ชาย “ดื่มเบียร์” คืนละ 1 ลัง ติดต่อกันหลายวัน ผลที่ออกมาคือทำเขาเมาค้างไปนานนับเดือน

ข่าวต่างประเทศ ชายดื่มเบียร์คืนละ1ลัง ติดต่อกัน 4 วัน 4 คืน สุดท้ายเขานั้นก็ “แฮงก์” ยาวๆ ไปถึง 1 เดือน บอกเลยใครที่ชอบดื่มแอลกอฮอร์นั้นต้องห้ามพลาด แวะเข้ามาชมเรื่องราวนี้ก่อน สุขภาพ เพราะว่ามันอาจเป็นอุทาหรณ์เตือนใจให้สายแข็งหลายๆคนนั้นได้เกรงกลัวต่ออันตรายที่คาดไม่ถึงก็เป็นได้

ชายดื่มเบียร์คืนละ1ลัง ติดต่อกัน 4 วัน 4 คืน สุดท้ายเขานั้นก็ “แฮงก์” ยาวๆ ไปถึง 1 เดือน

ทุกวันนี้เรื่องการดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ที่ทำให้เกิดอาการมึนเมาและอาการแฮงก์นั้นกลายเป็นเรื่องปกติ แต่ก็ยังเป็นเรื่องที่วิทยาศาสตร์นั้นไม่ทราบแน่ชัดว่าเป็นเพราะอะไร หนึ่งในเหตุผลที่ว่านั้นอาจเป็นเพราะว่า “เหล้า” ที่มีชื่อทางวิทยาศาสตร์ว่า “เอทานอล” (Ethanol) คือ ยาและสารพิษ ที่มนุษย์คุ้นเคยมายาวนานที่สุดอย่างหนึ่ง

แน่นอนว่าพิษของมันอยู่ในระดับร้ายแรงที่ทำให้ตายได้ และถ้าหากได้เสพมันมากเกินไปนั้นคือตายแน่นอน แต่มนุษย์ก็นำมันมาใช้เพื่อความึนเมามาตั้งแต่สมัยโบราณแล้ว แต่ระดับการเสพ Ethanol ให้ถึงแก่ชีวิตนั้นมันไม่ได้เกิดง่ายดายนัก เพราะจำเป็นต้องเสพในปริมาณที่มากจริงๆ

แต่โดยค่าเฉลี่ยระดับการเสพ Ethanol มากจนเกินไปส่วนใหญ่นั้นจะทำให้ผู้ที่เสพมีอาการ “ปวดศีรษะ” เป็นอย่างมาก ในทางกายภาพโดยทั่วไปเราก็จะรู้จักกันในชื่อว่าอาการ “แฮงก์” ซึ่งอาการ “แฮงก์” ในทางปฏิบัตินั้นคือส่วนหนึ่งของอาการไม่พึงประสงค์ของร่างกาย

ในกระบวนการทำงานของร่างกายในการกำจัด Ethanol ออกจากร่าง หรือพูดให้เข้าใจง่ายๆ คือผลข้างเคียงของการ ดื่มเหล้า ที่จะเกิดขึ้นภายหลังจากการ ดื่มแอลกอฮอร์ เพราะผลข้างเคียงใดๆ ที่เกิดตอนดื่มเหล้า เราจะนับมันเป็น ความเมา ไม่ใช่ “การแฮงก์”

และเจ้าอาการปวดหัวรามมาถึงที่การปวดดวงตาขนทำให้รู้สึกเบลอนี่ก็เป็นเรื่องที่ธรรมดามากๆสำหรับสายดื่มสายกิน เพราะทุกคนที่ชอบดื่มที่ชอบกินนั้นทราบกันดีอยู่แล้วละว่า มันจะทรมานมากมายขนาดไหนเมื่อดื่มหนักๆ แม้มันจะผ่านไปได้ก็ตาม และเมื่อเราแก่ตัวลงเวลามันก็จะผ่านช้าลงไปด้วย

อย่างเช่น เมื่อก่อนเคยเมาคน แฮงก์อยู่แค่ 1 วัน ก็หาย แต่ถ้าอายุเพิ่มขึ้นก็อาจจะใช้เวลาประมาณ 2-3 วันถึงหาย และมันก็เป็นการแฮงก์ที่ยาวนานมากขึ้น คำอธิบายทางวิทยาศาสตร์ก็นั้นบอกว่าเป็นเพราะตับเราที่ทำหน้าที่กำจัด Ethanol ทำงานได้แย่ลงตามวัยที่มากขึ้น การกำจัด Ethanol ในระบบทำได้ช้าลง มันก็แฮงก์นานขึ้น เป็นปกติ

ว่าแต่อาการแฮงค์นานเท่าไรถึงจะเรียกว่ามันผิดปกติ? คือมันต้องใช้ระยะเวลาที่นานมากเพียงใดในการจดบันทึกเอาไว้ของนักวิจัยที่เรียกว่าอันตราย คำตอบก็คือมีบันทึกทางวิทยาศาสตร์เอาไว้อย่างชัดเจนว่า มนุษย์สามารถพบเจอกับอาการแฮงก์ยาวๆ ได้อย่างต่ำ 1 เดือน!

