จับกลางโรงพัก !! อัจฉริยะ ล่อซื้ออดีตตำรวจ เรียกรับเงินใต้โต๊ะช่วยคดีให้ผู้ต้องหา

ข่าวทั่วไทย นักข่าวรายงาน วันที่ 10 สิงหาคม 2564 เวลา 14.00 น. นายอัจฉริยะ เรืองรัตนพงศ์ ซึ่งเป็นประธานชมรมช่วยเหลือเหยื่ออาชญากรรม นายสมศักดิ์ วาสุโพธิ์ ผู้เสียหาย นายจีระพงษ์ กลมเกลี้ยง ทนายความ และเจ้าหน้าที่ตำรวจ ปปป. วางแผนที่จะล่อซื้อ พ.ต.ท.ประชา อดีตสารวัตรสอบสวน สภ.เมืองนนทบุรี ได้มีการเรียกรับเงินใต้โต๊ะ เพื่อช่วยคดีให้กับนายสมศักดิ์ ซึ่งเป็นผู้ต้องหาคดีฉ้อโกง โดยจะมีการช่วยทำสำเนาคดีให้อ่อนลง โดยได้เรียกเงินในการช่วยเหลือครั้งนี้จำนวน 100,000 บาท บุก จับกลางโรงพัก พร้อมกับธนบัตร 1,000 บาท จำนวน 100 ใบ รวมเป็นจำนวนเงิน 100,000 บาท ซึ่งเป็นธนบัตรที่ปลอมแปลงขึ้นมาเพื่อล่อซื้อ

อัจฉริยะ ล่อซื้ออดีตตำรวจ เรียกรับเงินใต้โต๊ะช่วยคดีให้ผู้ต้องหา

นายอัจฉริยะ กล่าวว่า ตนได้รับแจ้งขอความช่วยเหลือจากนายสมศักดิ์ ซึ่งตกเป็นผู้ต้องหาในคดีฉ้อโกง อยู่ที่สภ.เมืองนนทบุรี โดยได้เล่าว่า มีเจ้าหน้าที่ตำรวจรายหนึ่ง ได้มีการเรียกเก็บเงิน เพื่อช่วยทำสำนวนคดีให้อ่อนลง จำนวนเงินกว่า 100,000 บาท

ตนจึงได้มีการติดต่อไปยัง พ.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว ผู้บังคับการตำรวจ ปปป. พร้อมด้วย นายจีระพงษ์ กลมเกลี้ยง ทนายความของผู้ต้องหา เพื่อทำการวางแผนนำเงินจำนวน 1 แสนบาท เพื่อมาล่อซื้อ ซึ่งได้มีการนัดส่งให้ภายในห้องพนักงานสอบสวน ชั้นที่ 2 สภ.เมืองนนทบุรี ซึ่งขณะที่เข้าจับกุม พ.ต.ท.ประชา พร้อมของกลาง เป็นเงินจำนวน 1 แสนบาทในลิ้นชักโต๊ะทำงาน ก่อนจะมีการควบคุมตัวไปทำการสอบสวนต่อไป

นายจีระพงษ์ ทนายความของผู้ต้องหา เผยว่า เมื่อ 2 วันที่แล้ว นายสมศักดิ์หรือผู้ต้องหา ซึ่งเป็นลูกความของตน ได้โทรศัพท์มาเพื่อขอคำปรึกษาว่า ถูก พ.ต.ต.ประชา ซึ่งได้มีการอ้างตัวว่าเป็นเจ้าพนักงานสอบสวน โดยเป็นเจ้าของคดีได้มีการเรียกลูกความของตนไปสอบปากคำในคดีฉ้อโกงที่ตกเป็นผู้ต้องหานับ 10 ครั้งแล้ว

ซึ่งล่าสุดเจ้าหน้าที่สอบสวนรายนี้ ได้มีการเรียกเงินค่าทำสำนวนคดีให้อ่อนลง เป็นจำนวนเงิน 1 แสนบาท ตนซึ่งทำการปรึกษากับนายอัจฉริยะเพื่อขอความช่วยเหลือ จึงได้มีการวางแผนที่จะล่อซื้อเจ้าหน้าที่สอบสวนรายนี้ เนื่องจากตนมีความสงสัยเกี่ยวกับพฤติกรรมของเจ้าพนักงานรายนี้

กระทั่งได้ทราบว่า พ.ต.ท.ประชา เคยเป็นสารวัตรสอบสวน สภ.เมืองนนทบุรี แต่ได้มีการเกษียณอายุราชการแล้วเมื่อปี 2558 ซึ่งเจ้าพนักงานสอบสวนคดีที่แท้จริงคือ ร.ต.อ.ธวัช ยั่งยืน

จึงได้มีการวางแผนกับทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ ปปป. นำเงินมาล่อซื้อ พร้อมนัดหมายส่งมอบที่ห้องเจ้าพนักงานสอบสวน ที่โต๊ะ พ.ต.ต.ประชา ใช้นั่งทำงานเป็นเจ้าพนักงานสอบสวนภายใน สภ.เมืองนนทบุรี

ส่วน พ.ต.อ.ยรรยง สันติปรีชาวัฒน์ รอง ผบก.ภ.จว.นนทบุรี ได้มีการเดินทางเพื่อมาร่วมตรวจสอบในเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เผยว่า รายละเอียดในคดีต้องรอการสอบสวนอย่างละเอียดอีกครั้ง โดยต้องให้ความเป็นธรรมกับทั้ง 2 ฝ่าย

โดยหากพบการกระทำผิดจริง ทางผบก.ภ.จว.นนทบุรี ได้สั่งการให้ดำเนินคดีโดยเฉียบขาดทันที เบื้องต้นได้มีการตั้งข้อหาแอบอ้างเป็นเจ้าพนักงานและข้อหาพยายามฉ้อโกง