วิจัยชี้!! เลิกบุหรี่ก่อนอายุ 35 จะช่วยให้มีอายุยืนยาวใกล้เคียงกับคนที่ไม่สูบบุหรี่ส่งผลดีต่อสุขภาพร่างกาย

รู้ไหมว่า!? เลิกบุหรี่ก่อนอายุ 35 ไม่ทำให้เรานั้นตายก่อนถึงวันเวลาที่เหมาะสมได้และทำให้มีอายุที่ไม่สั้นอยู่ได้นานหลายปี อย่างกับพวกคุณนั้นไม่เคยสูบบุหรี่มาก่อน แถมยังส่งผลดีต่อสุขภาพร่างกาย ซึ่งว่าเรื่องนี้นั้นมันก็สอดคล้องกับความเป็นจริงที่ไม่ต้องไปอาศัยงานวิจัยใดๆ เพราะใครที่ไม่อยากตายเร็วเพราะโรคมะเร็งก็ควรเลิกมันสะตั้งแต่ตอนนี้

เลิกบุหรี่ก่อนอายุ 35 ช่วยลดความเสี่ยงเสียชีวิต ได้เหมือน “ไม่เคย” สูบบุหรี่มาก่อน

งานวิจัยชิ้นสำคัญในสหรัฐฯ พบหลักฐานที่สามารถอธิบายเรื่องราวเกี่ยวกับการเลิกสูบบุหรี่ก่อนอายุ 35 ปี ที่บอกว่าช่วงวัยช่วงเวลานี้นั้นจะเป็นช่วงที่เหมาะสมแก่การเลิกบุหรี่มากๆ เพราะมันลดโอกาสตายก่อนถึงวันเวลาได้ แถมมันยังทำให้คนที่เลิกได้นั้นมีอายุยืนเหมือนกับไม่เคยสูบอีกต่างหาก เมื่อไม่นานที่ผ่านมาได้มีงานวิจัยหนึ่งชิ้นนั้นเผยแพร่เอาไว้บนสื่อสิ่งพิมพ์ทางการแพทย์ชื่อดังที่มีชื่อว่า “JAMA Network Open” โดยมีเนื้อหาเขียนเอาไว้ว่าคนที่เลิกสูบบุหรี่ได้หลังจากที่อายุมากกว่า 35 ปี จะยังคงมีสุขภาพร่างกายที่แข็งแรงและสมบูรณ์

แต่จะมีโอกาสเสียชีวิตมากกว่าคนที่หยุดสูบบุหรี่ก่อนอายุ 35 ปี เราสามารถทำให้ทุกคนเห็นภาพตัวอย่างได้เช่น คนที่เลิกสูบบุหรี่ในช่วงวัย 35-44 ปี จะมีโอกาศเสี่ยงเสียชีวิตมากกว่าคนไม่สูบบุหรี่ถึง 21 เปอร์เซ็นต์ ส่วนกลุ่มคนเลิกสูบบุหรี่ตอนอายุ 45 ถึง 54 ปี พวกเขาเหล่านี้มีโอกาศเสี่ยงป่วยสูงขึ้นมากถึง 47 เปอร์เซ็นต์ เมื่อเทียบกับคนไม่สูบบุหรี่ นอกจากนี้ทีมนักวิจัยนั้นยังได้ให้ข้อมูลเพิ่มเติมอีกว่า กลุ่มอาสาสมัครทั้งผู้หญิงและผู้ชายที่มาจากหลายเชื้อชาติ ที่ยังคงสูบบุหรี่อยู่มีพวกเหล่านั้นมีโอกาศสูงมาที่จะเสียชีวิตจากทุกสาเหตุ ซึ่งมันเป็นความเสี่ยงที่สูงมากกว่าคนปกติทั่วไปที่ไม่ได้สูบบุหรี่ อย่างน้อย 2 เท่า และการเลิกสูบบุหรี่ตั้งแต่อายุยังน้อยจะช่วยลดอัตราการตายของเราได้เป็นอย่างดี

