เกือบขิตเพราะหมูกระทะ เจอดีฝอยทองฝังลึกในคอ ผู้ป่วยเจ็บและทรมานอย่างหนัก

เรื่องราวน่ารู้คู่สุขภาพ ล่าสุด รายงานข่าวเปิดเผยอาการสุดน่าเป็นห่วงของนักกิน เกือบขิตเพราะหมูกระทะ ภายหลังจากที่ไปทานอาหารนอกบ้านและได้กินสิ่งแปลกปลอมที่อยู่ในอาหารลงไป โดยสิ่งนั้นคือ “ฝอยขัดหมอ” มันไปฝังติดที่ลำคอสุดทรมานต้องผ่าตัดด่วน

เกือบขิตเพราะหมูกระทะ เจอดีฝอยทองฝังลึกในคอ แพทย์ออกเตือน! อย่าปล่อยไว้นาน เจ็บปวดทรมาน และอันตรายมาก

หมอเร่งออกมาเตือนและเผยเรื่องที่นักกินควรระวังพร้อมใส่ใจเป็นพิเศษ หลังจากเกิดเรื่องกับผู้ป่วยเกือบขิตเพราะหมูกระทะ กินฝอยทองที่เจือปนในอาหารเข้าไปด้วย จนทำให้มันไปติดที่ลำคอแบบฝังลึกและมีอาการเจ็บแสนทรมานอย่างมาก  แพทย์เร่งช่วยแหลือด้วยการผ่าตัด เพราะหากปล่อยไว้นานกว่านี้เสี่ยงก่ออันตรายอย่างคาดไม่ถึง

ในวันที่ 30 กันยายน 2565 นายแพทย์ อารักษ์ วงศ์วรชาติ ผอ.โรงพยาบาลสิชล-นครศรีธรรมราช ออกโพสต์ผ่านเฟซบุ๊ก เพื่อฝากข้องความเตือนภัยสุขภาพกับประชาชน..ว่าด้วยเรื่อลฝอยทองหรือฝอยเหล็กที่ใช้สำหรับขัดหม้อ มันมีการติดปะปนเข้าไปกับอาหารที่ผู้ป่วยรายหนึ่งกินและไปติดฝังลึกในลำคอ แพทย์ต้องมีการรักษาอย่างเร่งด่วนด้วยการผ่าตัดฉุกเฉิน

สิ่งที่แพทย์ได้ออกมาโพสต์นั้นเป็นการหยิบยกเพียงเคสตัวอย่าง สำหรับผู้ป่วยที่ชอบไปทานอาหารนอกบ้านในเมนูโปรด “หมูกระทะ” ความเอร็ดอร่อยทำให้ลืมความเจ็ปวดในระหว่างกิน ทว่าเมื่อจ่าสยตังเรียบร้อยเพื่อเตรียมเดินทางกลับบ้าน ผู้ป่วยเริ่มมีอาการเจ็บปวดที่บริเวณลำคอ ทุกครั้งที่กลืนน้ำลายจะเจ็บ ดังนั้นผู้ป่วยได้ทดลองดื่มน้ำไปอีก และอาการที่เกิดคือความเจ็บปวดที่มากเพิ่มขึ้น สำหรับอาหารที่ได้กินเข้าไปประกอบไปไม่มีจำพวกปลาหรือกระดูก เมื่อกลับมาถึงที่บ้านอาการปวดเริ่มมีมากขึ้น เมื่อนำไฟฉายมาส่องอยู่ในลำคอไม่เห็นสิ่งผิดปกติอะไร ก่อนที่ผู้ป่วยนั้นจะตัดสินใจมาที่โรงพยาบาล

ณ ห้องฉุกเฉิน แพทย์ได้มีการนำเอาเครื่องมือมาส่องดูที่ในลำคอ แต่ก็ไม่พบสิ่งแปลกปลอมอะไรเลน ทำให้ส่งผู้ป่วยไปตรวจแบบเอกซเรย์คอมพิวเตอร์เฉาพะบริเวณลำคอ ทำให้แพทย์ได้จับสังเกตเห็นภาพรังสี เครื่องได้อ่านค่าพบสิ่งแปลกปลอมมันมีลักษณะคล้ายกับโลหะและมีความยาวประมาณ 1.46 ซม. โดยภาพที่ปรากฏนั้นมันฝังลึกอยู่ที่บริเวณลำคอส่วนลึกดูเหมือนมันจะไปติดอยู่ใกล้กับฝาปิดกล่องเสียง แพทย์ได้รีบตัดสินใจรับผู้ป่วยไว้ในโรงพยาบาล และเร่งทำการปรึกษาแพทย์ที่มีความเชี่ยวชาญเฉพาะทางด้าน “หู คอ จมูก” เพื่อนำตัวคนป่วยไปผ่าตัดส่งอกล้องรักษาแบบพิเศษ โดยจะมีการดมยาสลบเพราะผู้ป่วยปวดมากและยังเป็นการป้องกันไม่ให้สำลักระหว่างที่แพทย์ส่องกล้องผ่าตัด

เมื่อแพทย์ทำการส่องกล้อเข้าไปภายในลำคอ ได้พบเข้ากับชิ้นส่วนของฝอยทองที่ใช้ขัดหม้อ มันทิ่มฝังลึกอยู่ในคอโดยบริเวณนั้นเราเรียกว่า pyriform sinus มันอยู่ไปทางด้านซ้ายและท้ายที่สุดแพทย์ก็สามารถเอามันออกมาได้สำเร็จ กรณีนี้ถ้าปล่อยไว้นาน อาการเจ็บปวดจะเพิ่มเท่าทวีคูณ และจะมีการติดเชื้อตามมาด้วย

การที่จะส่องกล้องและนำเอาสิ่งแปลกปลอมในลำคอออกมาได้อย่างปลอดภัย เราต้องใช้เครื่องมือพิเศษ และแพทย์ที่ทำการผ่าตัดต้องมีความเชียวชาญโดยเฉพาะ และใช้เครื่องมือได้อย่างดีในการผ่าตัดผู้ป่วย และรวมไปถึงทีมงานซึ่งประกอบไปด้วย รังสีแพทย์ วิสัญญีแพทย์ แพทย์ฉุกเฉิน แพทย์ด้าน(หู คอ จมูก) และทีมพยาบาล