เกิดอะไรขึ้น!? ข้าวใหม่ปลามัน หนุ่มวิวาห์ 33 วัน ขอหย่าภรรยา แถมติดป้ายทวงสินสอด

ข่าวต่างประเทศ รายงานเรื่องสดช็อก ทำเอาชาวโซเชียลมึนงง หนุ่มวิวาห์ 33 วัน ขออย่าภรรยาและได้ขึ้นป้ายประกาศทวงเงินคืน ข้อมูลเปิดเผยว่าชายคนนี้ได้นำเงินมาทุ่มเพื่อจัดงานมงคลสมรสกับแฟนสาวสุดอลังการ สุดท้ายคู่รักข้าวใหม่ปลามันชีวิตคู่กับพังลงไม่เป็นท่า ไม่เหมือนที่เคยคิดเอาไว้

หนุ่มวิวาห์ 33 วัน ขอหย่าภรรยา เผยพุ่มเงินจัดงานแต่งสุดอลัง หมดไปกว่า 2.5 ล้าน สุดท้ายทำป้ายทวงเงินคืน!!

รายงานจากเว็บไซต์ข่าว south china morning post ชายชาวจีนรายหนึ่งได้ไปกู้หนี้ยืมสินมาด้วยเงินจำนวนมาก เพื่อหวังเอาเงินจำนวนนี้มาเป็นค่าจัดงานแต่งกับแฟนสาว โดยเงินที่กู้มามีจำนวน 510,000 หยวน หรือคิดเงินไทยเป็นจำนวน 2.5 ล้านบาท แต่พอทั้งสองได้ร่วมใช้ชีวิตคู่ไปเพียง 33 วัน สุดท้ายครอบครัวก็พังลงอย่างไม่เคยคาดคิดมาก่อน ซึ่งฝ่ายชายได้มีการป่าวประกาศเขียนป้ายทวงเงินจากฝ่ายหญิงอดีตเมียรัก ให้ช่วยออกเงินค่าจัดงานแต่งให้คืนเขาทั้งหมด

หนุ่มแซ่โหว่วัย 25 ปี ชาวบ้านจากมณฑลเหอหนาน พื้นที่ทางตอนกลางของประเทศจีน ล่าสุดชายผู้นี้ได้ตกเป็นที่สนใจของโลกออนไลน์ ซึ่งประเด็นที่ทำให้เขาได้รับการสนใจนั้นมาจากที่ตัวเขาได้จัดแคมเปญเมื่อช่วงปลายเดือนพฤศจิกายน 2565 โดยเจ้าตัวได้มีการเรียกร้องเงินคืนจากฝ่ายเจ้าสาว หรืออดีตภรรยา จำนวนเงิน 140,000 หยวนหรือคิดเป็นเงินไทยร่วม 700,000 บาท เงินจำนวนนี้เป็นเงินครึ่งหนึ่งที่เขาได้กู้ยืมมาเพื่อจัดงานแต่งสุดอลังการ

ต่อมาชายหนุ่มได้มีการออกมาสัมภาษณ์กับสำนักข่าวเพื่อเปิดเผยข้อมูลเกี่ยวกับอดีตเจ้าสาวที่เขาเลือกแต่งงานด้วย เดิมทีผู้หญิงคนนี้เขาได้รู้จักผ่านแม่ซื้อ เมื่อรู้จักกันได้เพียง 3 วันก็ทำการหมั้นหมาย วางอนาคตเพื่อสร้างครอบครัวด้วยกัน

และได้มีการติดต่อกู้ยืมเงินจำนวนมากเพื่อมาจัดงานแต่งสุดหรูของเขาทั้งคู่ อย่างไรก็ตามฝ่ายครอบครัวของชายหนุ่มไม่ว่าจะเป็นพ่อแม่ทุกคนล้วนต่างตั้งหน้าตั้งตาทำงานโอที ไปถึงงานพิเศษต่างๆเพื่อหาเงินมาใช้หนี้ที่ยืมมาจากญาติหลายคน

ชายหนุ่มได้ติดตั้งลำโพงบนรถของเขา พร้อมกับได้เขียนป้ายติดเอาไว้ด้วยซึ่งมีการระบุเรียกร้องขอเงินคืนจากอดีตภรรยาหญิงสาวของสกุลแซ่หลี่ โดยภายหลังจากที่ทั้งคู่ได้มีการแยกย้ายกันอยู่ ฝ่ายหญิงได้กลับมาอยู่กับพ่อแม่ที่บ้านในปียาง

ทั้งนี้ชายหนุ่มได้มีการเปิดเผยข้อมูลต่อเนื่องว่าเขาและอดีตภรรยาได้มีการโต้เถียงกัน หรืออาจเรียกได้ว่ามีการทะเลาะกันของทั้งสองฝ่าย สาเหตุเกิดจากเผาได้เผลอหลับไป โดยเมื่อภรรยาที่เพิ่งกลับมาจากทำงานนอกบ้านเธอไม่สามารถเข้ามาพักผ่อนในบ้านได้ และต้องอาศัยอยู่นอกบ้านในช่วงกลางดึก จากนั้นด้วยความไม่พอใจฝ่ายภรรยาก็ย้ายออกจากบ้านเป็นระยะเวลา 1 เดือนแล้ว ภายหลังจากที่ทั้งสองเพิ่งจะเข้าวิวาห์การในช่วงปลายเดือนมกราคม 2565 หรือต้นปีที่ผ่านมา

