lifestyle ความเชื่อความศรัทธา เครื่องรางความรัก ใครที่ไม่สมหวัง ได้พบเจอแต่ความขัดแย้ง ชีวิตคู่ไม่ราบรื่น มาเกิดปัญหาขึ้นระหว่างทางเสมอ วันนี้เราจะพาทุกคนมารู้จักเครื่องรางที่ใช้พกติดตัว เครื่องรางสุดฮิตจากศาลเจ้าชื่อดังในญี่ปุ่น ช่วยหนุนดวงชะตาเสริมรักสุดปัง แต่ละที่มีฤทธิ์แตกต่างกัน เครื่องรางแบบไหนเน้นเรื่องอะไรในความสัมพันธ์ แต่ละวัดหรือศาลเจ้ามีคุณสมบัติโดดเด่นไม่เหมือนกัน
เครื่องรางความรัก ความเชื่อ ความศรัทธา ศาลเจ้าชื่อดังในญี่ปุ่น พกติดตัวแล้วสมหวัง แต่ต้องปฏิบัติตามกฎ
ในปัจจุบันนี้ปฏิเสธไม่ได้เลยว่าผู้คนมีความเชื่อความศรัทธาและเข้ามาสู่เส้นทางสายมูกันเป็นจำนวนมาก ซึ่งเรื่องนี้มันเกิดจากความเชื่อล้วนๆ ใครที่เจอเรื่องเหนือธรรมชาติกับตัวเอง..ยิ่งทำให้มีความเชื่อและความศรัทธามากเพิ่มขึ้น ไม่สามารถที่จะอธิบายให้คนอื่นเข้าใจได้ สายมูมีหลากหลายประเภทแล้วแต่จุดประสงค์และเป้าหมายของแต่ละคน มีทั้งมูเรื่องงาน มูเรื่องเงิน และมูเรื่องความรัก แล้ววันนี้เราจะพาทุกคนไปดู เครื่องรางความรัก มูจากไหน เน้นเรื่องอะไรต้องเป็นเครื่องรางจากศาลเจ้าที่ไหนบ้าง? ใครอยากให้ความรัก การใช้ชีวิตคู่ราบรื่น ไม่มีปัญหา สุขสมหวัง ห้ามพลาดไปดูกันเลย..
วันนี้เราจะพาเพื่อนๆมารู้จัก เครื่องรางญี่ปุ่น หรือ “เอ็นมุซุบิ” ซึ่งทั้งหมดมีความหมาย “ผูกดวงชะตาเข้าด้วยกัน” การบูชาแบบความเชื่อในญี่ปุ่นทำยังไงถึงจะให้สมหวัง ความรักราบรื่น ชีวิตคู่สุขสมหวัง โดยมีวัดและศาลเจ้าที่ขึ้นชื่อในเรื่องของความรักแลกเครื่องราง และจำนวนศาลเจ้าต่างๆที่อยู่ในโตเกียว จำนวนกว่า 1,866 แห่ง ส่วนวัดนั้นมีจำนวน 2,868 วัด และหากใครต้องการเครื่องรางและนำไปใช้อย่างสัมฤทธิ์ผล มีคำแนะนำดังต่อไปนี้…
1.ไม่ควรพกเครื่องรางหลายชิ้น ตามความเชื่อหากพบเครื่องรางในเรื่องเดียวกัน (ความรัก) ซื้อเครื่องรางมาจากหลายสถานที่ มาจากคนละเทพเจ้า ก็จะทำให้สิ่งศักดิ์สิทธิ์ตีกัน ควรเลือกพกเครื่องรางของเทพเจ้าที่เรานับถือและศรัทธามากที่สุด เพื่อช่วยให้เห็นผลได้อย่างรวดเร็ว
