รวบสาวรับจ้างเปิดบัญชี สร้างมูลค่าความเสียหายกว่า 1.5 ล้านบาท ตำรวจเตือน!!แม้เปิดแล้วไม่ได้ใช่เองก็ถูกจับ

รวบสาวรับจ้างเปิดบัญชี ให้แก๊งหลอกให้กู้ สร้างมูลค่าความเสียหายมหาศาลมากกว่า 1.5 ล้านบาท ข่าวทั่วไทยตำรวจเตือน!!แม้เปิดบัญชีแล้วไม่ได้ใช่เองก็ถูกจับและอาจถูกดำเนินคดีตามกฎหมายในความผิด สนับสนุนให้คนร้ายนำบัญชีไปใช้ในการก่อเหตุหลอกหลวงผู้อื่นให้เสียทรัพย์

รวบสาวรับจ้างเปิดบัญชี ให้แก๊งหลอกให้กู้เงินรวมความเสียมหาศาล

สืบเนื่องมาจากเหตุการณ์ที่มีผู้เสียหายนั้นได้เห็นลิงก์โฆษณาแอปพลิเคชันเงินกู้ออนไลน์ บริการให้กู้เงินอนุมัติง่ายๆ เพียงแค่ทำผ่านทาง Facebook ทางผู้เสียเลยได้ลองติดต่อไปขอกู้เงินจำนวน 60,000 บาท หลังจากที่ที่ผู้เสียหายตอต่อไปคนร้ายก็ได้ใช้วิธีหลอกล่อต่างๆ นานๆ ให้ผู้เสียหายทำการโอนเงินไปให้ก่อน โดยอ้างว่าเป็นการโอนค่าธรรมเนียมก่อนเพื่อเป็นการยืนยันว่าลูกค้ามีเครดิตให้กับผู้กู้ ทางคนร้ายนั้นได้เงินจำนวน 30,000 บาท เป็นครั้งแรกส่วนครั้งต่อมานั้นได้เพราะว่าผู้เสียหายไม่ได้รับโอนเงินที่ขอกู้จากคนร้าย เลยติดต่อกลับไปเพื่อขอยกเลิกการกู้และขอเงินคืนจำนวน 30,000 คืน

เคราะห์ไม่ดีเลยถูกคนรายหลอกอีกให้โอนเงินอีกครั้งจำนวน 30,000 บาทเท่าเดิมโดยครั้งนี้คนร้านอ้างว่าเป็นการยืนยันรหัสการโอนเงินรอบที่แล้ว ทางบริษัทถึงจะโอนเงินกลับคืนให้ผู้เสียหายเต็มจำนวน เมื่อผู้เสียหายหลงเชื่อโอนเงินไปให้คนหลายครั้งแล้ว จึงหลอกซ่ำแล้วซ่ำอีกให้โอนไปเรื่อยๆโดยให้เหตุผลต่างๆนาๆที่แตกต่างกันไปบ้างก็ว่าระบบรวนต้องโอนซ่ำ จนผู้เสียหายนั้นสูญเงินไป 130,000 บาท ภายหลังที่ผู้เสียหายไม่ได้เงินคืนก็ได้เข้ามาแจ้งความร้องทุกข์กับเจ้าหน้าที่ตำรวจที่ สน.ดินแดง เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายกับคนร้ายในคดีนี้

และเมื่อล่าสุดทางเจ้าหน้าที่ตำรวจจากหลายภาคส่วนนั้นก็ได้ร่วมมือกันเข้าจับกุมตัวของ นางกิตติยาหรือเล็ก อายุ 32 ปี ได้ที่บริเวณหน้าบ้านหลังหนึ่ง ม.5 ต.สันผีเสื้อ อ.เมือง จ.เชียงใหม่ ซึ่งเธอคือผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญาที่ 646/2565 ลงวันที่ 4 เมษายน 2565 ซึ่งต้องข้อหาว่ากระทำความผิดฐาน “ร่วมกันฉ้อโกงผู้อื่นโดยเจนตนาและร่วมกันโดยทุจริต โดยนำข้อมูลเท็จหลอกลวงผู้อื่นผ่านการนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์
จากการสืบสวนของเจ้าหน้าที่ตำรวจนั้นพบว่าบัญชีของนางเล็กนั้นได้ถูกออกหมายจับในพื้นที่อีกจำนวน 2 หมายจับ รวมมูลค่าความเสียหายที่เกิดขึ้นไม่ต่ำกว่า 1.5 ล้านบาท ส่วนตัวของผู้ต้องหานั้นได้ปฏิเสธทุกข้อกล่าวหาพร้อมบอกว่า เมื่อปลายปี 2564 ที่ผ่านมาเธอนั้นได้ไป รับจ้างเปิดบัญชีจำนวน 3 บัญชีแลกกับเงินจำนวน 3,000 บาท จากคนที่ไม่รู้จักชื่อและนามสกุล และก็ไม่รู้ว่าเขาเอาสมุดบันชีและเอทีเอ็มไปไหน และเอาไปทำอะไร เพราะหลังจากที่ให้สองอย่างนั้นไปก็ติดต่อเขาไม่ได้เลย ส่วนทางด้านเจ้าหน้าที่นั้นก็ได้ฝากมาเตือนประชาชนทุกคนว่า การรับจ้างเปิดบัญชีนั้นผิดกฎหมาย และอาจถูกดำเนินคดีทางกฎหมาย ตอดคุกและต้องเสียเงิน เพราะถือว่าสนับสนุนการกระทำความผิดหลอกหลวงผู้อื่นให้เสียทรัพย์สิน และให้ข้อมูลไม่เป็นความจริงผ่านระบบคอมพิวเตอร์ แม้ไม่ได้เป็นผู้กระทำความผิดก็ถูกจับเช่นเดียวกัน