วัยเลิกบุหรี่ที่เหมาะสม

งานวิจัยที่เรานำมาให้ดูในวันนี้เป็นการศึกษาข้อมูลจากการสำรวจการพูดคุยกันเกี่ยวกับด้านสุขภาพแห่งชาติสหรัฐฯ (National Health Interview Survey) โดยวิธีการสรุปรวมข้อมูลของอาสาสมัครที่เป็นผู้ใหญ่มากกว่า 550,000 ราย ที่อยู่ในช่วงวัย 25-84 ปี ที่ตอบแบบสอบถามประมาณช่วงเดือนมกราคม ปี 1997 ถึงเดือน ธันวาคม 2018

กลุ่มอาสาสมัครที่นำมาให้ดูนี้มีทั้งคนที่สูบบุหรี่และไม่สูบบุหรี่ คนที่เลิกสูบบุหรี่แล้วและคนไม่สูบบุหรี่เลย ซึ่งหมายถึงคนที่สูบบุหรี่น้อยกว่า 100 มวนตั้งแต่เกิดมาจนถึงวันนี้ ข้อมูลที่เรานำมาให้ดูนั้นสามารถอธิบายให้เราเข้าใจว่ากลุ่มอาสาสมัครจำนวน 75,000 คน ตายจากไปภายในปี 2019

รายละเอียดนั้นบอกว่าคนที่ดูดบุหรี่มีโอกาสตายจากโรคต่างๆ สาเหตุต่างๆมากกว่าคนปกติทั่วไปที่ไม่ได้ดูดบุหรี่อย่างมีเรื่องที่น่าสนใจ รวมทั้งโอกาสตายเพราะโรคที่มาจากการดูดบุหรี่โดยตรง จำพวก โรคมะเร็ง โรคหัวใจ และโรคปอด นั้นก็ถือว่ามีโอกาสป่วยและตายมากกว่า

นักวิจัยนั้นได้เขียนอธิบายเอาไว้เพิ่มเติมว่าคนที่เลิกดูดบุหรี่ก่อนที่อายุจะถึง 45 ปี พวกเขาเหล่านั้นมีโอกาเสี่ยงเป็นโรคร้ายและตายก่อนถึงวันและเวลาน้อยมากขึ้นถึง 90 เปอร์เซ็นต์ และกลุ่มคนที่สามารถเลิกดูดบุหรี่ได้ก่อนที่อายุของพวกเขานั้นจะถึง 35 ปี โอกาสที่พวกเขานั้นจะป่วยและจะตายเท่ากันกับคนที่ไม่ใช่บุหรี่เลย

John P Pierce ศาสตราจารย์กิตติคุณจาก University of California School of Medicine and Public Health San Diego Campus เขียนอธิบายรายละเอียดในบทวิจารณ์งานวิจัยเล่มนี้เอาไว้ว่า นี่ถือเป็นงานวิจัยครั้งใหญ่ชิ้นที่ 3 ที่อธิบายได้ว่าอายุ 35 ปีอาจเป็นอายุที่เหมาะสมในการเลิกบุหรี่ โดยเฉพาะสำหรับคนที่เริ่มสูบบุหรี่ตั้งแต่พวกเขายังเป็นเด็ก

John P Pierce เขียนเอาไว้ว่า “ทุกคนนั้นทราบกันมานานแสนนานแล้วว่าคนที่สามารถเลิกบุหรี่ได้เร็วมากเท่าไหร่ มันยิ่งส่งผลดีต่อสุขภาพร่างกายของเรามากเท่านั้น อย่างไรก็ดีงานวิจัยชิ้นนี้อาจมีประโยชน์มากขึ้นเพราะมันสามารถระบุช่วงอายุวัยได้อย่างชัดเจนว่าอายุเท่าไหร่ควรเลิกใช้มันได้แล้ว”