สาวถูกแก๊งอ้างเป็น ปปส. อุ้มขังกรงหมารีดเงิน 5 หมื่น แฉเล่ห์เหลี่ยมยัดยาเหยื่อ

ข่าวทั่วไทย เมื่อวันที่ 2 กันยายน 2564 พันตำรวจเอก ธนาวุฒิ จงจิระ รอง ผบก. ผกก. สภ.เมืองพัทยา พันตำรวจโท ผดุงพงศ์ ดุกสุขแก้ว รอง ผกก.สส.สภ.เมืองพัทยา พร้อมตำรวจชุดสืบสวนจังหวัดชลบุรี เข้าร่วมจับกุมผู้ก่อเหตุกักขังหน่วงเหนี่ยว ทราบชื่อคือ นายปกรณ์เกรียติ อายุ 28 ปี นายสันติ อายุ 37 ปี และ นายสุขใจ อายุ 34 ปี

สาวถูกแก๊งอ้างเป็น ปปส. อุ้มขังกรงหมารีดเงิน 5 หมื่น

หลังจากที่ได้มีการรับแจ้งความคนหายจากผู้เป็นแม่ของผู้เสียหาย (ขอสงวนชื่อนามสกุล) เมื่อวันที่ 30 สิงหาคม 2564 ที่ผ่านมา ซึ่งกลุ่มผู้ก่อเหตุได้มีการร่วมกันอุ้มนางสาวบี (นามสมมุติ) พร้อมกลุ่มเพื่อน ไปยังเซฟเฮาส์แห่งหนึ่ง ซึ่งเป็นแหล่งกบดานของกลุ่มผู้ก่อเหตุ ก่อนจะนำไปขังไว้ในกรงหมาพันธุ์ดุร้าย ทำให้เกิดความหวาดกลัว อีกทั้งยังทำการข่มขู่บังคับ ให้นำเงินมาให้จำนวน 5 หมื่นบาท เพื่อปล่อยตัว กระทั่งเวลา 14.00 น. วันที่ 31 สิงหาคม 2564 นางสาวบี ได้มีการติดต่อกลับมาหาแฟนหนุ่ม ซึ่งเป็นชาวต่างชาติ โดยสามารถต่อลองจบได้ที่ หนึ่งหมื่นหกพันบาท ซึ่งได้ให้แฟนหนุ่มโอนเงินเข้าบัญชีธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำนวน 2 ครั้ง ครั้งแรกโอนเงินไปจำนวน หนึ่งหมื่นบาท ครั้งที่สองจำนวน หกพันบาท หลังจากที่แฟนหนุ่มได้โอนตังค์ให้เป็นที่เรียบร้อย จึงได้ถูกปล่อยตัวออกมา

ต่อมาได้มีการปรึกษากับพฤติกรรมของกลุ่มผู้ก่อเหตุ ซึ่งได้มีการทำเกินกว่าเจ้าหน้าที่ตำรวจ ตามที่ผู้ก่อเหตุได้แอบอ้าง จึงได้มีการตัดสินเข้าแจ้งความกับทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองพัทยา สาขาโค้งดงตาล เบื้องต้นชุดจับกุมได้มีการติดตามหาเบาะแสกระทั่งสามารถที่จะควบคุมตัวกลุ่มผู้ก่อเหตุเอาไว้ได้บางส่วน ซึ่งบางรายก็ยังคงทำการหลบหนีอยู่ ซึ่งเจ้าหน้าที่ยังคงแกะรอยไล่ล่า โดยจะมีเจ้าหน้าที่ตำรวจเข้ามาเกี่ยวข้องหรือไม่ยังคงอยู่ในระหว่างขั้นตอนการสืบสวนสอบสวนต่อไป