2.นำไปคืน เมื่อพกติดตัวครบ 1 ปี ในส่วนนี้เชื่อว่าเครื่องรางก็มีอายุนั่นก็คือ 1 ปี หากใครที่นำมาพบติดตัวแล้วสมหวังตามที่ตั้งใจ ก็ควรนำเอาเครื่องรางนั้นกลับไปคืนไว้ที่ศาลเจ้าที่ได้ไปบูชามา และถือโอกาสนี้ไปกราบไหว้เพื่อขอบคุณเทพเจ้าในศาลนั้น ในทางกลับกันหากใครที่ไม่สมหวังก็ควรนำเอาไปคืนเช่นเดียวกัน จากนั้นก็บูชามาใหม่และขอพรใหม่ ไม่ควรพกอันเดิมไว้ติดตัวตลอด หรือพกเกินเวลา 1 ปี
3.นำเครื่องรางทำสร้อยห้อยคอ ตามความเชื่อเป็นวิธีการที่ดีที่สุด ตามความเชื่อเครื่องรางเป็นของศักดิ์สิทธิ์ควรเก็บไว้ในที่สูง การทำเป็นสร้อยห้อยคอนับว่าเป็นวิธีการที่เหมาะสมที่สุด หากใครอายหรือไม่อยากให้ใครรู้ ก็ไม่ควรนำเครื่องรางไปเก็บไว้ในที่ต่ำเกินไป สำหรับคนญี่ปุ่นหากไม่ห้อยคอก็จะนำมาห้อยที่กระเป๋า หรือเก็บไว้ในกระเป๋าสตางค์
4.ห้ามแกะเครื่องราง เมื่อเรานำเอาเครื่องรางมาแล้ว แม้ว่าจะเกิดความอยากรู้อยากเห็นหรือสงสัยอะไร ตั้งคำถามอยู่ในหัวมากมาย หรือบางคนชอบแกะแงะ สิ่งนี้ไม่ควรทำเป็นอันขาดเพราะจะทำให้เครื่องรางเสียหาย เครื่องรางดีก็จะกลายเป็นเครื่องรางเสีย จากความเชื่อหากเปิดเครื่องรางหรือแกะออกมาก็จะทำให้โชคดีนั้นหลุดลอยไป
5.เก็บเครื่องรางในที่ง่ายต่อการมองเห็น เชื่อกันว่าเครื่องรางญี่ปุ่น ไม่ควรเก็บไว้ในที่มิดชิดจนเกินไป ควรจะเก็บไว้ในที่ที่เราสามารถมองเห็นได้อยู่เสมอ ทั้งนี้ก็เพื่อเป็นการแสดงตัวเตือนใจให้เราอธิษฐานอยู่เสมอ แม้ว่าเครื่องรางนั้นผ่านไปมันจะสึกหรอบ้างแต่ก็ถือว่ายังใช้งานได้
สถานที่ดังในญี่ปุ่นที่ขึ้นชื่อเกี่ยวกับ “เอ็นมุซุบิ” (เครื่องรางเสริมรักของญี่ปุ่น)
Kawagoe Hikawa
Kawagoe Hikawa คือ ศาลเจ้าชื่อดังที่ตั้งอยู่ในจังหวัดไซตามะ ศาลเจ้านี้ขึ้นชื่อในการขอโชคในเรื่องความรัก คู่รักหลายคนสมหวังภายหลังจากมาขอพรที่นี่ ศาลเจ้าแห่งนี้จะทำ เครื่องรางเอ็นมุซุบิ โดยวัตถุที่นำมาทำคือลูกแก้ว 1 วัน จะทำเพียง 20 อันเท่านั้น หากใครมาขอพรและโชคดีได้รับไปเมื่อสมหวังในความรักต้องเอามาคืน เมื่อสมหวังและนำลูกแก้วมาคืนแล้วทางศาลเจ้าจะให้แหวนได้แดงที่ชื่อว่า
“ยูมิ ฮิโมะ” เชื่อว่าได้แดงจะทำให้คนรักของคู่กันไปยาวนาน อย่างไรก็ตามหากใครที่ไปแล้วเข้าคิวไม่ทันรับลูกแก้วศาลเจ้าก็จะมีเครื่องรางไว้สำหรับบูชา โดยเป็นถุงผ้าส่งดอกไม้ ทั้งนี้ไม่มีรูปแบบที่ตายตัวขึ้นอยู่ว่าตอนนั้นคือเทศกาลอะไร ซึ่งเครื่องรางทั้งหมดก็ช่วยเสริมดวงความรักได้อย่างดีไม่แพ้กัน
