เชื่อไหมว่า!! โรคหน้านิ่งมีอยู่จริง บางคนไม่ได้หยิ่งไม่ได้โกรธอะไรใคร แต่ถ้าว่าเขาแค่เป็นคนมีใบหน้าบึ้งเป็นธรรมชาติเท่านั้นเอง!!

นักวิจัยบอกเชื่อไหมว่า!! โรคหน้านิ่งมีอยู่จริง บางคนไม่ได้หยิ่งไม่ได้โกรธอะไรใคร แต่ถ้าว่าเขาแค่เป็นคนมีใบหน้าบึ้งตึงเป็นธรรมชาติเท่านั้นเอง!! นักวิทย์เผยว่าโรคนี้มีอยู่จริงไม่ได้เป็นเพียงเหตุผลหรือข้ออ้างอย่างที่หลายๆคนคิด บางครั้งมีคนคิดว่าการทำหน้านิ่งนั้นคือหนึ่งไลฟ์สไตล์ที่โดดเด่นและเป็นเอกลักษณ์ แต่สำหรับบางคนไม่ใช่

โรคหน้านิ่งมีอยู่จริง บางคนไม่ได้หยิ่งไม่ได้โกรธอะไรใคร แต่ถ้าว่าเขาแค่เป็นคนมีใบหน้าบึ้งตึง

เชื่อว่านี้คือข่าวดีของชาวหน้านิ่งทั้งหลายที่อาศัยอยู่บนโลกมนุษย์ ข่าวดีของคนหน้านิ่งที่ว่านั้นก็คือเราสามารถอ้างได้แล้วว่าหน้านิ่งๆของเรานั้นคือหนึ่งในโรค!! เชื่อว่าหลายคนนั้นมักถูกผู้คนมองว่าหน้านิ่งและวยิ่งหรือไม่พอใจ แต่ถ้าว่าวันนี้คนหน้านิ่งจะต้องดีใจ เพราะความน่านิ่งของเรานั้นคือโรคที่ไม่อันตราย และพวกเชาเหล่านั้นก็ไม่ได้โกรธอะไรใคร เมื่อประมาณปี 2015 ที่ผ่านมานั้นได้มีการจัดทำงานวิจัยจากทีมนักวิทยาศาสตร์ Abbe Macbeth และ Jason Rogers จาก Noldus Information Technology เปิดเผยข้อมูลที่น่าสนใจสำหรับคนหน้านิ่งว่า “โรคหน้านิ่ง” มีอยู่จริง ซึ่งพวกเขานั้นได้ทำการอธิบายคร่าวๆว่าผู้คนที่มีใบหน้าบึ้งตึงบางทีเขาไม่ได้โกรธหรืออารมณ์ไม่ดีแต่อย่างใด

ในส่วนการทดลองครั้งนั้นกลุ่มนักวิจัยใช้ซอฟต์แวร์ FaceReader บอกก่อนนะว่ามันคือเครื่องมือวิเคราะห์ใบหน้าของคนดังอย่าง Kanye West, Kristen Stewart, Anna Kendrick และควีนเอลิซาเบธที่ 2 เชื่อว่าหลายๆคนนั้นรู้ดีอยู่แล้วว่ารายชื่อที่เรานำมานั้นคือบุคคลสาธารณะที่ชอบทำหน้าบึ้งตึงบ่อยๆ

ดังนั้นภาพของบุคคลตามรายชื่อที่ว่ามานั้นจึงถูกคัดเลือกและถูกนำมาใช้ในการทดลองกับซอฟต์แวร์ FaceReader ตัวนี้ หลังจากที่ทดลองเสร็จผลที่ออกมานั้นทำให้เราทราบว่า พวกเขาอยู่ในอารมณ์ปกติ 97% ส่วนอีก 3% เกิดจากร่องรอยของความเศร้า ความสุข หรือความโกรธที่ซ่อนเอาไว้ภายในส่วนลึกนั้นเอง

หากจะสรุปให้ฟังชัดๆนั้นก็คือมีเพียง 3 เปอร์เซ็นต์เท่านั้นที่คนน่านิ่งรู้สึกโกรธหหรือไม่พอใจ สำหรับโรคหน้านิ่งที่มีสีหน้าสวนทางกับอารมณ์นี้นั้นมักเกิดขึ้นกับคุณผู้หญิงมากกว่าคุณผู้ชาย สรุปแล้วว่าคนหน้าบึ้งหน้าตึงนั้นอาจจะไม่ได้อารมณ์ไม่ดีทุกคน แต่ถ้าว่ามันอาจเป็นเพราะพวกเขาเป็นโรคหน้านิ่ง สีหน้าของพวกเขาเลยแสดงออกมาแบบนั้น