อย.สหรัฐฯเตรียมยาทำแท้ง ให้ผู้ป่วยขอรับยาผ่านไปรษณีย์ได้

อย.สหรัฐฯเตรียมยาทำแท้ง ข่าวต่างประเทศเผยว่าทางองค์การอาหารและยาของสหรัฐฯ ได้เตรียมส่งยาทำแท้งให้แก่ผู้ป่วยเพื่อลดระยะการพบปะจากเหตุโควิด19 โดยผู้ป่วยสามารถขอรับการรักษาได้ที่บ้าน

อย.สหรัฐฯเตรียมยาทำแท้ง ส่งมอบให้ผู้ป่วยรอรับยาที่บ้านผ่าน ปณ.

เมื่อที่ 16 ธันวาคม นี้ ทางสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยาแห่งสหรัฐอเมริกา (FDA) ได้ประกาศให้ผู้ที่ต้องการทำแท้งสามารถรอรับยาอยู่บ้านได้ โดยยาทำแท้งจะถูกส่งผ่านบริการรับส่งของไปรษณีย์

การทำแท้งด้วยยาจะสิ้นสุดกระบวนการเมื่อรับประทานยาเม็ดที่สองเข้าไป การตั้งครรภ์จะหยุดลง ซึ่งได้กลายเป็นความนิยมอย่างแพร่หลาย การเปลี่ยนแปลงข้อจำกัดดังกล่าวทำให้เป็นที่ถกเถียงถึงผลกระทบที่อาจตามมา จากกลุ่มผู้ต่อต้านการทำแท้ง ขณะที่ทางศาลฎีกากำลังหารือเกี่ยวกับยกเลิกสิทธิ์การทำแท้ง

หลังจากทาง อย.ของสหรัฐฯ ได้อนุมัติการใช้ยา mifepristone ร่วมกับ misoprostol เพื่อการทำแท้งในปี 2000 ซึ่งก็ไม่ได้เปลี่ยนแปลงการเข้าถึงการทำแท้งได้ทันทีอย่างที่หลายคนหวังไว้ แต่ก็เป็นจุดที่ทำให้มีการพัฒนาและเติบโตขึ้นเรื่อย ๆ จนในปัจจุบันมีการทำแท้งในผู้ที่ตั้งครรภ์ไม่ถึง 9 สัปดาห์ เป็นจำนานมากกว่าครึ่งนึง

โลกมีการแปรเปลี่ยนไปตามกาลเวลา ด้านรัฐบาลกลางจึงได้มีการปรับเปลี่ยนข้อบังคับบางส่วนในการใช้ยาทำแท้ง ซึ่งมีผู้สนับสนุนสิทธิการทำแท้งได้แย้งว่า อย. ไม่ตามทันวิทยาศาสตร์ที่กำลังพัฒนาเพื่อพิสูจน์ความปลอดภัยของตัวยาดังกล่าว

แม้จะมีข้อกำหนดใหม่ให้ผู้ป่วยไม่ต้องเดินทางมารับยาด้วยตนเองแล้ว แต่ทาง อย. ก็ได้รักษากฎบางข้อเอาไว้ อย่างผู้ป่วยที่ขอรับยาทำแท้งต้องกรอกข้อมูลการขอรับตัวยาเพื่อการรักษา และทางแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเองก็ต้องกรอกข้อมูลล่วงหน้ากับผู้จัดจำหน่ายยา เพื่อขอสิทธิ์ในการสั่งยาให้ผู้ป่วย

ทางศาลฎีกาได้รับคำท้าทายต่อสิทธิการห้ามทำแท้งในอายุครรภ์ 15 สัปดาห์จากรัฐมิสซิสซิปปี้ และห้ามทำแท้งเมื่ออายุครรภ์ 6 สัปดาห์ในเท็กซัส ปัญหาที่ต้องเจอในการทำแท้งนั้นขึ้นอยู่กับว่าผู้ป่วยอาศัยอยู่ที่ใด

ในสหรัฐอเมริกามี 19 รัฐที่ออกกฎหมายห้ามใช้ตัวยา telemedicine เพื่อการทำแท้ง นั่นทำให้สิ่งที่ อย. ตั้งใจจะทำถูกปิดกั้น หากรัฐที่ปกครองโดยอนุรักษ์นิยมไม่อนุญาตให้มีการทำแท้งอย่างเต็มรูปแบบ ผู้ป่วยที่ต้องการทำแท้งซึ่งอยู่ห่างไกลอาจะต้องเดินทางหลายร้อยกิโลเมตรเพื่อเข้ารับการรักษาจากคลินิกที่ใกล้ที่สุด ซึ่งอาจมีผลต่อจำนวนผู้ป่วยที่เดินทางมาเข้ารับการรักษาในรัฐที่มีความเสรีในการทำแห้ง และนั่นจะทำให้ใช้ระยะเวลาในการรอคิวนานขึ้น

การทำแท้งด้วยยาจึงเป็นการสร้างความยืดหยุ่นในผู้ป่วยที่ต้องการรักษา โดยที่พวกเขาสามารถทำตามขั้นตอนที่ถูกต้องได้เองที่บ้าน ยกตัวอย่างการจำกัดการทำแท้งในอายุครรภ์ที่ไม่เกิน 6 สัปดาห์ของเท็กซัส ด้วยจำนวนผู้ป่วยที่เพิ่มมากขึ้น พวกเขาอาจต้องรอนานกว่าอายุครรภ์ที่พวกเขาจะสามารถเข้ารับการรักษาได้อย่างถูกกฎหมาย การลบข้อจำกัดของบริการทำแท้งด้วยยาจึงเป็นทางเลือกให้ผู้ป่วยสามารถเข้ารับการรักษาได้อย่างรวดเร็ว