Jishu
Jishu คือ ศาลเจเาที่ตั้งอยู่ภายในวัด Kiyomizu สาลเจ้าแห่งนี้มีชื่อเสียงเรื่อง “การแต่งงาน” ชื่อที่หลายคนรู้จักเป็นวัดน้ำใสแห่งเมืองโตเกียว จุดเด่นนั้นเป็น “หินทำนายรัก” โดยหินนั้นจะมี 2 ก้อน ซึ่งตั้งอยู่ห่างกัน ให้หลับตาอธิฐานพร้อมกับเดินจากหินอีกฝั่งไปอีกฝั่ง ถ้าเดินไปแตะหรืือสัมผัสที่หินอีกด้านโดยปราศจากการช่วยเหลือ เชื่อว่าคำอธิฐานจะเป็นจริงเห็นผลทันตา ส่วนเครื่องรางที่ขึ้นชื่อในศาลเจ้าแห่งนี้ คือ “คิวปิด” เครื่องรางนี้นิยมให้คู่รักพก เพราะเชื่อว่าจะทำให้ความสัมพันธ์ ความรักของคนทั้งสองราบรื่น
Tokyo Daijingu
ศาลเจ้าแห่งนี้มีคนมาขอพรและได้รับความสุขสมหวังไปจำนวนมาก เครื่องรางมีหลากหลายรูปแบบให้เลือกตามที่แต่ละคนชอบ แต่ที่โดดเด่นและยอดฮิตจะเป็น เครื่องรางรูปดอกซุซุรัน (ดอกลิลลี่) จากความเชื่อหากได้นำไปพกติดตัวจะนำพาชีวิตไปพบแต่ความสุขสมหวัง
Ikuta
ศาลเจ้าประจำเมืองโกเบ โดดเด่นในเรื่องการขอพรความรัก “เทพเจ้าแห่งสิ่งทอ” เทพเจ้าประจำศาลเจ้า หลายคนเชื่อว่าจะช่วยในการทักทอความรักสายสัมพันธ์ของคู่รักให้มีความแน่นแฟ้นมากขึ้น เครื่องรางจะนิยมหรือให้บูชาไปเป็นคู่ แม้ว่าคนโสดก็ให้บูชาไปเป็นคู่ เชื่อว่าเตี๊ยมเครื่องรางไว้ให้คนรักที่กำลังจะพบเจอในไม่ช้าหลังจากมาขอพร
Nishiki Tenmangu
ศาลเจ้าแห่งนี้ตั้งอยู่ภายในบริเวณของ “ตลาดรอชิกิ” แห่งเมืองเกียวโต สมัยก่อนจะมีชื่อในเรื่อง “การเรียน” ในปัจจุบันเชื่อว่าสามารถขอพรสมหวังในเรื่อง “ความรัก” โดยเริ่มมาจากการแปลชื่อของศาลเจ้าที่มีคำพ้อง ดังนี้
Nishiki – goi = ปลาคาร์ฟหลายสี
Koi(goi) = ปลาคาร์ฟ (ความหมายอีกอย่าง คือ “ความรัก” )
เครื่องรางในศาลเจ้าแห่งนี้ที่ขึ้นชื่อ “เครื่องรางรูปผีเสื้อคู่” ซึ่งมีความหมายที่เชื่อว่าจะทำให้คู่รักโบยบินอย่างมีความสุขไปด้วยกัน ในอีกความหมายยังเชื่อว่าเป็นเครื่องรางที่บรรเทาอาการเจ็บป่วยทั้งร่างกายและจิตใจ
Taga Taisha
