เครื่องชั่งน้ำหนัก “รุ่นใหม่” ไฉไลกว่าเก่า เพราะสามารถวัดปริมาณไขมันในร่างกาย ปริมาณกล้ามเนื้อในร่างกาย และวัดความหนาแน่นของมวลกระดูกได้ด้วย บอกเลยใครเป็นสาย สุขภาพ ตัวจริงนั้นต้องไม่พลาดแวะเข้ามารับชมมกันก่อน เพราะเจ้า เครื่องชั่งน้ำหนักรุ่นใหม่ ที่เรานำมาให้ดูในวันนี้น่าซื้อมาทดลองใช้มากๆ
เครื่องชั่งน้ำหนัก “รุ่นใหม่” รู้ว่าร่างกายเรามี “ไขมัน” มากมายได้อย่างไร? บอกเลยใครเป็นสายสุขภาพตัวจริงนั้นต้องไม่พลาดแวะเข้ามารับชมมกันก่อน
ในยุคสมัยนี้ถ้าใครไปซื้อ เครื่องชั่งน้ำหนักรุ่นใหม่ๆ ก็น่าจะทราบดีว่า เครื่องชั่งน้ำหนักรุ่นใหม่ๆ เมื่อก่อนที่เรานั้นใช้งานที่ใช้เข็มนั้นเริ่มหายไปจากความทรงจำของเราแล้วและ เครื่องชั่งน้ำหนักรุ่นใหม่ๆ ที่วางจำหน่ายที่เรานั้นเห็นบ่อยนั้นก็จะเป็นแบบดิจิทัลและในบรรดา เครื่องชั่งน้ำหนักรุ่นใหม่ๆ แบบดิจิทัล ก็เรียกได้ว่ามีน้อยเครื่องมากที่จะชั่งน้ำหนักได้แค่อย่างเดียว
เพราะมันเกือบจะเป็นสิ่งที่ต้องทำของผู้ผลิตไปแล้วว่าเครื่องชั่งน้ำหนักรุ่นใหม่ๆ ในสมัยรนี้จะต้องสามารถวัดค่า BMI ของผู้ใช้งานได้ด้วย และประโยชน์เท่านั้นไม่พอเพราะมันยังต้องสามารถวัดปริมาณไขมันในร่างกาย ปริมาณกล้ามเนื้อในร่างกาย และมันต้องวัดความหนาแน่นของมวลกระดูกได้อีกด้วย
เพียงแค่เรายืนบน เครื่องชั่งน้ำหนักรุ่นใหม่ๆ เครื่องมันไม่ได้บอกแค่น้ำหนักแต่มันสามารถบอกรู้องค์ประกอบมากๆ ของร่างกายเราได้เกือบทั้งหมด บางคนก็เลยสงสัยว่ามันทำได้ยังไงถ้าสังเกต เครื่องชั่งน้ำหนักรุ่นใหม่ๆ ตรงจุดที่ให้เราวางเท้า มันจะมีแป้นโลหะสีเงินๆ ประมาณ 4 อัน แบบพอดีให้วางส้นเท้าและปลายเท้า
สิ่งที่บอกมานั้นไม่ไม่ใช่มันแค่ design แต่จริงๆ แล้วมันคือแป้นโลหะที่ใช้วัดส่วนต่างๆของร่างกาน อย่างเช่น ไขมัน กล้ามเนื้อ กระดูก และเทคโนโลยีดังกล่าวที่นั้นผู้ผลิตเขาเรียกว่ามันว่า Bioelectrical Impedance Analysis (BIA)และถ้าถามว่ามันทำงานยังไง คือมันทำงานโดยส่งกระแสไฟฟ้าวิ่งผ่านร่างกายเรา
โดยให้เรานั้นลองจินตนาการไปว่าแป้นตรงปลายเท้าข้างขวาคือประจุบวกมันก็จะส่งประจุไฟฟ้าออกมา ทำให้กระแสไฟฟ้าวิ่งเข้ามาในร่างกายเรา และจะไปออกตรงปลายเท้าข้างซ้ายที่เป็นประจุลบ ซึ่งแป้นตรงส้นเท้าขวาและซ้ายก็ทำงานเหมือนกันทุกอย่างทุกรูปแบบ เรียกได้ว่าทำซ้ำกัน 2 จุดเพื่อเช็กให้ชัวร์
ซึ่งการทำงานของมันก็คือกระแสไฟฟ้านั้นมันสามารถทราบได้หมดทุกสิ่งอย่างเลยว่า มีอะไรบ้างที่อยู่ในส่วนต่างๆของมนุษย์ ซึ่งสรุปให้เข้าใจง่ายขึ้นก็คือสิ่งต่างๆในร่างกายมันมีแรงต้านไฟฟ้าทั้งหมด ไขมันมี กล้ามเนื้อมี กระดูกมี และการมีมากน้อยมันส่งผลต่อความเร็วในการวิ่งของกระแสไฟฟ้า