โดยเรื่องนี้ได้รับการเขียนอธิบายรายละเอียดเอาไว้ในสื่อสิ่งพิมพ์ทางการแพทย์ 10 อันดับอย่าง The Lancet โดยเรื่องราวมีจุดเริ่มต้นมาจาก เมื่อช่วงเดือนตุลาคมปี 2006 ที่ผ่านมา มีชายวัย 37 ปี คนหนึ่งเดินทางไปหาหมอด้วยอาการปวดหัวปวดตาแบบไม่ทราบสาเหตุ

ซึ่งเขานั้นก็ทำให้คุณหมอนั้นมึนและ “งง” เป็นอย่างมากฟลังดูผลการตรวจ เพราะหมอนั้นไม่ได้ตรวจพบเจอการติดเชื้ออะไรเลยในตัวของชายคนดังงกล่าว ส่วนสัญญาณชีพต่างๆ ก็ชายคนดังกล่าวนั้นก็ปกติดีหมด ซึ่งก็แน่นอน ชายผู้นี้ก็กินยาแก้ปวดมาทุกขนานแล้วไม่หาย เลยมาหาหมอ

หลังจากถามประวัติของคนไข้ชายคนดังกล่าวแบบละเอียด หมอก็ได้ความว่าก่อนหน้านี้ประมาณ 1 เดือนที่ผ่านมา คนไข้ชายรายนี่นั้นพบเจอกับปัญหาเกี่ยวกับครอบครัว เลยส่งผลให้คนไข้ชายรายนี้นั้นดื่มเบียร์ทุกๆวันติดต่อกันเป็นเวลา 4 วัน 4 คืน รวมๆ แล้ว 60 ไพนต์ หรือประมาณ 34 ลิตร

ซึ่งถ้าหาเราลองคิดเป็นปริมาณเบียร์ขวดใหญ่ที่จำหน่ายอยู่ที่ประเทศไทยนับกรอกขวดได้ 55 ขวบ หรือสรุปง่ายๆก็คือคนไข้ชายรายนี้นั้นดื่มเบียร์ไปมากกว่า 1 ลังกว่าๆ เป็นเวลาติดต่อกันถึง 4 วัน แน่นอนผลเบื้องต้นคือแฮงก์ตามปกติ ก็อาเจียนอะไรไป แต่ปัญหาที่ตามมาคืออาการปวดหัวต่อเนื่องยาวมาเป็นเดือน

และเขานั้นเห็นว่าอาการมันหนักมากและไม่ได้คิดว่าอาการทั้งหมดนั้นเป็นเพราะเขานั้นดื่มเบียร์มากจนเกินไป คนไข้ชายรายนี้เขาเลยไม่ได้แจ้งคุณหมอไปตั้งแต่แรก ในตอนที่คุณหมอจับคนไข้รายนี้ทำ CT Scan สมอง จึงพบว่ามีร่องรอยการโจมตีสมองของระบบภูมิคุ้มกันตัวเอง คือมันมีแรงดันมากกว่าปกติเลยทำการตรวจเลือดต่อ

แน่นอนว่าผลเลือดที่ออกมานั้นมันชี้ให้เห็นอย่างชัดเจนว่าผลเลือดของคนไข้รายนี้นั้นเต็มไปด้วยสารต้านการแข็งตัวของเลือด ซึ่งนั่นแสดงให้เห็นว่ามันคือสัญญาณเตือนว่า ร่างกายกำลังบอกว่ามีสิ่งแปลกปลอมอยู่และพยายามกำจัด และพอสารพวกนี้ไปกองแถวสมองเยอะๆ มันเลยทำให้เกิดการปวดหัวแบบไม่หยุดหย่อ

สุดท้ายหมอก็ทำการรักษาคนไข้ชายรายนี้ด้วยการให้ยาเพื่อสร้างสมดุลให้กับการแข็งตัวของเลือดกันไปแบบยาวๆเกือยครึ่งปี และเมื่อช่วงเดือนกรกฎาคม 2007 คนไข้ชายคนดังกล่าวที่ทุกข์ทนกับอาการปวดหัวก็หายจากอาการปวกหัว โดยที่ไม่กลับมาปวดหัวซ่ำอีกเลย

กรณีที่เกิดขึ้นกับคนไข้ชายรายนี้แน่นอนมันพิสูจน์ว่าผลของการดื่มเหล้าเบียร์หรือแอลกอฮอร์หนักๆ ระดับอาการแฮงก์มันอาจอยู่กับเรานานนับเดือนเลยก็ว่าได้ถ้าหนักจริง และถ้ามันไปทำให้ระบบภูมิคุ้มกันของร่างกายรวนไปด้วยแล้ว ผลมันก็อาจจะยาวกว่านั้น ก็ต้องรักษาอะไรกันไปให้ระบบภูมิคุ้มกันมันกลับมาทำงานปกติ

แต่ถ้าเรานั้นมองกลับไปดูต้นเหตุของปัญหาของคนไข้ชายรายนี้นั้นคือเขาไม่ใช่คนที่ติดสุราติดแอลกอฮอร์อะไรเลย แต่เขานั้นเป็นชายวัยกลางคนที่ต้องพบเจอกับวิกฤตครอบครัวบางอย่างที่น่าจะแก้ไขไม่ได้ จนสุดท้ายต้องพึ่งเหล้าเบียร์เพื่อให้รู้สึกว่าปัญหามันดูเบาบางลง และทำให้ชีวิตมันพอจะดำเนินต่อไปไหว และมันคือสาเหตุหลักๆของผู้ชายหลายๆคน