“คนขับรถลาก” เผยความจริงหลังโดนโวย รัฐไม่ได้ช่วยและออกค่าน้ำมันเอง

ข่าวทั่วไทย สำหรับในกรณีน้ำท่วมในหลายพื้นที่ของประเทศไทยหนักและเบาปนกันไป ล่าสุด “คนขับรถลาก” ในพื้นที่น้ำท่วมในจังหวัดอุบลราชธานี หลังจากพาผู้คนข้ามน้ำและได้ถูกโวยว่าเก็บค่าโดยสาร 20 บาท รีบออกแจงว่าเขาต้องออกค่าน้ำมันเองทุกอย่างใช่ว่าได้รับการซัพพอร์ตจากรัฐฯ

โวยว่าโดนเก็บค่าพาข้าม 20 บาท “คนขับรถลาก” เผยความจริง! ค่าน้ำมันออกเอง ไม่ได้รับการสนับสนุนจากทางรัฐฯแต่อย่างไร

ผู้โดยสารออกโวยปมการเรียกเก็บเงินค่าใช้บริการ 20 บาท “คนขับรถลาก” ล่าสุด ต้องออกมาชี้แจงเพื่อสร้างความเข้าใจกันใหม่อีกครั้ง เพราะการที่เขาเองเอารถออกมาช่วยขับให้คนสามารถเดินทางไปทำงานหรือธุระอื่นได้นั้น เนื่องจากได้เรียกร้องขอความช่วยเหลือมาอีกที และเขาเองต้องควักเงินตัวเองจ่ายค่าน้ำมัน และการเอารถออกมาช่วยก็ไม่ได้รับการสนับสนุนจากทางรัฐบาลในเรื่องเงินจ่ายค่าน้ำมัน

11 ตุลาคม 2565 – รายงานสถานการณ์การเออล้นของแม่น้ำมูลที่มูลน้ำมีปริมาณมากจทำให้พื้นที่โดยรอบยิ่งเฉพาะบ้านเรือที่อยู่ใกล้แม่น้ำได้ถูกน้ำท่วมพังเสียหายไปจำนวนมาก ปริมาณน้ำนั้นมีมากกว่าหลายครั้งที่ผ่านมา และมันยากเกินควบคุม รายงานเปิดเผยว่าน้ำล้นตลิ่งมามากกว่า 4 เมตรครึ่งในพื้นที่ถนนหลายสายในตัวเมืองจังหวัดอุบลราชธานี นั้นหมายความว่าไม่สามารถเดินทางผ่านด้วยรถเล็กได้เลย

จากรายงานยังบอกอีกว่าบริษัทเอกชน 4-5 ราย ได้นำเอารถลากออกมาให้บริการ รับ-ส่ง เพื่อให้คนข้ามฝากถนนที่ถูกน้ำท่วมบริเวณริมอ่างเก็บน้ำห้วยวังนอง และในบริเวณพื้นที่ถนนเลี่ยงเมืองในฝั่งตะวันออก ทั้งนี้ก็เพื่อหนีรถติดจากถนนเส้นหลัก เดินทีมีถนนทั้งหมด 4 สาย หรือรวมเป็น 12 เลน แต่ในเวลานี้เหลือเพียงถนนเส้นเดียวเท่านั้นที่จะสามารถข้ามฝั่งแม่น้ำได้ นั่นก็คือ “ถนนเลี่ยงเมือง 231” ซึ่งอยู่ฝั่งตะวันออก และมีเพียง 2 เลน เวลาต่อมาเกิดการร้องเรียกเรื่องการเก็บค่าขนส่งกับประชาชนที่จะใช้บริการกับรถมอเตอร์ไซต์ 20 บาท/คัน

ทางด้าน “นายทวีศักดิ์ วะลิสาร” ได้ออกมาพูดว่า เขาได้นำเอารถลากออกมาเพื่อให้บริการประชาชนได้เดินทางข้ามฝั่งถนนที่ถูกน่ท่วมสูง ก่อนหน้ามีคนมาขอความช่วยเหลือโดยคนนั้นเป็นผู้นำชุมชน ทำให้เขาเองก็เรียกเก็บค่าใช้บริการจากชาวบ้าน โดยจะเก็บเฉพาะรถที่จะเอาข้ามไปฝั่ง ที่เรียกเก็บเพื่อให้เป็นค่าสึกหรอ ไหนจะค่าลูกน้องที่มาขนรถขึ้นและลง แต่ถ้าหากมีหน่วยงานของรัฐมายื่นมือช่วยเหลือค่าใช้จ่ายส่วนนี้ก็คงไม่ได้เรียกเก็บค่าใช้บริการอะไรจากชาวบ้าน เนื่องจากก็มีความตั้งใจที่จะให้ความช่วยเหลือ แต่คนที่เขานั่งรถเพียงข้ามไปมักจะยัดเหยียดเงินให้ และจะบอกว่าให้เพื่อช่วยเป็นค่าน้ำมันรถ ไม่ได้มีการเรียกเก็บจากคนข้ามฝั่ง

นางสาวชนิตา พรหมมินทร์ หนึ่งใชนประชาชนที่มาใช้บริการรถลากข้ามฝั่ง ออกมากล่าวว่า เธอมีความเข้าใจต่อรถลากที่มาบริการพาข้ามฝาก เพราะช่วยให้ไม่ต้องขับรถไปเองไกลเพราะต้องอ้อมหนีน้ำท่วม 20 กิโลเมตร การเรียกเก็บค่ารถที่จะนำข้ามฝาก 20 บาท/คัน สำหรับคนที่ข้ามฝากปกติก็สามารถขึ้นฟรี มากไปกว่านั้นคนที่เอารถมาให้บริการข้ามฝากเขายังช่วยยกสิ่งของต่างๆอีก สำหรับการร้องเรียนที่เกิดขึ้นนั้น เธอคิดว่าเป็นเรื่องที่ไม่ควรเกิดขึ้นและไม่ถูกต้อง เนื่องจากการเรียกเก็บก้ไม่ได้แพงอะไรมาก และรถลากเขาต้องเติมน้ำมันในการ รับ-ส่ง ชาวบ้านทุกคน และแน่นอนว่าถ้ารถเขาเกิดพังเสียหายเรื่องนี้มันไม่คุ้มกับค่าซ้อม เธอพอใจกับการบริการของรถลากและค่าบริการที่เรียกเก็บ