Tuesday, 21 October 2025

ไวรัส RSV ตัวร้ายของเจ้าตัวน้อย โรคทางเดินหายใจที่พ่อแม่ต้องระวัง!

20 Oct 2025
201

RSV (Respiratory Syncytial Virus) คือเชื้อไวรัสที่ก่อให้เกิดโรคในระบบทางเดินหายใจ โดยเฉพาะใน เด็กเล็กอายุต่ำกว่า 5 ปี
เชื้อนี้สามารถทำให้เกิดการติดเชื้อทั้งส่วนบน (เช่น คออักเสบ น้ำมูกไหล) และส่วนล่าง (เช่น หลอดลมอักเสบ หรือปอดอักเสบ) ได้

สล็อต xo Slotxo

ในประเทศไทย มักพบการระบาดของ ไวรัส RSV มากในช่วง ฤดูฝนและฤดูหนาว ซึ่งเป็นช่วงที่ภูมิคุ้มกันของเด็กอ่อนแอ และเชื้อไวรัสแพร่กระจายได้ง่าย

🤧 อาการของผู้ติดเชื้อไวรัส RSV

ในระยะแรก ผู้ติดเชื้อ RSV มักมีอาการคล้ายไข้หวัดทั่วไป เช่น

  • มีไข้ (อาจสูงหรือต่ำก็ได้)

  • ไอ จาม น้ำมูกไหล

  • คัดจมูก หรือเจ็บคอเล็กน้อย

แต่หากเชื้อแพร่ลึกลงสู่ระบบทางเดินหายใจส่วนล่าง อาการจะรุนแรงขึ้น เช่น

  • หายใจเร็ว เหนื่อย หอบ มีเสียง “วี๊ด” หรือ “ครืดคราด”

  • มีเสมหะมาก ไอถี่ โดยเฉพาะตอนกลางคืน

  • อกบุ๋ม จมูกบานเวลาหายใจ (สัญญาณเตือนของภาวะหายใจลำบาก)

  • เด็กเล็กอาจมีอาการซึม ไม่ดูดนม หายใจแรง หรือเขียวที่ริมฝีปาก

⚠️ หากพบอาการเหล่านี้ ควรรีบพาเด็กไปพบแพทย์ทันที เพราะอาจเข้าสู่ภาวะ หลอดลมอักเสบหรือปอดบวม ซึ่งเสี่ยงต่อการหายใจล้มเหลวได้

ไวรัส RSV คืออะไร? อาการ สาเหตุ การรักษา และวิธีป้องกันสำหรับเด็ก

👶 กลุ่มเสี่ยงที่อาจเกิดภาวะแทรกซ้อนรุนแรงจากไวรัส RSV

กลุ่มที่ควรระมัดระวังเป็นพิเศษ ได้แก่

  1. ทารกคลอดก่อนกำหนด (อายุน้อยกว่า 29 สัปดาห์)

  2. เด็กที่มีโรคประจำตัว เช่น

    • โรคหัวใจ

    • โรคปอดเรื้อรัง

    • ภูมิคุ้มกันบกพร่อง

  3. ผู้สูงอายุ หรือผู้ที่มีโรคประจำตัวทางระบบหายใจ

ในเด็กกลุ่มนี้ หากติดเชื้อ RSV อาการสามารถทรุดลงได้อย่างรวดเร็ว และอาจต้องใช้เครื่องช่วยหายใจในโรงพยาบาล

💨 ไวรัส RSV ติดต่อกันได้อย่างไร?

RSV เป็นเชื้อไวรัสที่ติดต่อได้ง่ายผ่าน การสัมผัสสารคัดหลั่งจากผู้ป่วย เช่น

  • น้ำมูก น้ำลาย หรือเสมหะ

  • การไอหรือจามโดยไม่มีการปิดปาก

  • การสัมผัสของเล่น โต๊ะ หรือสิ่งของที่มีเชื้อ แล้วนำมือไปขยี้ตาหรือแคะจมูก

🧫 เชื้อ RSV สามารถอยู่ในสิ่งแวดล้อมได้นานหลายชั่วโมง และอยู่บนมือคนได้นานกว่า 30 นาที หากไม่ได้ล้างมือให้สะอาด

ระยะฟักตัวของโรค: ประมาณ 4–6 วันหลังได้รับเชื้อ

💊 การรักษาไวรัส RSV

ปัจจุบันยัง ไม่มียารักษาไวรัส RSV โดยเฉพาะ และยังไม่มีวัคซีนป้องกันเชื้อชนิดนี้ การรักษา สุขภาพ จะเป็นแบบ “ประคับประคอง” ตามอาการ เช่น

  • ให้ยาลดไข้ (เช่น พาราเซตามอล)