ศาลเจ้าแห่งนี้มีชื่อเสียงภายในเมืองชิกะ จากตำนานเรื่องเล่าเกิดเทพเจ้าคู่สมรสคู่แรกของญี่ปุ่น และยังกำเนิดเทพเจ้าที่เป็นตัวแทนธาตุจากธรรมชาติ หรือ สามารถสรุปเข้าใจง่ายๆว่าชาวญี่ปุ่นเชื่อว่าเป็น “เกาะแห่งแรกที่กำเนิดมนุษย์” นี่ป่นเชื่อว่าเป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์แห่งการหาคู่ การตั้งครรภ์ และขอพรเรื่องสุขภาพแข็งแรงยั่งยืน นอกจากนี้ยังขึ้นชื่อว่าเป็น “สารเทพเจ้าคู่สมรส” ดังนั้นเครื่องรางความรักมักจะบูชากันไปเป็นคู่
Nishino Jinja
ศาลแห่งนี้ตั้งอยู่ที่จังหวัดฮอกไกโด ชาวญี่ปุ่นเชื่อว่าศาลแห่งนี้มีความศักดิ์สิทธิ์และทรงพลัง เนื่องจากเทพเจ้าที่สถิตอยู่ที่ศาลมีความเชี่ยวชาญในการจับคู่ การคลอดบุตร การดูแลเด็ก ส่วนเครื่องรางความรักนั้นมีหลากหลายรูปแบบให้เลือกตามความชอบ ถ้าพกติดตัวเชื่อว่าความรักชีวิตคู่จะราบรื่น รวมไปถึงการแต่งงาน
Keta Taisha
ศาลแห่งนี้ตั้งอยู่ในเมืองอิชิคาว่า “Keta” มีความหมายว่า “พลังชีวิตไหลเวียน” ชาวญี่ปุ่นเชื่อว่าพลังงานนี้ไหลเวียนอยู่เป็นจำนวนมากภายในศาล ดังนั้นจึงนิยมมาขอพรเสริมดวงหาคู่และการมีบุตร หลายคนเชื่อว่าเทพเจ้าแห่งการแต่งงานสถิตที่ศาลแห่งนี้ ส่วนเครื่องรางนั้นมีหลากหลายรูปแบบและหลากหลายสีสัน แต่ละชิ้นจะมีสัญลักษณ์ “tekichu” คำนี้มีความหมายว่า “ตี” โดยเชื่อว่ามันจะสามารถตีคำขอพรให้แตกฉาน
Koinomizu Jinja
สารแห่งนี้ตั้งอยู่ในพื้นที่ของจังหวัดไอจิ ศาลแห่งนี้ขึ้นชื่อในเรื่องของเครื่องรางความรัก ตามปกติแล้วจะไม่มีการเปิดเครื่องราง จากความเชื่อว่าจะทำให้โชคดีนั้นเลือนหาย แต่สำหรับสารแห่งนี้ต้องมีการเปิดถุงเครื่องรางเพื่อขอพร เปิดมาก็จะเห็นรูปภาพวาดของร่มแห่งความรักอยู่ภายในถุง ให้เขียนชื่อตัวเองไว้ที่ด้านซ้าย ชื่อของคนรักเขียนไว้ที่ด้านขวา ให้รอจนกว่าคำขอจะเป็นจริงจึงปิดยอดร่ม
อย่างไรก็ตามสำหรับเครื่องรางความรักนี้ คือความเชื่อส่วนบุคคลไม่ได้มีการจะชี้นำใครให้งมงาย มันเป็นหนึ่งสิ่งช่วยให้มีเครื่องหยุดเหนียวทางใจ ถ้าหากขายได้ไปท่องเที่ยวในญี่ปุ่นก็ไม่ควรพลาดที่จะไปขอพรในเรื่องความรักให้สุขสมหวัง…
สนับสนุนโดย
UFABET | UFA365 | UFABET เข้าสู่ระบบ | UFABET เว็บตรง | สล็อต เว็บตรง | SLOTXO | สล็อต | PG SLOT | สล็อต XO | สล็อต | JOKER123 | สล็อต เว็บตรง | สล็อตโจ๊กเกอร์