หนุ่ม ปีนเสาวิทยุ 70 เมตร เครียดธุรกิจเจ๊ง ติดหนี้กว่า 3 ล้านบาท ลูกเสียชีวิต ภรรยาหนีไปมีคนใหม่

ข่าวทั่วไทย เมื่อวันที่ 18 สิงหาคม 2564 เวลา 12.20 น. พันตำรวจโท นพดล วิเศษศรี รองผู้กำกับการ สภ.นาข่า อำเภอเมืองอุดรธานี ได้รับแจ้งเหตุจากศูนย์วิทยุ 191 กองบังคับการตำรวจภูธร จังหวัดอุดรธานี โดยได้รับแจ้งว่ามีคนพยายามจะ ปีนเสาวิทยุ 70 เมตร ภายในสถานีวิทยุเสียงสามยอด บ้านไก่เถื่อน ตำบลหมูม่น หลังได้รับแจ้ง พันตำรวจตรี ชัยยศ ศรีสุตตา สวป.สภ.นาข่า พร้อมทั้ง อาสากู้ภัยส่งเสริมธรรม รีบเข้าไปตรวจสอบยังที่เกิดเหตุ

ปีนเสาวิทยุ 70 เมตร เครียดธุรกิจเจ๊ง ติดหนี้กว่า 3 ล้านบาท

หลังจากที่ได้เดินทางไปถึงที่เกิดเหตุพบ เสาส่งสัญญาณวิทยุสูง 70 เมตร และรถจักรยานยนต์ Honda wave สีแดง ทะเบียน 1678 อุดรธานี จอดอยู่บริเวณใต้เสา พร้อมกับพบชายหนุ่ม ทราบชื่อคือนายศุภชัย อายุ 36 ปี ได้ปีนขึ้นไปบนเสาสูงถึง 20 เมตร ท่ามกลางอากาศที่ร้อนอบอ้าว โดยมีนายพรชัย อายุ 38 ปี ซึ่งเป็นดีเจของสถานียืนพูดเกลี้ยกล่อมอยู่ราว 20 นาที นายศุภชัยจึงยอมปีนเสาไฟลงมา เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้นำน้ำมาให้ดื่มและให้ยาดม

นายศุภชัย เผยว่า ตนทำธุรกิจน้ำสมุนไพรเจ๊งเป็นหนี้เกือบ 30 ล้านบาท ลูกสาวที่เพิ่งจะคลอดได้เพียง 1 เดือน เสียชีวิตไปเนื่องจากคลอดก่อนกำหนด พอตนมีปัญหาเรื่องการเงิน ภรรยาที่อยู่กันมานานกว่า 5 ปี ก็มาทิ้งกันไปมีคนอื่น พร้อมทั้งจะเอารถยนต์ไปด้วย เพราะเป็นชื่อของภรรยา ตนจึงรู้สึกเครียดมาก หาทางออกไม่เจอ ช่วงเช้าของวันตนได้ทำการขับขี่รถจักรยานยนต์ไปนั่งที่บริเวณเถียงนาของตัวเอง นั่งคิดแก้ปัญหาแต่ก็หาทางออกไม่ได้ จึงได้ทำการขับรถมายังสถานีวิทยุ จากนั้นก็ทำการปีนเสาส่งสัญญาณวิทยุ นั่งเล่นอยู่บนนั้นนานราว 20 นาที หลังจากนั้นเพื่อนได้มาเรียกให้ตนลงมา จึงทำการปีนลงมา

นายพรชัย มุกสิกบุญเลิศ อายุ 38 ปี ซึ่งเป็นดีเจประจำสถานีวิทยุเสียงสามยอด และอดีตเพื่อนร่วมงาน เล่าว่า นายศุภชัย เคยทำงานเป็นพนักงานควบคุมเสียงอยู่ที่สถานีวิทยุแห่งนี้ แต่ทว่าได้ลาออกไปเมื่อ 2 – 3 เดือนก่อน เนื่องจากมีปัญหาหนี้สิน ก่อนที่จะเกิดเหตุตนกำลังนั่งทานข้าว ได้พบเห็นคนขับขี่รถจักยานยนต์มาจอด และทำการปีนขึ้นไปบนเสาสัญญาณวิทยุ โดยตนก็ไม่รู้ว่าเป็นนายศุภชัย จึงได้ทำการเดินออกมาดู และตะโกนถามว่ามาทำอะไร แต่ก็ไม่มีการตอบคำถามแต่อย่างใด จึงได้นำเอาโทรศัพท์มือถือมาถ่ายวิดีโอเอาไว้ จากนั้นนายศุภชัยก็ได้เรียกชื่อของตน จึงทำให้ตนทราบว่าเป็นนายศุภชัย ตนจึงได้เรียกให้ลงมา และปลอบใจ พร้อมกับให้กำลังใจ ว่าทุกคนก็มีหนี้ มีปัญหา แต่ปัญหาทุกอย่างมีทางแก้ไข

พันตำรวจโท นพดล วิเศษศรี รองผู้กำกับการ สภ.นาข่า เล่าว่า สาเหตุเกิดจากความเครียด เนื่องจากเศรษฐกิจไม่ดี ทำให้ธุรกิจเจ๊งกว่า 3 ล้านบาท ลูกตาย เมียหนีไปมีคนอื่น และหาทางออกไม่ได้จึงได้ทำการปีนเสาส่งสัญญาณวิทยุ เจ้าหน้าที่ได้ทำการเกลี้ยกล่อมอยู่นานราว 20 นาที จึงได้ทำการปีนลงมา เมื่อได้โทรสอบถามญาติ ก็ได้ทราบว่าเป็นเรื่องจริง เจ้าหน้าที่จึงได้นำตัวมาส่งบ้าน เนื่องจากสถานการณ์โควิดจึงส่งผลให้เศรษฐกิจไม่ดี ให้ทำใจ ให้หายใจเข้ายาวๆ ปัญหาก็จะคลี่คลายลงไปเอง ทำให้รับผลกระทบกันทั่วประเทศ อย่าคิดมาก ซึ่งการคิดฆ่าตัวตายไม่ได้ช่วยแก้ปัญหา รออีกสักพักคงแก้ปัญหาได้

ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจ หน่วยกู้ภัย และเพื่อนได้พูดปลอบใจ พร้อมกับให้กำลังใจว่า ทุกคนก็มีหนี้สิน มีปัญหา แต่ว่าปัญหาทุกอย่างมีทางแก้ไข จึงทำให้กลับไปหาแม่ที่บ้าน ซึ่งนายศุภชัย ได้ไหว้ขอโทษเจ้าหน้าที่ทุกคน และได้ทำการโอบกอดนายพรชัย ซึ่งเป็นอดีตเพื่อนร่วมงาน ก่อนที่จะทำการขึ้นรถกู้ภัย เพื่อกลับไปยังบ้านของตน