และไม่นานนักชายหนุ่มก็ได้ยื่นเรื่องขอหย่ากับภรรยา เพราะว่าเขากลับถูกศาลของเมืองปีหยางทำการยกเลิกคำร้องในเดือนมิถุนายน 2565 ที่ผ่านมา สาเหตุที่ทางศาลยกเลิกเนื่องจากฝ่ายหญิงได้มีการไปยืนยันกับศาลว่าเธอและเขาแต่งงานและอยู่ด้วยกันอย่างมีความสุข แต่ฝ่ายชายก็ไม่ยอมแพ้ที่จะเลิกลาอย่าขาดทางกฎหมาย เขาได้ยื่นเรื่องไปอีกครั้งเพื่อให้ศาลได้พิจารณาจนได้รับคำร้องและจะมีการพิจารณาเรื่องนี้อีกครั้งภายในเดือนหน้า

ย้อนไปช่วงที่ทั้งคู่ได้รู้จักกัน ทั้งสองได้มารู้จักกันผ่านแม่สื่อ เมื่อได้พูดคุยก็รู้สึกตกหลุมรักกัน จนได้พูดคุยกันเป็นเวลา 3 วัน ทำให้รู้ว่าทั้งสองอาศัยอยู่ห่างกันเพียง 3 กิโลเมตร เมื่อทั้งคู่รู้ใจตัวเองก็ได้ทำการหมั้นหมาย เพื่อหวังจะสร้างอนาคตด้วยกัน

จากนั้นได้ไปดูการจัดงานแต่ง ทำให้รู้ว่าต้องใช้เงินเป็นจำนวนมากในพิธีวิวาห์ และงานวิวาห์ของทั้งคู่ก็จัดขึ้นอย่างอลังการหรูหรามากกว่างานแต่งโดยทั่วไปที่เคยเกิดขึ้นในมณฑลเหอหนาน ในทางกลับกันรายได้เฉลี่ยของประชาชนอยู่ที่ 22,000 หยวน หรือ 100,000 บาท นอกจากนี้ยังมีค่าใช้จ่ายที่นอกเหนือจากการจัดงานแต่ง นั่นก็คือ รถยนต์-เงินสินสอด-ของขวัญในงานหมั้น

ด้วยค่าใช้จ่ายที่มีจำนวนมากทำให้ฝ่ายชายต้องไปกู้ยืมเงินมาจำนวน 160,000 หยวน ซึ่งคิดเป็นเงินไทยร่วม 800,000 บาท เงินในส่วนนี้เขาไปกู้ยืมมาจากญาติหลายคน สวนเงินอีกจำนวนนึงก็เป็นเงินเก็บของพ่อและแม่ ที่ได้สู้ทนทำงานพิเศษมาอย่างยากลำบาก

เรื่องราวความรักครอบครัวงานแต่งที่ล้มเหลวของทั้งสองคน ได้ทำให้ชาวเน็ตบนโลกออนไลน์นำไปถกเถียงกันอย่างดุเดือด โดยหัวข้อหลักคือเงินค่าจัดงานแต่งหรูหราที่แสนแพงซึ่งเกิดขึ้นภายในเมืองเล็กๆแห่งหนึ่ง หลายคนมองว่ามันเป็นพื้นที่ชนบท การจัดหรูหราอลังการมันก็เป็นการเพิ่มภาระค่าใช้จ่ายให้กับหลายครอบครัวเช่นเดียวกัน

อย่างไรก็ตามภาระค่าใช้จ่ายในการจัดงานแต่งควรจะมีการเปิดเผยมากขึ้น ไม่ว่าจะเรื่องค่าสินสอดต่างๆที่อย่างน้อยก็เริ่มต้นในจำนวนเงิน 100,000 หยวน หรือ 500,000 บาท สุดท้ายแล้วครอบครัวของฝ่ายชายต้องไปกู้ยืมเงินมาเพื่อจัดงานแต่งให้ การสร้างครอบครัวที่เต็มไปด้วยหนี้สิน ชาวเน็ตหลายคนไม่เห็นด้วยในประเพณีและวัฒนธรรมนี้ ต่างเรียกร้องให้รัฐบาลจีนออกมาปฏิรูปในเรื่องนี้ “เงินสินสอด” พิธีกรรมงานจัดเลี้ยงงานหมั้น หลายเรื่องราวการสร้างครอบครัวที่เต็มไปด้วยค่าใช้จ่ายจำนวนสูง ค่าสินสอดที่ฝาชาจะต้องมอบให้ฝ่ายหญิง เรื่องราวเหล่านี้มันเริ่มไม่ใช่ความรักการสร้างครอบครัวที่ดี แต่เป็นเหมือนการทำธุรกิจเสียมากกว่า สุดท้ายแล้วคู่รักก็ล้มเหลวในการสร้างครอบครัว สาเหตุมันเกิดมาจากปัญหาหนี้สินที่ยืมมาจัดงานแต่งงานทั้งนั้น!!