ในส่วนนี้มันเลยทำให้เรานั้นสามารถรับรู้ได้ว่ามีอะไรมากน้อยเท่าไหร่ยังไง หรือเรียกได้ว่าเอาค่าที่ได้มาเข้าสมการมันก็จะได้การประเมินแบบคร่าวๆ ว่าร่างกายของเรามีไขมันประกอบเท่าไร กล้ามเนื้อประกอบเท่าไร และกระดูกเราหนาแน่นเพียงใด (ซึ่งถ้าสงสัยอีกว่าเขารู้ปริมาณน้ำได้ยังไง สั้นๆ คือเขาถือว่าน้ำคือส่วนประกอบส่วนใหญ่ของกล้ามเนื้อ
ดังนั้นเขาก็จะวัดระดับน้ำไปพร้อมๆ กับวัดระดับกล้ามเนื้อ เทคโนโลยีดังกล่าสนั้นเริ่มพัฒนาขึ้นเมื่อทศวรรษ 1970 และตอนกลางๆ ก็เริ่มมีสินค้าผลิตขึ้นมาเพื่อผู้บริโภคออกมาจำหน่าย แล้วตอนกลางทศวรรษ 1980 ซึ่งที่น่าสนใจก็คือ เขาก็พัฒนากันมาเรื่อยๆ และก็พบว่าถ้าเราเพิ่มข้อมูลอย่าง เพศ และอายุ (หรือกระทั่งเชื้อชาติ) เข้าไป
มันก็จะทำให้การวัดนั้นไม่มีการผิดพลาด และนี่คือเหตุผลที่พวกมันนั้นถามเพศ และอายุของเราตลอด (ส่วนที่มันถามเรื่องส่วนสูงด้วยนั้นมันเอาไว้ไปหาค่า BMI ไม่ใช่หาบริมาณไขมันและกล้ามเนื้อ) และสมัยยุคแรก เขาก็ใช้แค่ 2 ขั้ว ก่อนจะเพิ่มเป็น 4 ขั้วเพราะพบว่ามันวัดได้เที่ยงตรงขึ้น
และถ้าหากถามว่ามันตรงมากเพียงใดนั้นเอาเข้าจริงแล้วประเด็นนี้นั้นถูกนำมาถกเถียงกันนานมากว่า เครื่องประเภทนี้มันวัดไม่ตรง แต่อีกฝั่งมันก็มีการพัฒนาสมการและเซนเซอร์ตลอด คือมันวัดตรงขึ้นเรื่อยๆ แน่ และตรงขึ้นไปเรื่อยๆ ตามการพัฒนาสมการ แต่ที่สำคัญกว่ามันวัดได้ตรงแค่ไหนก็คือ มันเป็นวิธีการวัดไขมันในร่างกายมนุษย์ที่ ‘ราคาถูก’ ที่สุดแล้ว
คือจะให้ไป X-ray หรือ MRI มันก็ไม่ใช่ พวกนั้นเพราะมันสามารถวัดได้แม่นยำมากกว่าอย่างแน่นอน แต่ราคาของมันแพงมาก และทำที่บ้านไม่ได้อย่างแน่นอน อันที่จริงแม้จะมีเทคโนโลยีแบบอื่นที่ใช้วัดปริมาณไขมันได้เช่นกัน แต่มันไม่มีเทคโนโลยีไหนที่ราคาถูกและใช้สะดวกเท่า BIA เลย
ดังนั้นมันเลยส่งผลให้ Bioelectrical Impedance Analysis นั้นเป็นสิ่งยอดฮิตที่ผู้ผลิตนั้นจะเอามาใส่ในสินค้าให้กับผู้บริโภค โดยผู้ผลิตนั้นถือว่าถึงจะวัดไม่แม่นยำมากเท่าไหร่แต่อย่างน้อยการวัดความเปลี่ยนแปลงดังกหล่าวนั้นตรงอย่างแน่นอน คือเราอาจไม่ชัวร์ว่าจริงๆ ร่างกายเรามีปริมาณไขมันเท่าไรแต่ถ้าเราวัดสม่ำเสมอเราจะเห็นได้ว่ามันคงที่มันขึ้นหรือมันลง
ซึ่งในส่วนนี้มันจะช่วยให้เราสามารถดูแลตัวเองได้ง่ายมากกว่าเก่า ก็ไม่ใช่เรื่องผิดปกติว่าไม่ใช่แค่พวก เครื่องชั่งน้ำหนักรุ่น เท่านั้นที่เอาเทคโนโลยี Bioelectrical Impedance Analysis มาใช้ พว กwristband อัจฉริยะทั้งหลายในทศวรรษ 2020 ก็นำเอาเทคโนโลยีนี้มาใส่กันหมดแล้ว เพราะมันเป็นเทคโนโลยีราคาถูกมากที่จะช่วยให้มนุษย์ดูแลตัวเองได้อย่างเหมาะสม
สนับสนุนโดย
UFABET | UFA365 | UFABET เข้าสู่ระบบ | UFABET เว็บตรง | สล็อต เว็บตรง | SLOTXO | สล็อต | PG SLOT | สล็อต XO | สล็อต | JOKER123 | สล็อต เว็บตรง | สล็อตโจ๊กเกอร์