Friday, 26 September 2025

โรคมือเท้าปาก อาการ สาเหตุ การรักษา และวิธีป้องกันที่ผู้ปกครองต้องรู้

25 Sep 2025
165

โรคมือเท้าปาก (Hand, Foot, and Mouth Disease: HFMD) เป็นโรคติดต่อที่พบบ่อยในเด็กเล็ก โดยเฉพาะในช่วงฤดูฝนหรือช่วงที่อากาศชื้น เชื้อไวรัสที่ก่อโรคสามารถแพร่กระจายได้ง่ายในสถานที่แออัด เช่น ศูนย์เด็กเล็ก โรงเรียน หรือสนามเด็กเล่น แม้โรคนี้มักไม่รุนแรงและหายได้เองภายใน 7–10 วัน แต่ในบางกรณีอาจก่อให้เกิด ภาวะแทรกซ้อนอันตราย ที่ผู้ปกครองต้องเฝ้าระวังอย่างใกล้ชิด

สล็อต xo Slotxo

บทความนี้จะอธิบาย ทุกเรื่องที่ควรรู้เกี่ยวกับโรคมือเท้าปาก ตั้งแต่สาเหตุ อาการ การรักษา การดูแลที่บ้าน ภาวะแทรกซ้อน ไปจนถึงวิธีป้องกัน เพื่อช่วยให้ผู้ปกครองเข้าใจและเตรียมรับมือได้อย่างถูกต้อง

โรคมือเท้าปากเกิดจากอะไร?

โรคนี้เกิดจากการติดเชื้อไวรัสในกลุ่ม Enterovirus โดยมีสายพันธุ์ที่พบบ่อยที่สุด ได้แก่

  • Coxsackievirus A16 – มักทำให้เกิดอาการไม่รุนแรง เด็กสามารถหายเองได้ 
  • Enterovirus 71 (EV71) – เป็นสายพันธุ์ที่อันตรายกว่า เพราะอาจทำให้เกิด เยื่อหุ้มสมองอักเสบ สมองอักเสบ หรือกล้ามเนื้อหัวใจอักเสบ 

การแพร่เชื้อ

  • การสัมผัสโดยตรงกับน้ำลาย น้ำมูก อุจจาระ หรือสารคัดหลั่งของผู้ป่วย 
  • การไอ จาม และละอองฝอยจากทางเดินหายใจ 
  • การใช้ของร่วมกัน เช่น ของเล่น แก้วน้ำ ช้อนส้อม หรือสิ่งของที่ปนเปื้อนเชื้อ 
  • การอยู่ในพื้นที่ปิดที่มีผู้ติดเชื้อ เช่น ห้องเรียนหรือสถานเลี้ยงเด็ก 

โรคมือเท้าปาก

อาการของโรคมือเท้าปาก

ช่วงฟักตัวของโรค: สุขภาพ หลังจากได้รับเชื้อ มักใช้เวลา 3–6 วัน ก่อนแสดงอาการ

อาการเริ่มต้น

  • ไข้ต่ำถึงไข้สูง 
  • เจ็บคอ 
  • เบื่ออาหาร 
  • อ่อนเพลีย 

อาการจำเพาะของโรค

  • แผลในปาก: มักขึ้นที่ลิ้น กระพุ้งแก้ม และเหงือก ทำให้เด็กเจ็บเวลากินอาหารหรือน้ำ 
  • ผื่นหรือตุ่มน้ำใส: ขึ้นบริเวณฝ่ามือ ฝ่าเท้า ก้น และบางรายอาจพบตามลำตัวหรือต้นขา 
  • น้ำลายไหลมาก: เนื่องจากแผลในปากทำให้กลืนลำบาก 

อาการที่ควรรีบพบแพทย์ทันที

  • ไข้สูงเกิน 39°C ติดต่อกันหลายวัน 
  • เด็กซึม ไม่เล่น อ่อนแรง 
  • มีอาการชัก 
  • หอบเหนื่อย หายใจลำบาก 
  • อาเจียนซ้ำ ๆ หรือดื่มน้ำไม่ได้ 

การวินิจฉัยโรคมือเท้าปาก

แพทย์จะวินิจฉัยโดยการซักประวัติและตรวจร่างกายเป็นหลัก เนื่องจากลักษณะผื่นและแผลในปากค่อนข้างจำเพาะ
บางกรณีแพทย์อาจตรวจเพิ่มเติม เช่น

  • การเก็บตัวอย่างสารคัดหลั่ง เพื่อตรวจหาเชื้อไวรัส 
  • การตรวจเลือด หากสงสัยภาวะแทรกซ้อนรุนแรง 

อาการของโรคมือเท้าปาก

การรักษาโรคมือเท้าปาก

ปัจจุบัน ยังไม่มียารักษาเฉพาะ การรักษาเป็นการบรรเทาอาการและป้องกันภาวะแทรกซ้อน

การรักษาทั่วไป

  • ยาลดไข้และแก้ปวด เช่น พาราเซตามอล หลีกเลี่ยงการใช้แอสไพรินในเด็ก 
  • ยาชาเฉพาะที่ (ตามดุลยพินิจแพทย์) เพื่อลดอาการเจ็บแผลในปาก 
  • ให้ดื่มน้ำมาก ๆ เพื่อป้องกันการขาดน้ำ 
  • รับประทานอาหารอ่อนหรือเย็น เช่น โจ๊ก ซุป ไอศกรีม เพื่อลดความเจ็บปวด 

