สุดจะทนแล้ว !! ป้าหัวร้อน อาละวาดด่าทอ เพื่อนบ้านอดทนมานานหลายปี

เมื่อวันที่ 10 สิงหาคม 2564 เวลา 16.00 น. นักข่าวได้มีการเดินทางไปยังบ้านแห่งหนึ่ง ภายในหมู่บ้าน ต.คลองเกลือ อ.ปากเกร็ด จ.นนทบุรี ได้พบกับ นายสมบัติ อายุ 45 ปี ซึ่งเป็นเจ้าของบ้าน โดยเป็นผู้มีปัญหา ทะเลาะกับเพื่อนบ้านติดกัน ซึ่งถูกเพื่อนบ้าน เป็นคุณ ป้าหัวร้อน ด่าทอ กลั่นแกล้ง ต่างๆ นานา

ป้าหัวร้อน อาละวาดด่าทอ กลั่นแกล้ง ต่างๆ จนเพื่อนบ้านทนไม่ไหว

ซึ่งนายสมบัติกับภรรยา พร้อมด้วยแม่ยาย ออกไปเดินห้างสรรพสินค้า แถวแจ้งวัฒนะแห่งหนึ่ง จากนั้นได้ถูกคุณป้าหัวร้อน ตรงเข้ามาตบหน้ากลางห้างสรรพสินค้า นายสมบัติและครอบครัว จึงได้เข้าไปแจ้งความกับทางเจ้าหน้าที่สอบสวน สน.ทุ่งสองห้อง เพื่อดำเนินคดี

วันเสาร์ที่ผ่านมา ป้าหัวร้อนรายนี้ ซึ่งมีบ้านอยู่ติดกับบ้านของนายสมบัติ คุณป้าได้มีการถือมีดออกมากวัดแกว่ง พร้อมกับต่อว่า ด่าทอ ทางครอบครัวของนายสมบัติ โดยทางลูกสาวของป้าหัวร้อน ได้มีการนำโทรศัพท์มือถือถ่ายคลิปวิดีโอเหตุการณ์โต้เถียงสุดเดือดเอาไว้ ซึ่งทางนายสมบัติเองก็ได้มีการถ่ายคลิปวิดีโอเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นไว้เช่นเดียวกัน ก่อนจะนำเอาไปโพสต์ผ่านทางโลกออนไลน์ จนเกิดเป็นกระแสวิพากษ์วิจารณ์ ป้าหัวร้อนรายดังกล่าว

นายสมบัติ ได้ออกมาเปิดเผยกับนักข่าวว่า ตนและครอบครัวอยู่ที่นี่มานานหลายปีแล้ว ซึ่งได้มีปัญหาทะเลาะเบาะแว้งกับบ้านหลังที่อยู่ติดกัน โดยเป็นบ้านของป้าหัวร้อน ที่ผ่านมา ครอบครัวของตนได้ถูกคุณป้ารายนี้ ได้มีการพูดจาด่าทอ เสียดสี พร้อมทั้งสร้างความเดือดร้อนต่างๆ ทั้งเอากางเกงในมาตากที่หน้าบ้าน สะบัดใส่ประตูบ้านของตน ตักขี้หมา ตักดิน มาใส่หน้าบ้านของตน โดยกล้องวงจรปิดจับภาพไว้ได้ตลอด

วันเสาร์ที่ผ่านมา ป้าหัวร้อน ยังได้บุกมาทำร้ายตบตีแม่ยายของตนถึงกลางห้างสรรพสินค้า โดยครอบครัวได้มีการไปแจ้งความกับทางเจ้าหน้าที่ตำรวจแล้ว ทุกวันนี้ตนได้มีความเกรงกลัว ป้ารายนี้เคยเป็น อสม. ซึ่งเป็นใหญ่เป็นโตในชุมชน โดยตนอยากให้ต่างคนต่างอยู่ อย่าได้มาราวีกันอีก แต่ก็ยังมีปัญหามาตลอด จนตอนนี้ตนอยากจะขายบ้านแล้วย้ายไปอยู่ที่อื่น เพราะอยู่ต่อไปก็คงจะไม่มีความสุข

โดยตนพร้อมพูดคุยเจรจา หากคู่กรณีพร้อมจะเจรจาด้วย แต่ดูท่าจะไม่ยอม แม้กระทั่งเพื่อนบ้านคนอื่นๆในหมู่บ้าน ต่างก็พากันเอือมระอา ที่ป้าหัวร้อนมักจะชอบระรานด่าทอชาวบ้าน ถูกป้าด่าอย่างหยาบคาย จนคนให้หลายคนไม่กล้าต่อล้อต่อเถียง จนทำให้ทุกวันนี้ไม่มีคนในหมู่บ้านอยากที่จะคบหาสมาคมด้วย

ในส่วนของ นางมณี อายุ 65 ปี ซึ่งเป็นแม่ยายของนายสมบัติ ได้เล่าเหตุการณ์ที่ถูกทำร้ายร่างกายว่า ซึ่งวันที่เกิดเหตุตนได้ออกไปซื้อของที่ห้างสรรพสินค้าแห่งหนึ่ง ก็ได้มีการเข็ดรถเข็ดออกมารอลูก ป้าหัวร้อนรายนี้ก็ได้เดินสวนออกมาพร้อมทั้งตะโกนด่าว่า อีควายดำ ซึ่งตนก็ทำเป็นไม่ได้ยิน พอลูกสาวของป้าหัวร้อนเดินมาสมทบ ป้ายังได้พูดอีกว่า มึงไปช่วยอีควายดำเข็ดรถสิ ลูกสาวป้ายังพูดต่ออีกว่า ไม่ต้องไปช่วยมันหรอก

ตนเห็นว่าท่าทางไม่ดี จึงได้เดินหนีเข้าห้างไป ป้าหัวร้อนยังพูดอีกว่า มึงจะหนีไปไหน จากนั้นก็มายืนจองหน้าตน ด่าและกล่าวหาตนว่าไปยกเท้าใส่ ตนจึงได้ถามว่าไปยกเท้าใส่ตอนไหน ป้าตอบกลับมาว่าที่ป้ายรถเมล์ ซึ่งเรื่องราวดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อ 3 ปีก่อน แต่เมื่อเจอกันก็มีการด่าทอมาตลอด เจอกันที่โรงพยาบาลก็ด่า ในห้องน้ำก็ด่า บอกว่าจะมาตบตนที่ป้ายรถเมล์ สวนกันตรงไหนก็ด่าตรงนั้น บ้านก็อยู่รั้วติดกัน โดยทุกวันนี้ต้องแอบเข้าบ้าน เพราะไม่อยากเจอหน้า ระหว่างที่มีปากเสียงกันที่ห้าง ตนก็เคยบอกว่าถ้าตนทำอะไรให้ไม่พอใจก็ขอโทษด้วย พร้อมกับยกมือขึ้นไหว้

ต่อมานักข่าว พยายามที่จะเข้าไปสอบถามความอีกฝั่งจากป้าดังกล่าว โดยมีการนอนพักผ่อนดูโทรทัศน์อยู่ภายในบ้าน แต่ทว่าป้าได้ตะโกนออกมาว่าไม่สบาย ไม่พร้อมที่จะให้สัมภาษณ์