นางสาววนิดาพรรณ อายุ 42 ปี ซึ่งเป็นแม่ของผู้เสียหาย เล่าว่า ได้ทำการเดินทางไปแจ้งความหลังจากที่ลูกสาวได้หายตัวไป ไม่สามารถติดต่อได้ ซึ่งลูกสาวได้เล่าให้ฟังว่า วันเกิดเหตุได้มีผู้หญิงรายหนึ่งวิ่งมาแล้วทำยาหล่นไว้ ก่อนที่ผู้ก่อเหตุ 2 คนขับติดตามมาหยิบยาเสพติดขึ้นมาแล้วเอ่ยถามว่ายาเป็นของใคร ซึ่งลูกสาวก็ได้ตอบว่าไม่รู้ ช่วงนั้นลูกสาวได้ออกไปซื้อเบียร์ ผู้ก่อเหตุที่ได้อ้างตัวว่าเป็นเจ้าหน้าที่ จึงบอกให้ลูกสาวไปที่ศูนย์ หลังจากนั้นก็ไม่สามารถที่จะติดต่อลูกสาวได้เลย กระทั่งเวลาตี 3 ลูกสาวได้มีการโทรศัพท์มาหาเพื่อนเพื่อที่จะขอยืมเงินจำนวน 5 หมื่นบาท โดยจะนำเอามาให้ผู้ก่อเหตุที่ได้อ้างตัวว่าเป็นเจ้าหน้าที่ เพื่อนก็ได้บอกว่าไม่มีเงิน และได้พยายามสอบถามว่าอยู่ที่ไหน แต่ทว่าผู้ก่อเหตุก็ได้ทำการแย่งโทรศัพท์ไป

หลังจากที่ได้ไปแจ้งความก็ได้มีการโทรศัพท์ติดต่อกลับมา โดยผู้ก่อเหตุที่ได้อ้างเป็นเจ้าหน้าที่ เรียกเงินคนละ แปดพันบาท สองคน รวมเป็น หนึ่งหมื่นหกพันบาท จึงจะปล่อยตัวลูกสาวไป จากนั้นผู้ก่อเหตุได้มีการโทรศัพท์มาคุยกับตนไม่นานก็วางสายไป ด้วยความที่ตนเป็นห่วงลูกสาวที่ได้ขาดการติดต่อไปหลายชั่วโมง ซึ่งไม่รู้ว่าเป็นอย่างไรบ้าง พอผู้ก่อเหตุได้ติดต่อมาขอรับเงิน ตนก็ยอมจ่ายเงินเนื่องจากเป็นห่วงลูก

จากเหตุการณ์ดังกล่าวไม่เคยเกิดขึ้นกับตน ตนจึงรู้สึกพูดไม่ออก หลังจากได้เกิดเหตุจากเช่นนี้ขึ้นตนก็รู้สึกว่านี่คือแดนเถื่อน โดยได้นำลูกสาวตนขังในกรงสุนัข ซึ่งคนที่ได้ถูกจับมาก่อนหน้านอนอยู่ 3 คน ลูกสาวของตนก็ไม่รู้จักสอบถามอะไรไปก็ไม่ตอบ

ความรู้สึกของตนตอนนี้ รู้สึกว่าทำไมสังคมมันเป็นเช่นนี้ มีขบวนการเช่นนี้อยู่ ซึ่งขบวนการมีอยู่ 10 กว่าคน อยากให้เจ้าหน้าที่กวาดล่างขบวนการนี้ให้หมด ซึ่งตอนนี้ตนรู้สึกหวาดกลัวเป็นอย่างมาก แต่ก็พยายามตั้งสติ หลังจากที่ได้จ่ายเงินให้กับผู้ก่อเหตุอ้างเป็นเจ้าหน้าที่ ผู้ก่อเหตุดังกล่าวได้นำตนมาส่งที่บ้านภายในซอยวัดบุญสัมพันธ์ โดยได้มีการกดตัวตนจากนั้นใช้เสื้อสีดำคลุมหัวเพื่อไม่ให้เห็นทาง พอถึงซอยวัดบุญสัมพันธ์ผู้ก่อเหตุดังกล่าวก็ได้มีการเปิดเสื้อที่คลุมหัวตนอยู่ออกก่อนที่จะถามตนว่าอยู่ซอยไหน ก่อนจะส่งตนลงไปจากรถ