  • ดูดน้ำมูกหรือเสมหะออกเพื่อช่วยให้หายใจสะดวกขึ้น

  • ให้ออกซิเจนในกรณีหอบเหนื่อย

  • ให้สารน้ำทดแทนหากเด็กกินนมน้อย

  • ใช้ยาขยายหลอดลมในรายที่มีอาการหลอดลมตีบ

โดยทั่วไป ผู้ป่วยที่อาการไม่รุนแรงจะหายได้ภายใน 1–2 สัปดาห์ แต่ในเด็กเล็กหรือผู้ที่มีโรคประจำตัว อาจต้องนอนโรงพยาบาลเพื่อดูแลใกล้ชิด

วิธีป้องกันไวรัส RSV

🛡️ วิธีป้องกันไวรัส RSV อย่างมีประสิทธิภาพ

แม้จะยังไม่มีวัคซีน แต่เราสามารถลดความเสี่ยงได้ด้วยวิธีง่าย ๆ ดังนี้

  1. ล้างมือบ่อย ๆ ด้วยสบู่หรือเจลแอลกอฮอล์ทั้งก่อนและหลังสัมผัสเด็ก

  2. ใส่หน้ากากอนามัย โดยเฉพาะเมื่อมีอาการไอ จาม หรืออยู่ในที่แออัด

  3. ทำความสะอาดของเล่นและสิ่งของในบ้านเป็นประจำ

  4. แยกของใช้ส่วนตัว หากมีคนในบ้านป่วย เช่น แก้วน้ำ ช้อน ผ้าเช็ดตัว

  5. รับประทานอาหารที่มีประโยชน์และพักผ่อนเพียงพอ เพื่อเสริมภูมิคุ้มกัน

  6. หากเด็กป่วยควรหยุดเรียนหรือหยุดไปเนิร์สเซอรี่ จนกว่าอาการจะดีขึ้น เพื่อป้องกันการแพร่เชื้อ

❤️ คำแนะนำสำหรับคุณพ่อคุณแม่

  • หมั่นสังเกตอาการลูกอย่างใกล้ชิด โดยเฉพาะช่วงฤดูฝน

  • หากลูกมีอาการหอบ ไอแรง หรือกินนมน้อย ควรรีบพบแพทย์

  • หลีกเลี่ยงการให้ลูกสัมผัสกับคนป่วยหรือสถานที่แออัด

  • ดูแลสุขอนามัยของมือและของเล่นเสมอ

👩‍⚕️ คำแนะนำจากแพทย์ MedPark:

“RSV เป็นไวรัสที่อาจดูเหมือนไข้หวัดธรรมดา แต่สามารถลุกลามรุนแรงได้ในเด็กเล็ก การดูแลเชิงป้องกันและพบแพทย์ตั้งแต่เนิ่น ๆ คือหัวใจสำคัญที่สุด”

📋 สรุปข้อมูลไวรัส RSV แบบเข้าใจง่าย

หัวข้อข้อมูลสำคัญ
ชื่อเต็มRespiratory Syncytial Virus (RSV)
กลุ่มเสี่ยงเด็กอายุต่ำกว่า 5 ปี, ทารกคลอดก่อนกำหนด, ผู้สูงอายุ
อาการทั่วไปไข้ ไอ จาม น้ำมูกไหล
อาการรุนแรงหอบเหนื่อย อกบุ๋ม ปอดบวม หายใจลำบาก
การรักษาประคับประคองตามอาการ, ไม่มีวัคซีนเฉพาะ
การป้องกันล้างมือ ใส่หน้ากาก แยกของใช้ หลีกเลี่ยงคนป่วย

FAQ: คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับไวรัส RSV

Q1: RSV ต่างจากไข้หวัดทั่วไปอย่างไร?
A: RSV มีอาการคล้ายไข้หวัด แต่มีโอกาสลุกลามไปยังหลอดลมหรือปอด ทำให้หายใจลำบากได้ โดยเฉพาะในเด็กเล็ก

Q2: RSV เป็นแล้วหายขาดไหม?
A: ส่วนใหญ่หายได้ภายใน 1–2 สัปดาห์ แต่สามารถ “เป็นซ้ำได้” เพราะไม่มีภูมิคุ้มกันถาวร

Q3: ผู้ใหญ่ติด RSV ได้ไหม?
A: ได้เช่นกัน แต่จะมีอาการไม่รุนแรงเท่าเด็กเล็ก มักเหมือนไข้หวัดทั่วไป

Q4: สามารถให้ยาปฏิชีวนะรักษา RSV ได้หรือไม่?
A: ไม่ได้ เพราะ RSV เป็นไวรัส ยาปฏิชีวนะใช้เฉพาะการติดเชื้อแบคทีเรียเท่านั้น