เตรียมทดลองปลูก “ตับจิ๋ว” เพื่อรักษาโรคตับของมนุษย์โดย “ไม่ต้อง” ผ่าตัดปลูกถ่ายอวัยวะ

สุขภาพ เตรียมทดลองปลูกตับจิ๋ว ทดแทน “ตับแท้” ภายในร่างกายของคนไข้ที่เข้ามารักษาในระยะท้ายสุด เพื่อรักษาโรคตับของคนไข้ให้มีชีวิตอยู่ได้ โดยที่ไม่ต้องเข้ารับการผ่าตัดปลูกถ่ายอวัยวะ วงการแพทย์หวังเป็นอย่างยิ่งว่าเทคนิคดังกล่าวนั้นน่าจะช่วยยื้อชีวิตของผู้ป่วยได้

เตรียมทดลองปลูกตับจิ๋ว ทดแทน “ตับจริง” ในร่างกาย “คนป่วย” ระยะสุดท้าย

ในอีกวันข้างหน้า medical field จะเริ่มทดลองใช้เทคนิคใหม่ในการรักษาผู้ป่วย “โรคตับ” กับคนไข้ที่ไม่ใช่สัตว์ทดลองแต่เป็นคน โดยหวังว่าเทคนิคดังกล่าวนั้จะสามารถช่วยรักษาชีวิตคนไข้ระยะสุดท้ายได้ โดยไม่ต้องผ่าตัดปลูกถ่ายอวัยวะเหมือนอย่างที่เคยเป็น บริษัท LyGenesis ซึ่งมีสำนักงานใหญ่ใน Pittsburgh ของสหรัฐฯ กำลังจะเริ่มการทดลองใช้ liver cells ของผู้บริจาคที่มีสุขภาพแข็งแรง ฉีดเข้าไปในต่อมน้ำเหลืองของคนไข้ที่ป่วยเป็นโรคตับระยะสุดท้าย เพื่อทดลองเพาะปลูก “ตับจิ๋ว” ซึ่งเป็นอวัยวะขนาดเล็กขึ้นในต่อมน้ำเหลืองที่มีอยู่หลายจุดทุกส่วนบนร่างกาย

หากวิธีดังกล่าวนั้นสามารถเกิดขึ้นจริงได้ สันนิษฐานว่าอาจจะปลูกตับขนาดเล็กนี้ได้เยอะถึงห้าชิ้น เข้าไปในตัวของผู้ป่วยหนึ่งคน ซึ่งตับขนาดเล็กประเภทนี้จะช่วยทำหน้าที่ กำจัดสารพิษที่อยู่ภายในร่างกาย รวมทั้งเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานของตับตัวเดิมที่เกิดความเสียหายหนักให้ดีขึ้นได้ แม้ตับของมนุษย์นั้นจะเป็นอวัยวะที่สุดแสนพิเศษ สามารถซ่อมแซ่มตัวเองให้กลับมาดีเช่นเดิมได้ก็ตาม จนเซลล์ตับนั้นสามารถคงทนอายุให้อ่อนเยาว์วัยเหมือนอายุ 3 ปีอยู่ตลอดเวลา ไม่เว้นแม้แต่เรานั้นจะมีอายุแก่ขึ้นเรื่อยๆ  สำหรับคนไข้ที่ป่วยเป็นโรคตับที่มีอาการหนัก อวัยวะส่วนนี้จะถูกทำลายและมันจะได้รับความเสียหายที่รุนแรง ส่งผลให้ตับไม่สามารถซ่อมแซ่มตัวเองให้กลับมาดีได้เช่นเดิมอีกต่อไป และทันจะต้องอาศัยการปลูกถ่ายอวัยวะรวมทั้งเทคนิคต่างๆเพื่อรักษาชีวิตคนไข้

วิธีปลูก “ตับขนาดเล็ก” ที่ต่อมน้ำเหลืองผ่านการทดลองสำหรับสัตว์ทดลองมาแล้ว และการทดลองในครั้งนั้นมันก็ประสบความสำเร็จ ซึ่งมันคือขั้นการทดสอบกับ หนู สุนัข และหมู ที่มีสุขภาพร่างกายแข็งแรงสมบูรณ์ดี ถ้าหากนำมาใช้ทดลองกับคนได้แถมยังปลอดภัย แน่ชัดว่าวิธีดังกล่าวนั้นอาจช่วยยื้อชีวิตของคนป่วยที่เป็นโรคตับระยะสุดท้ายให้มีลมหายใจต่อได้ ในแบบฉบับที่ไม่ต้องผ่าตัดเปลี่ยนถ่ายตับใหม่ แถมยังลดปัญหาขาดแคลน “อวัยวะ” ที่ถูกนำมาบริจาคได้อีกด้วย ด้วยเหตุผลที่ว่าตับที่ได้รับบริจาคมาจำนวน 1 ชิ้น สามารถใช้รักษาผู้ป่วยได้มากถึง 75 คน ส่วนข้อจำกัดของวิธีนี้นั้นคือ คนไข้ที่ได้รับการรักษาต่อลมหายใจด้วยวิธีดังกล่าวนั้นจะต้อง ทายากดภูมิคุ้มกันไปชัวร์นิรันหว่าจะหมดลมหายใจ เพื่อป้องกันไม่ให้ร่างกายต่อต้านเซลล์ตับขนาดเล็ก ซึ่งเป็นสิ่งแปลกปลอมจากร่างกายของผู้บริจาค

Michael Houghford หนึ่งผู้ร่วมก่อตั้งบริษัท LyGenesis กล่าวว่าครั้งตอนแรกในการเริ่มทดลองจะเริ่มกับกลุ่มอาสาสมัครกลุ่มเล็กๆ กับผู้ป่วยโรคตับระยะสุดท้ายกับอาสาสมัครจำนวน 12 คน ขั้นแรกจะทดลองฉีดเซลล์ตับที่ได้รับบริจาคมาจากคนทั่วไปที่มีสุขภาพดี ให้อาสาสมัครร่วมการทดลองครั้งแรกก่อนประมาณ 50 ล้านเซลล์ และจะเพิ่มปริมาณขึ้นให้กับกลุ่มอาสาสมัครกลุ่มถัดไปสูงจนถึงระดับสูงสุดประมาณ 250 ล้านเซลล์ ซึ่งมันสามารถปลูกตับขนาดเล็กได้เยอะขึ้นถึงห้าชิ้น ภายในร่างกายของคนไข้จำนวนหนึ่งคน

Michael Houghford  กล่าวว่า “หลังการฉีดเซลล์ตับใหม่ไม่กี่วัน ต่อมน้ำเหลืองที่เป็นที่ฟักตัวชั้นเลิศของเซลล์ตับ จะค่อยๆ ละลายตัวไป เหลือไว้เพียงตับขนาดเล็กที่มีเส้นเลือดมาหล่อเลี้ยงจำนวนมาก ช่วยทำหน้าที่ฟอกกำจัดสารพิษในเลือด และพัฒนาการทำงานของตับได้เหมือนอย่างที่เคยเป็น อาสาสมัครที่เข้าร่วมการทดลองในครั้งนี้ทั้งหมด จะถูกติดตามดูอาการ รวมไปถึงการตรวจวัดการเจริญเติบโตและประเมินการทำงานของตับขนาดเล็กเป็นในระยะเวลา 1 ปี ก่อนที่นักวิจัยและแพทย์นั้นจะสรุปผลการทดลองในขั้นต้น ออกมาให้เรานั้นรับรรู้ผลการทดลองในปี 2024 หรือประมาณ 2 ปีหลังนับจากนี้เป็นต้นไป