บ้านลุงพิการ ไฟไหม้วอดทั้งหลังพร้อมกับเงินที่เก็บมาทั้งชีวิต 134,000 บาท

ข่าวล่าสุด เมื่อวันที่ 11 ธันวาคม 2564 ผู้สื่อข่าวรายงาน บ้านลุงพิการ ไฟไหม้วอดไม่เหลือแม้แต่เงินที่เก็บอดออมมาทั้งหมดก็ถูกให้ทำให้เพื่อนบ้านต่างพากันสงสารและร่วมแรงกันเข้าช่วยเหลือทั้งเห็นใจโชคชะตา

สุดเศร้า! บ้านลุงพิการ ถูกไฟไหม้ทั้งหลัง เงินเก็บตลอดชีวิตอยู่ในกองเพลิงสูญหายไปกับตา ผู้ใหญ่บ้านและเพื่อนบ้านเร่งช่วยเหลือ

กรณี เกิดเพลิงไหม้ บ้านลุงพิการ เหตุเกิดขึ้นที่บ้านเดชอุดม ตำบลอ้อมกอ อำเภอบ้านดุง จังหวัดอุดรธานี เจ้าของบ้านคือ นายหนูกาฬ หาละภูมิ วัย 57 ปี ซึ่งเป็นคนพิการโดยเป็นผลมาจากการไปรักษาผ่าตัดเนื้องอกในสมอง จากนั้นทำให้แขน-ขาด้านซ้าย มีอาการอ่อนแรง และงอไม่ปกติ

เมื่อเกิดไฟไหม้บ้านผู้ใหญ่บ้านและเพื่อนบ้านโดยรอบก็เร่งออกมาช่วยกันดับไฟพร้อมกับประสานให้รถดับเพลิงจาก อบต.อ้อมกอ มาช่วยดับเพลิงในบ้านหลังเกิดเหตุด้วย เนื่องจากไฟได้ลามไหม้อย่างรวดเร็ว สุดท้ายเมื่อเพลิงสงบ บ้านก็ถูกไหม้วอดไปทั้งหลัง ในส่วนของนายหนูกาฬ ผู้เป็นเจ้าของบ้านที่ป่วยพิการก็มองดูบ้านถูกไฟไหม้เป็นตะโกดำด้วยความเศร้า ก่อนเผยว่าได้เก็บเงินสดไว้ในกระป๋องทาสี และกระป๋องนั้นอยู่ในบ้านที่ไฟไหม้ เงินที่เก็บประกอบไปด้วยเงินแบงค์ 100 500 1,000 ทั้งหมดรวมๆแล้วเป็นเงิน 134,000 บาท เงินจำนวนนี้เป็นเงินที่สะสมมาทั้งชีวิต

เมื่อผู้สื่อข่าวรู้จึงเดินทางลงพื้นที่บ้านลุงพิการ พบว่าเพื่อนบ้านมากมายต่างเข้ามาให้การช่วยเหลือลุงพิการ ขนเอาสิ่งของเครื่องนอน และมากไปกว่านั้นเพื่อนบ้านมีน้ำใจช่วยกันรวบรวมเงินจำนวนหนึ่งให้แก่นายหนูกาฬไว้ใช้จ่าย

สภาพบ้านหลังเพลิงไหม้สงบลงก็เหลือเพียงเสาบ้านและเศษซากของถ่านไม้ นายหนูกาฬ ได้เล่าว่า ก่อนเกิดเหตุตนได้ก่อไฟเพื่อที่จะหุงข้าวแล้วก็เดินไปเล่นเพื่อนรุ่นพี่ที่อยู่ภายในหมู่บ้าน ผ่านไปไม่นานมีเพื่อนบ้านมาบอกว่าที่บ้านของตนไฟไหม้ ตอนนั้นรู้สึกตกใจมากจึงรีบกลับบ้าน แต่พอไปถึงบ้านก็เห็นว่าทุกอย่างได้ไหม้ไปหมดแล้ว ตนนั้นได้แต่เสียดายเงินสดที่ได้มัดเงินธนบัตรเป็นปึกๆไว้ รู้สึกหมดแล้วชีวิตนี้ เพราะเงินบางธนบัตรไหม้แค่เพียงครึ่งเดียว

เงินก้อนนี้ใช้เวลาเก็บเล็กผสมน้อยตลอดชีวิตที่ผ่านมาตั้งแต่มาอยู่ที่บ้านหลังนี้กับแม่ตั้งแต่ 40 ปีที่แล้ว แต่แม่ก็ได้มาจากไปแล้ว 11 ปีที่แล้ว จากวันนั้นก็อาศัยอยู่ที่บ้านหลังนี้คนเดียว เงินที่เก็บได้ส่วนใหญ่มาจากเงินเดือนคนพิการ และเงินที่ตนขายควายได้ แต่สุดท้ายเงินก็มลายหายไปหมดสิ้น

ทางด้านผู้ใหญ่บ้าน นายสำลี ผลานารถ ได้ออกมาเล่าว่า ลุงหนูกาฬเท่าที่ตนรู้จักมาเขาเป็นคนดี อาศัยอยู่ตัวคนเดียว แต่ก่อนเขาผ่าตัดเนื้องอกในสมอง แขน-ขา ไม่ค่อยมีแรงเดินเหินไม่สะดวกและถ้าหากใครที่อยากให้ความช่วยเหลือก็สามารถติดต่อผ่านตนมาด้วยเบอร์ 098-397117

เมื่อช่วงสายนายอำเภอบ้านดุงและปลัดอำเภอ ได้เดินทางลงพื้นที่มาดูบ้านไฟไหม้ โดยได้มีการแจ้งว่าจะดำเนินการช่วยเหลือนายหนูกาฬในขั้นตอนต่อไป เพราะผู้ใหญ่บ้านและเพื่อนบ้านต่างให้ความเป็นห่วงเป็นใยเพราะพิการและยังอยู่ตัวคนเดียว

นายอำเภอ ได้กล่าวว่าเงินสดของนายหนูกาฬจำนวนกว่า 134,000 บาท ซึ่งตอนนี้ถูกไฟไหม้ไปหมดแล้ว เบื้องต้นในการตรวจสอบพบว่าไฟไหม้เงินบางส่วน ตนได้ประสานเรื่องที่เกิดขึ้นกับเจ้าหน้าที่ธนาคารแล้วให้นายหนูกาฬนำเงินไปแลกได้ในส่วนที่เสียหายแต่เพียงน้อยตามพิจารณาเห็นสมควรของบริษัท และจากกรณ์ที่เกิดขึ้นตนก็อยากจะฝากเรื่องนี้ไว้เป็นอุทาหรณ์สำหรับประชาชนที่ชอบเก็บเงินสดไว้ในบ้านจึงอยากฝากเตือนให้นำเงินไปฝากธนาคารน่าจะเป็นทางเลือกที่ดีที่สุด และสาเหตุที่การจุดไฟหุงข้าวมักจะมีถ่านไฟหลงเหลือไม่มอดหลับสนิทจึงติดไฟได้ง่ายนับว่าเป็นเชื้อเพลิงชั้นดี