การดูแลผู้ป่วยที่บ้าน

  • ให้พักผ่อนมาก ๆ 
  • แยกของใช้ส่วนตัว เช่น แก้วน้ำ ช้อนส้อม ผ้าเช็ดหน้า 
  • เช็ดตัวลดไข้ หากไข้สูง 
  • รักษาความสะอาดสิ่งแวดล้อมและของเล่นเด็ก 

ภาวะแทรกซ้อนที่ควรระวัง

แม้โรคนี้ส่วนใหญ่จะหายเอง แต่เชื้อ Enterovirus 71 สามารถก่อให้เกิดภาวะแทรกซ้อนรุนแรงได้ เช่น

  • เยื่อหุ้มสมองอักเสบ (Meningitis): มีอาการปวดศีรษะรุนแรง คอแข็ง 
  • สมองอักเสบ (Encephalitis): มีอาการชัก ซึม หรือหมดสติ 
  • กล้ามเนื้อหัวใจอักเสบ (Myocarditis): ทำให้หัวใจเต้นผิดจังหวะหรือหัวใจวาย 
  • ปอดบวมหรือระบบไหลเวียนล้มเหลว (พบไม่บ่อยแต่มีอันตรายถึงชีวิต) 

วิธีป้องกันโรคมือเท้าปาก

  1. ล้างมือบ่อย ๆ ด้วยสบู่และน้ำสะอาด โดยเฉพาะก่อนกินอาหารและหลังเข้าห้องน้ำ 
  2. ทำความสะอาดของเล่นและสิ่งของเครื่องใช้ ที่เด็กสัมผัสบ่อย ๆ 
  3. แยกเด็กป่วยออกจากกลุ่มเด็กอื่น อย่างน้อย 7–10 วันจนกว่าจะหาย 
  4. หลีกเลี่ยงสถานที่แออัด ในช่วงมีการระบาด 
  5. สวมหน้ากากอนามัย หากมีอาการไอ จาม เพื่อป้องกันการแพร่เชื้อ 

โรคมือเท้าปากในผู้ใหญ่

แม้จะพบได้น้อยกว่ามาก แต่ผู้ใหญ่ก็สามารถติดโรคมือเท้าปากได้ โดยอาการมักไม่รุนแรง เช่น มีไข้ต่ำ ผื่น และเจ็บคอ อาจหายภายในไม่กี่วัน อย่างไรก็ตาม ผู้ใหญ่ยังสามารถแพร่เชื้อไปยังเด็กเล็กได้ จึงควรป้องกันด้วยการล้างมือและหลีกเลี่ยงการใกล้ชิดกับเด็กเมื่อมีอาการ

FAQ – คำถามที่พบบ่อย

Q: โรคมือเท้าปากอันตรายแค่ไหน?
A: ส่วนใหญ่ไม่รุนแรงและหายได้เอง แต่บางกรณีอาจมีภาวะแทรกซ้อนที่อันตรายถึงชีวิต

Q: โรคมือเท้าปากกลับมาเป็นซ้ำได้หรือไม่?
A: ได้ เพราะเชื้อไวรัสมีหลายสายพันธุ์ การติดเชื้อครั้งหนึ่งไม่ได้สร้างภูมิคุ้มกันต่อทุกสายพันธุ์

Q: ควรหยุดเรียนหรือไม่หากเด็กป่วย?
A: ควรหยุดเรียนอย่างน้อย 7–10 วัน เพื่อป้องกันการแพร่เชื้อไปยังเด็กคนอื่น

Q: ผู้ใหญ่ที่สัมผัสเด็กป่วยต้องระวังอย่างไร?
A: ล้างมือบ่อย ๆ ไม่ใช้ของร่วมกับเด็ก และสังเกตอาการตนเอง หากมีไข้หรือผื่นควรพักผ่อนและแยกตัวออกจากเด็ก

โรคมือเท้าปาก เป็นโรคที่ผู้ปกครองต้องเฝ้าระวังอย่างใกล้ชิด แม้จะไม่รุนแรงในเด็กส่วนใหญ่ แต่ก็มีความเสี่ยงต่อภาวะแทรกซ้อนที่อันตราย โดยเฉพาะหากเกิดจากเชื้อ Enterovirus 71 การรู้จักสังเกตอาการ การดูแลที่ถูกต้อง และการป้องกันการแพร่เชื้อ จะช่วยลดความเสี่ยงและทำให้ลูกน้อยปลอดภัยมากขึ้น

👉 หากคุณเป็นพ่อแม่ผู้ปกครอง อย่าลืมแชร์ความรู้เกี่ยวกับโรคนี้ เพื่อช่วยป้องกันการแพร่ระบาดในชุมชนและโรงเรียน