Friday, 22 November 2024

อุทาหรณ์เตือนใจ คนใส่คอนแทคเลนส์ หนุ่มงีบหลับ ตื่นมาตาติดเชื้อจนบอด

ข่าวต่างประเทศ เตือนภัยสุขภาพ จากกรณีหนุ่มงีบหลับตาติดเชื้อจนมองไม่เห็น เตือนเป็นอุทาหรณ์สำหรับ “คนใส่คอนแทคเลนส์” ประสบการณ์ที่แสนเจ็บปวดแม้ว่าจะหาวิธีรักษาตั้งแต่การผ่าตัดไปจนถึงการปลูกถ่าย ท้ายที่สุดก็ไม่ช่วยให้กลับมามองเห็นได้เหมือนเดิม

สล็อต xo Slotxo

อุทาหรณ์เตือนใจ คนใส่คอนแทคเลนส์ หนุ่มแชร์ ปสก. ตาติดเชื้อรุนแรงจนบอด เพราะงีบหลับ!

อุทาหรณ์เตือนใจ คนใส่คอนแทคเลนส์ หนุ่มแชร์ ปสก. ตาติดเชื้อรุนแรงจนบอด เพราะงีบหลับ!

 

ในวันที่ 23 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา รายงานจากเดลี่แมว เปิดเผยเรื่องราวของหนุ่มจากแคลิฟอร์เนีย สหรัฐอเมริกา ซึ่งเขาเป็นนักศึกษาวัย 21 ปี นามว่า “ไมเคิล ครุมฮอลซ์” ได้ออกมาเปิดประสบการณ์ชีวิตที่แสนเจ็บปวด เนื่องจากขณะที่เขาใส่คอนแทคเลนส์และงีบหลับไปนั้น หลังจากตื่นขึ้นมาชีวิตก็เปลี่ยนเป็นสีดำ ตา 1 ข้างของเขาบอดสนิทไม่มีวี่แววที่จะกลับมามองเห็นอีกครั้ง แม้ว่าจะพยายามเข้าไปรักษาด้วยการผ่าตัดปลูกถ่ายกระจกตาแล้วก็ตาม มันสามารถกู้คืนการมองเห็นมาได้เพียง 10% เท่านั้น และแน่นอนว่ามันไม่ได้ช่วยให้เขากลับมามองเห็นได้เหมือนเดิมอีกต่อไป

ย้อนกลับไปเมื่อช่วงวันที่ 18 ธันวาคม 2565 ไมเคิลเขาได้สวมคอนแทคเลนส์ที่เป็นชนิดแบบใช้รายวัน จากนั้นเขาก็ได้งีบหลับไป 40 นาที ก่อนจะตื่นขึ้นมาคอนแทคเลนส์ก็ไม่สามารถถอดออกมาได้แล้ว จากนั้นเขาก็เห็นว่าตาข้างซ้ายของตัวเองเปลี่ยนเป็นสีเลือด การมองเห็นของเขาก็ผิดปกติและรู้สึกระคายเคืองที่ตาเป็นอย่างมาก ก่อนที่จะพยายามถอดคอนแทคเลนส์ออกมา

ช่วงแรกที่เขาถอดคอนแทคเลนส์ออกมาได้มันยังไม่มีอาการอะไรที่ผิดปกติ ก่อนจะถึงเช้าวันต่อมาเขาก็ได้ออกไปเล่นกีฬาเบสบอลกับเพื่อนปกติ เขารู้สึกว่ามีอะไรบางอย่างไม่ถูกต้องและเดินทางไปหาหมอจนได้รู้ว่าเยื่อบุของตามันอักเสบ แต่เมื่อผลตรวจออกมาสิ่งที่เขาเจอมันกลับรุนแรงมาก การเจ็บปวดและระคายเคืองที่ตาของเขามันเกิดจากการติดเชื้อเริม HSV-1 ซึ่งมันเกิดมาจากที่เขาได้นำมือไปสัมผัสกับสิ่งอื่นก่อนที่จะมาสัมผัสเข้าที่ดวงตาเพื่อจะเอาคอนแทคเลนส์นั้นออกมา ทำให้เกิดการอักเสบในดวงตาที่รุนแรงมากขึ้น แพทย์ได้เปลี่ยนมารักษาด้วยยาสเตียรอยด์ ถ้าว่าผลของมันกลับไม่ดีขึ้นเลย

ข่าวต่างประเทศ นักศึกษาวัย 21 ปี นามว่า "ไมเคิล ครุมฮอลซ์" ตาบอดเพราะใส่คอนเทคฯนอน

ชายหนุ่มเข้าการรักษาดวงตาผ่านมือแพทย์ 5 คน และยังมีผู้เชี่ยวชาญทางด้านกระจกตาอีก 2 คน จนเวลาผ่านมาถึงวันที่ 26 มกราคม 2566 ที่ผ่านมา ตาของเขาก็ได้ติดเชื้ออะแคนทามีบา หรือ AK และท้ายที่สุดเขาก็ได้สูญเสียการมองเห็นไปอย่างถาวร จากการรักษามันทำให้ตาข้างซ้ายของเขาอยู่ในสภาวะตาบอดบางส่วน หลังจากรักษาเขาสามารถมองเห็นแต่เป็นเพียงสีดำเทาๆเท่านั้น

อย่างไรก็ตามในขณะนี้เขาก็กำลังเข้ารับการผูกถ่ายกระจกตา แต่มันก็ไม่สามารถเป็นไปตามกระบวนการเนื่องจากตาของเขายังคงอักเสบอยู่ ไมเคิลได้ออกมากล่าวว่าเขารู้สึกเจ็บปวดกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นตั้งแต่แรกจนถึงช่วงที่รักษา เขายอมรับว่ายังคงกรีดร้องในความเจ็บปวดที่เกิดขึ้นเสมอ ดวงตาที่มืดบอดมันมีผลกระทบกับเขาในการใช้ชีวิต รวมไปถึงการหางานทำและการทำงานอดิเรกอื่นๆ เขาไม่สามารถที่จะเข้าสังคมได้อย่างปกติเหมือนเดิมเพราะร่างกายของเขาไม่เหมือนเดิม และยิ่งโดยเฉพาะกิจกรรมกลางแจ้งดวงตาเขาไวต่อแสงและรู้สึกเจ็บปวดทุกครั้งที่แสงส่องมา

ตอนนี้เขาใช้ชีวิตเพียงแต่ในห้องที่จะต้องปิดม่านอยู่ตลอดเวลา และมันต้องเป็นห้องที่มืดมิดที่ไม่มีแสงแดดส่องผ่าน สถานที่ที่เขาไปและอยู่คือบ้านและโรงพยาบาล อย่างไรก็ตามเหตุการณ์นี้เกิดขึ้นภายหลังจากที่เขาใช้คอนแทคเลนส์รายวันมาประมาณ 2-3 ปี และนี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่เขานอนหลับไปกลับคอนแทคเลนส์ เชื่อว่าเหตุการณ์นี้คงสามารถเตือนภัยของคนที่ชอบใส่คอนแทคเลนส์และเผลอนอนหลับจนบางครั้งการอักเสบของตามันสะสมเป็นเวลานานสุดท้ายก็กลายเป็นเรื่องร้าย อย่างเช่นไมเคิลที่ดวงตาติดเชื้อจนมืดบอดมองไม่ชัดเจนเหมือนเดิม การมองเห็นมันกระทบกับหลายอย่างในชีวิตไม่ว่าจะเป็นกิจกรรมหรือการงานต่างๆ