ภัยพิบัติล้างโลก เริ่มเยื่อนเอเชีย ฟิลิปปินส์ เจอไต้ฝุ่นครั้งใหญ่ 208 ชีวิตสังเวย

ข่าวต่างประเทศล่าสุด เมื่อวันที่ 20 ธันวาคม 2564 เว็บข่าดัง “รอยเตอร์” รายงานล่าสุดสะเทือนขวัญ ภัยพิบัติล้างโลก เริ่มลามมาฝั่งเอเชียแล้ว หลังประเทศชาวเกาะ ฟิลิปปินส์เจอปัญหาครั้งใหญ่ไต้ฝุ่นลูกยักษ์ถล่มราบ

ซูเปอร์ไต้ฝุ่น-น้ำท่วมครั้งใหญ่ ภัยพิบัติล้างโลก ฟิลิปปินส์-มาเลเซีย เริ่มเยื่อนเอเชีย ความเสียหายหนักสุดไม่แพ้สงครามโลก 2

ภัยพิบัติล้างโลก สืบเนื่องจากโฆษกของกรมตำรวจของประเทศฟิลิปปินส์ ออกมาแถลงการณ์เกี่ยวกับยอดการเสียชีวิตของประชาชนที่ตกเป็นเหยื่อพายุต้ฝุ่นขนาดยักษ์ Rai เมื่อในสัปดาห์ที่ผ่านมาที่พัดเข้ามาถล่มเมืองอย่างรุนแรง นอกจากนี้การตรวจสอบเบื้องต้นพบศพจำนวน 208 ราย ซึ่งนอนตายอยู่ภายใต้ซากประรักหักพัง

นอกจากจะมีประชาชนล่มตายเป็นจำนวนมากแล้ว ยังมีชาวฟิลิปปินส์ที่สูญหายและยังหาไม่เจอตัวอีกเป็นจำนวน 52 ราย อย่างไรก็ตามเจ้าหน้าที่เร่งระดมพลลงพื้นที่ตรวจค้นหาและบริการประชาชนที่ได้รับความเดือดร้อนที่ยังมีชีวิตรอด

นอกจากนี้มีการรายงานข้อมูลเพิ่มเติมอีกว่าชาวฟิลิปปินส์กว่า 490,000 ราย ต้องพลัดจากถิ่นฐานบ้านเกิด เนื่องจากพายุใต้ฝุ่นลูกยักษ์นี้ไปทางทะเลจีนใต้ เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว

พายุไต้ฝุ่นไม่ได้เพียงพัดเข้ามาทำร้ายบ้านเมือง หากแต่ยังทิ้งร่องรอยความเสียหายไว้ให้ชาวฟิลิปปินส์ได้ดูท่ามกลางความสูญเสียครั้งใหญ่ ปธ.กาชาด นายริชาร์ด กอร์ดอน ได้ออกมาแถลงการณ์เพิ่มว่าหลายพื้นที่ซึ่งได้รับผลกระทบในครั้งนี้ได้ถูกตัดกระแสไฟฟ้าทั้งเมือง จากสาเหตุนี้ทำให้ขาดการติดต่อสื่อสารอย่างลำบากและการคมานาคมก็ยังมาหยุดชะงักเพราะใช้การไม่ได้ พื้นที่ถูกพายุถล่มช่างเป็นภาพที่สลดตามันเหมือนราวกับเกิดสงครามโลกครั้งที่ 2 ที่ถูกโยนระเบิดบ้านเรือนกลายเป็นซาก

ทางด้านประธานนาธิบดีของประเทศฟิลิปปินส์ นายโรดริโก ดูเตอร์เต ได้ออกมากล่าวต่อประชาชนประกาศให้คำสัญญาว่าจะดำเนินการเยียวยาจัดเงินงบประมาณมากกว่า 40 ล.เหรียญสหรัฐไปให้กับประชาชนทุกจังหวัดที่ได้รับผลกระทบและเดือดร้อนจากภัยพิบัติในครั้งนี้

เมื่อ 19 ธันวาคม 25664 AFP ได้ออกมารายงานด้วยเช่นเดียวกันว่าประเทศมาเลเซียเป็นอีกหนึ่งประเทศในแทบเอเชียซึ่งขณะนี้ได้รับความเดือดร้อนเนื่องจากกำลังพบกับปัญหา “น้ำท่วม” ครั้งใหญ่มากกว่าที่ภายมา ประชาชนได้รับผลกระทบหนักจนต้องอพยพประชาชน 3 หมื่นคนของทั้ง 8 รัฐออกจากพื้นที่ถิ่นกำเนิด

วันอาทิตย์รัฐบาลของประเทศมาเลเซีย เร่งออกประกาศผ่านเว็บข่าวของรัฐ รายงานระดับน้ำที่มีปริมาณเพิ่มขึ้นสูงจนเลยขีดจุดเตือนอันตรายเกิดขึ้นทั้งหมด 6 รัฐ ที่มีพื้นที่อยู่ในภาคกลาง –ภาคตะวันออก และช่องทางการเดินรถประจำทางสายต่างๆทั้งในและโดยรอบพื้นที่เมืองหลวงเจ้าหน้าที่ก็ได้สั่งระงับ ขณะเดียวกันสถานที่บัดน้ำกว่า 3 แห่งได้หยุดทำการเช่นกัน และจากคำสั่งนี้ทำให้ประชาชนขาดน้ำดื่มน้ำใช้ท่ามกลางวิกฤต “น้ำท่วม”

นายกฯมาเลเซีย นายอิสมาอิล ซาบรี ยาคอบ ได้ออกมากล่าวด้วยว่า มวลน้ำที่มาจากฝนฟ้าคะนองของรัฐสลังงอร์เมื่อไม่กี่วันที่ผ่านมานี้มีปริมาณเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วเพราะมีฝนตกต่อเนื่องตลอดเดือน อย่างไรก็ตามจะเร่งจัดเจ้าหน้าที่เข้าไปช่วยเหลือประชาชนที่ประสบภัยในครั้งนี้อย่างแน่นอน และในเบื้องต้นได้จัดสรรคงบประมาณจำนวน 23. ล.เหรียญสหรัฐ นำไปใช้ในการซ่อมตึก อาคารที่อยู่อาศัยทดแทนสิ่งที่ได้พังเสียหาย ประเทศมาเลาเซียเคยเจอวิกฤตน้ำท่วมต้องอพยพประชาชน 118,000 ราย หนีน้ำครั้งสุดท้ายเมื่อปี ค.ศ. 2014