เปียกฝนบ่อย ระวังเชื้อรา: แชร์วิธีดูแลเท้าง่ายๆ ห่างไกลโรคผิวหนัง

เปียกฝนบ่อย ระวังเชื้อรา: แชร์วิธีดูแลเท้าง่ายๆ ช่วงหน้าฝนแบบนี้ ไลฟ์สไตล์หลายคนคงเคยเจอปัญหา “รองเท้าเปียก” หรือ “เท้าแช่น้ำ” จากการเดินลุยฝน ลุยน้ำขัง ซึ่งดูเหมือนจะเป็นเรื่องเล็ก แต่รู้หรือไม่ว่า ความชื้นสะสมที่เท้าอาจนำไปสู่เชื้อราที่เท้า (Athlete’s Foot) ได้อย่างไม่รู้ตัว และอาการจะไม่หายง่าย ๆ

เปียกน้ำแค่ไหนก็ไม่กลัว! แชร์วิธีดูแลเท้าง่ายๆ จากเชื้อราแบบง่าย ๆ

หากไม่ได้รับการดูแลที่ถูกวิธีเพื่อสุขภาพเท้าที่ดี และห่างไกลจากอาการคัน กลิ่นอับ ไปจนถึงเชื้อรา เราจึงขอพาทุกคนมาเรียนรู้ “วิธีดูแลเท้าหลังจากเปียกน้ำ” ที่ถูกต้อง ปลอดภัย และทำได้ง่ายที่บ้าน

📌 เชื้อราที่เท้า เกิดขึ้นได้อย่างไร?

เชื้อราที่เท้า หรือที่เรียกทั่วไปว่า “ฮ่องกงฟุต” มักเกิดจากการที่ผิวหนังบริเวณเท้าเปียกชื้นเป็นเวลานาน โดยเฉพาะระหว่างซอกนิ้วเท้า เป็นจุดที่อับ อากาศไม่ถ่ายเท เหงื่อออกเยอะ หรือสวมรองเท้าชื้น ๆ ซ้ำหลายวันติดกัน โดยไม่มีการผึ่งให้แห้ง นั่นคือสภาพแวดล้อมที่เชื้อราโปรดปรานที่สุด!

อาการเริ่มต้นของเชื้อราที่เท้า เช่น

• คันระหว่างซอกนิ้ว
• ผิวหนังลอก แดง แตกเป็นขุย
• กลิ่นอับแรงผิดปกติ
• มีตุ่มน้ำใส หรือแผลเปื่อย

✅ วิธีดูแลเท้าให้ปลอดภัยจากเชื้อรา หลังเปียกน้ำ

1. ล้างเท้าด้วยน้ำสะอาดและสบู่ทันที

หลังลุยฝนหรือแช่น้ำมา ควรล้างเท้าด้วยสบู่อ่อน ๆ หรือสบู่ฆ่าเชื้อ เพื่อล้างสิ่งสกปรกและเชื้อโรคออกไปก่อนที่จะแพร่กระจาย

2. เช็ดเท้าให้แห้ง โดยเฉพาะ “ระหว่างนิ้วเท้า”

ใช้ผ้าขนหนูสะอาด ซับให้แห้งทุกซอกทุกมุม เพราะความชื้นที่ตกค้างเป็นสาเหตุหลักของการติดเชื้อ

3. เปลี่ยนถุงเท้า-รองเท้า อย่าใส่ของเปียกซ้ำ

ถุงเท้าชื้นหรือรองเท้าเปียกควรนำไปผึ่งแดดทันที และไม่ควรนำกลับมาใส่ซ้ำในวันเดียวกัน เพราะเป็นแหล่งสะสมเชื้อชั้นดี

4. ทาแป้งหรือใช้สเปรย์ฆ่าเชื้อที่เท้า

สำหรับคนที่มีเหงื่อออกมาก หรือมีแนวโน้มเป็นเชื้อราได้ง่าย การทาแป้งระงับกลิ่นหรือสเปรย์แอนตี้แบคทีเรียจะช่วยลดความอับชื้นได้ดี

5. พักเท้าจากรองเท้าทึบๆ แล้วปล่อยให้เท้าได้หายใจ

หากไม่จำเป็น ควรใส่รองเท้าแตะหรือรองเท้าที่ระบายอากาศได้ดี เพื่อให้เท้าได้ฟื้นฟูและลดการอับชื้นในแต่ละวัน

💡 เคล็ดลับเพิ่มเติม: ปรับพฤติกรรมเล็กน้อย ห่างไกลเชื้อรา

• อย่าเดินเท้าเปล่าในห้องน้ำสาธารณะ
• หมั่นซักถุงเท้า เปลี่ยนรองเท้า และเช็ดพื้นรองเท้าให้แห้ง
• อย่าใช้ผ้าเช็ดตัวร่วมกับผู้อื่น
• หมั่นสังเกตสัญญาณผิดปกติของเท้าเสมอ
• หากมีอาการคันเรื้อรัง ให้พบแพทย์ผิวหนังทันที

🔍 สรุป: เท้าเปียกน้ำอาจดูไม่อันตราย แต่ถ้าละเลย อาจต้องรักษายาว!

การดูแลสุขภาพเท้าหลังเปียกน้ำ lifestyle ไม่ใช่แค่เรื่องของความสะอาดเท่านั้น แต่ยังเป็นการ ป้องกันโรคเชื้อราที่เท้า ที่อาจเกิดขึ้นได้บ่อยในหน้าฝน การรู้จักดูแลตัวเองจากสิ่งเล็ก ๆ เช่นการเช็ดเท้าให้แห้ง ก็สามารถช่วยคุณห่างไกลจากกลิ่นอับ ความคัน และโรคผิวหนังที่ไม่พึงประสงค์ได้อย่างแท้จริง

สามารถติดตามข่าวสารเพิ่มเติมสดใหม่ทุกวันได้ที่นี่