นักวิจัย!! ปรับพันธุกรรมมะเขือเทศ เพื่อเพิ่มปริมาณวิตามินดี เพราะผักผลไม้นั้นก็จำเป็นต้องบูสท์วิตามินเหมือนกันกับมนุษย์

นักวิจัย!! ปรับพันธุกรรมมะเขือเทศ เพื่อเพิ่มปริมาณวิตามินดี เพราะผักผลไม้นั้นก็จำเป็นต้องบูสท์วิตามินให้สูงขึ้นเหมือนกันกับมนุษย์ เพราะว่าสารอาหารต่างๆที่สำคัญหลายชนิดนั้นไม่มีอยู่ในผักผลไม้บางอย่างอย่างเช่น “มะเขือเทศ” ที่เรานำมาให้ทุกคนได้ดูในวันนี้

ปรับพันธุกรรมมะเขือเทศ เพื่อเพิ่มวิตามินเพราะพวกมันนั้นก็จำเป็นจะต้องเติมเต็มเหมือนมนุษย์

เมื่อไม่นานมานี้มีข่าวออกมาว่านักวิทยาศาสตร์ในสหราชอาณาจักรเตรียมพื้นที่จะทำการเพราะปลูกมะเขือเทศที่ดัดแปลงพันธุกรรมนี้ในที่โล่งแจ้งช่วงเดือนหน้าที่ใกล้จะถึง และมีเป้าหมายสูงสุดว่าจะทำให้มะเขือเทศนั้นมีปริมาณโปรวิตามินดี 3 เพิ่มขึ้นมา ซึ่งเจ้าโปรวิตามินที่ว่าคือสารตั้งต้นของวิตามินดี ส่วนการปลูกในครั้งนี้นั้นใช้เทคโนโลยีตัดต่อพันธุกรรมที่เรียกว่า “Crispr-Cas9”

***เจีย ลี (Jie Li) ผู้นำการวิจัยนี้กล่าว

“ขั้นตอนการปลูกในครั้งนี้นั้นมันจะเหมือนกับใช้แหนบโมเลกุลคู่หนึ่งคีบตัดชิ้นส่วนของยีนที่มีขนาดเล็กออกมาได้อย่างไม่มีความผิดพลาด ซึ่งวิธีนี้นั้นมีหลายๆอย่างตามความต้องการให้พืชโตได้เร็วกว่าการเพาะแบบเดิมที่เคยใช้ แถมวิธีนี้ยังไม่มีการนำ DNA แปลกปลอมจากสายพันธุ์อื่นมาใช้ร่วมด้วย” ส่วนเจ้าวิตามินดี นั้นมีประโยชน์ช่วยเสริมสร้างความแข็งแรงให้กับกระดูกและกล้ามเนื้อ ซึ่งส่วนมากมนุษย์เราจะได้รับวิตามินจำพวกนี้จากแสงแดดที่ตกกระทบลงบนผิวของเรา ซึ่งการดัดแปลงพันธุกรรมมะเขือเทศนี้จะได้รับโปรวิตามินดี 3 และถ้าเราได้รับมันจากมะเขือเทศมันก็จะเปลี่ยนมาให้ร่างกายเรานำไปใช้งานได้แบบง่ายๆ

***กาย ป๊อบปี้ (Guy Poppy) ศาสตราจารย์ด้านนิเวศวิทยาจาก University of Southampton กล่าวว่า

มะเขือเทศปรับเปลี่ยนพันธุกรรมตัวนี้นั้นจะสะสมโปรวิตามิน 3 ในปริมาณที่มาก ซึ่งการที่นำมะเขือเทศที่ดัดแปลงแล้วนี้ไปรับประทานมันก็อาจส่งผลดีทำให้สุขภาพร่างกายแข็งแรง เพราะมะเขือเทศนั้นเป็นผักผลไม้ที่ผู้คนนิยมรับประทานกันทั่วโลกอยู่แล้ว และต้องขอบอกก่อนนะว่ามะเขือเทศดัดแปลงในครั้งนี้นั้นแตกต่างจากการทำ GMO ตรงที่ทำโดยธรรมชาติไม่มียีนจากสิ่งมีชีวิตมาดัดแปลงงทำขึ้นในครั้งนี้ แต่จะมีข้อเสียตรงที่ระยะเวลาในการทำการทดลอง ตามกฎหมายของสหราชอาณาจักรแล้ว มะเขือเทศดัดแปลงปลูกขึ้นในครั้งนี้นั้นสามารถนำออกมาให้ผู้คนลองรับประทานได้ในปี 2023