วัยรุ่นหูทวนลม วิจัยชี้!พัฒนาการทางสมองในวัย 13 ปีส่งผลให้วัยรุ่นนั้น “ไม่ฟัง”เสียงพูดของพ่อแม่

วัยรุ่นหูทวนลม วิจัยชี้!พัฒนาการทางสมองในวัย 13 ปี อาจเป็นสิ่งที่ส่งผลให้วัยรุ่นนั้น “ไม่ฟัง”เสียงพูดเสียงบ่นของคุณพ่อและคุณแม่ ร่างกายและสุขภาพนั้นถือว่าเป็นสิ่งที่เปลี่ยนแปลงได้อยู่ตลอดเวลา โดยเฉพาะในช่วงวัยรุ่นช่วงที่เปลี่ยนแปลงที่อนน่าเป็นห่วง

วัยรุ่นหูทวนลม !คาดพัฒนาการทางสมองในวัย 13 ปีส่งผลให้ “ไม่ฟัง”เสียงพูดของพ่อแม่

เมื่อไม่นานมานี้ได้มีผลวิจัยสุดน่าสนใจเกี่ยวกับทางประสาทวิทยาและข้อมูลที่น่าสนใจนี้ก็คือ “เด็กวัยรุ่นไม่ได้ตั้งใจที่จะไม่ฟังหหรือหัวรั้นกับครอบครัว แต่ถ้าว่ามันคือช่วงที่สมองเริ่มปรับโครงสร้างด้วยตัวของมันเองให้หันไปสนใจรับฟังเสียงใหม่ ๆ จากนอกบ้านมากกว่าในบ้าน” เชื่อว่ามีหลายบ้านนั้นคุ้นชินกับประโยคเด็ดที่มักใช้กับลูกหลานนั้นก็คือ “นี่ฟังบ้างไหมที่บอก” และคำพูดนี้ก็คือคำพูดที่บอกเด็กวัยรุ่นไปในช่วงที่พวกเขานั้นทำเป็นนิ่งเฉยกับสิ่งที่ผู้ใหญ่อย่างเราๆพูดถึง แถมบางครั้งอาจทำเป็น “หูทวนลม” ใส่ไปดื้อๆสะอย่างนั้น

จากผลการทดลองที่ทีมนักวิจัยนั้นทำออกมาสรุปได้ว่า สมองของเด็กวัยรุ่นที่อยู่ในช่วงอายุ 13-17 ปี จะมีการเปลี่ยนแปลงเรื่องเชิงโครงสร้างของวงจรประสาทและการทำงานของสมองที่เปลี่ยนไป และมันคือความแตกต่างจากตอนที่พวกเขานั้นเป็นเด็ก อย่างเช่นเสียงพูดของคนในบ้านที่วัยรุ่นนั้นมักจะ “หูทวนลม” ใส่อยู่เป็นประจำแต่ถ้าว่าพวกเขานั้นกลับมีการตอบสนองที่ดีกับคนอื่นที่ไม่สนิทหรือคุ้นเคยและไม่ได้ยินมาก่อน หลังจากการทดลองผลออกมาว่า “เสียงพูดของคนแปลกหน้า” สามารถไปเป็นตัวเสริมให้การทำงานของวงจรประสาทของวัยรุ่นแถมสร้างเป็นความทรงจำใหม่ๆเกี่ยวกับสังคมใหม่ๆได้อีกด้วย ดังนั้นการที่เด็กกมีท่าทีทำหูทวนลมนั้นอาจจะไม่ใช่เพราะเขาต้องการจะไม่ฟัง แต่บางครั้งอาจมาจากพัฒนาการของเขาที่เปลี่ยนนแปลงไปก็เป็นไปได้