตรวจนั้นก็ไม่ได้น่ากลัวเหมือนอย่าวงที่ใครๆเล่า เพราะขึ้นอยู่กับน้ำหนักมือของคุณหมอและความเจ็บของเราส่วนอีกครั้งที่เธอมาตรวจภายในแล้วได้พบว่า “มดลูกของเธอผิดปกติ” เธอเลยกล่าวว่า

“เมื่อก่อนเราไม่เคยมีอาการใดๆ นอกความเครียดที่เมื่อเป็นแล้วประจำเดือนจะไม่มา แล้วก็มีอาการ PMS อีกหนึ่งอย่างที่ค่อนข้างรุนแรง เมื่อไปตรวจอีกครั้งคุณหมอพบว่า มดลูกของเรานั้นผิดปกติ ถ้าหากเราต้องการมีลูกต้องรีบมีก่อนที่อายุจะถึง 30 เพราะว่ามดลูกเราไม่เหมือนคนอื่น ดังนั้นการรตรวจภายในนั้นถือว่าเป็นเรื่องที่สำคัญเธอกล่าว เพราะถ้าเกิดดยากมีลูกหลังอายุ 30 คงแย่ถ้าหากรู้ช้าไปกว่านี้”

กรณีที่ 4**

หญิงวัย 25 ปี มีอาการปวดท้องประจำเดือนหนัก และได้ปวดท้องในช่วงที่ไม่มีประจำเดือน สุดท้ายได้ลองค้นหาข้อมูลและปรึกษากับคุณแม่ และได้ข้อมูลที่น่าตกใจว่าอาการที่เธอเป็นคล้ายกับแม่ตอนที่เป็นช็อกโกแลตซีสต์เหมือนกันและเธอได้บอกว่า

“ตอนกำลังไปตรวจไม่ได้คิดเลยว่าตัวเองเป็น เพราะอายุยังน้อยแต่กลับกลัวและกังวลกับทุกอย่างที่กำลังจะเกิดขึ้น อีกหนึ่งอย่างคืออายที่จะตรวจภายในเป็นอย่างมากด้วยในตอนนั้น เพราะยังไม่เคยตรวจและยังไม่เคยมีเพศสัมพันธ์”

เมื่อเป็นเช่นนั้ความสำคัญในการตรวจสสุขภาพร่างกายทั้งภายในและภายนอกจึงถือว่าเป็นเรื่องที่สำคัญสำหรับคุณผู้หญิง และทุกคนบนโลก เพราะการตรวจสุขภาพประจำทุกปี ถือว่าเป็นหนึ่งในวิธีการป้องกันการเกิดโรคร้ายต่างๆในอนาคตได้ แต่ถ้าว่ายังสามารถรักษาได้ทันเวลาถ้าหากตรวจเจอก่อน