เจ้าหน้าที่บุกจับกุมยาย 61 หมู่บ้านชาวประมงสตึก บุรีรัมย์ ค้ายาบ้าหานเงินเลี้ยงหลานกำพร้า 6 คน

เมื่อวันที่ 9 กันยายน 2564 ผู้สื่อข่าวรายงานกรณี เจ้าหน้าที่บุกจับกุมยาย 61 หมู่บ้านชาวประมงสตึก จังหวัดบุรีรัมย์ ภายหลังการสืบทราบว่ายายคนดังกล่าวเป็นหนึ่งในผู้ค้ายาบ้า นอกจากนี้หมู่บ้านสตึกยังเคยถูกเจ้าหน้าที่บุกค้นอยู่หลายครั้งเพราะคนส่วนใหญ่ในหมู่บ้านแห่งนี้มีอาชีพค้ายาบ้าเช่นเดียวกัน

เจ้าหน้าที่บุกจับกุมยาย 61 หมู่บ้านชาวประมงสตึก นั่งขายยาบ้าอยู่บริเวณหน้าบ้านพักร่วม 2 เดือน อ้างทำงานอย่างอื่นไม่รุ่ง ต้องเลี้ยงดูหลานกำพร้า 6 คน

ณ หมู่บ้านชาวประมงสตึก พ.ต.ท.วิชาญ กระจ่างโพธิ์ รองผู้กำกับการหัวหน้าชุดปราบปรามยาเสพติดภูธร จังหวัดบุรีรัมย์ และนายพิชัย โชติเชื้อวงค์ ปลัดของอำเภอสตึก นำกองกำลังตำรวจชุดปราบปรามยาเสพติด ร่วมกับเจ้าหน้าที่ตชด.215 , ตชด.216 ,ทหาร , ชุดข่าวกองกำลังสุรนารี , กอ.กรมน. , ฝ่ายปกครองของอำเภอสตึก ตำรวจทางหลวง ทั้งหมดได้วางแผนล่อซื้อยาบ้าจาก น.ส.สมควร แดงบุญเรือง หรือยายข่อ วัย 61 ปี ที่เป็นหนึ่งในชาวบ้านในหมู่ 2 ตำบลสตึก อำเภอสตึก จังหวัดบุรีรัมย์ เจ้าหน้าที่ได้บุกจับยาย 61 คนดังกล่าว หลังการล่อซื้ออยาได้สำเร็จกับจำนวนยาบ้า 3 ถุง หรือ ยาบ้า 595 เม็ด จึงได้ควบคุมตัวยายคนดังกล่าวไปสอบสวนต่อที่ปฏิบัติงานปราบปรามยาเสพติดตำรวจภูธรของจังหวัดบุรีรัมย์

หมู่บ้านชาวประมงสตึก มีชื่อเรียกอีกอย่างว่า “ชุมชนคุ้มมูล” หมู่บ้านแห่งนี้เป็นชุมชนแออัดที่ตั้งอยู่ใกล้กับบริเวณริมฝั่งของแม่น้ำมูล ที่แห่งนี้สามารถเรียกได้เลยว่าเป็นชุมชนค้ายา หลายๆครั้งที่เจ้าหน้าที่บุกจับก็จะคว้าน้ำเหลวทุกครั้ง เนื่องจากเป็นหมู่บ้านขนาดเล็กการเข้าออกหมู่บ้านก็ค่อยข้างลำบาก เมื่อมีคนแปลกหน้าเข้ามาในหมู่บ้านจึงทำให้สังเกตได้ง่ายและทำให้ผู้ที่ค้ายาไวตัวได้ง่าย

สำหรับการล่อซื้อยาบ้าจากยายวัย 61 เนื่องมาจากสายรายงานมาอีกทีว่าทางสะดวกต่อการซื้อยาบ้าสามารถล่อซื้อได้ที่บริเวณหน้าบ้านของคนยายคนดังกล่าวเพราะมีการนั่งเพื่อรอขายให้ผู้คนต่างๆอยู่เป็นประจำ เจ้าหน้ที่ได้นำแบงค์พันไปล่อซื้อยาบ้าเป็นจำนวน 1 ถุง ซึ่งจะมียาบ้า 195 เม็ด แล้วเจ้าหน้าที่ที่กำลังสุ่มดูอยู่เลยบุกเข้าจับกุมยายข่อและนำของกลางและเงินสดที่ล่อซื้อเก็บมาเป็นของกลางและหลักฐาน

ยายข่อผู้ค้ายาบ้าได้ให้การสารภาพพร้อมได้บอกกับเจ้าหน้าที่อีกว่ายังมียาบ้าที่เป็นจำนวน 2 ถุง ซึ่งทั้ง 2 ถุงนั้นมียาบ้ารวมกันได้ 400 เม็ดด้วยกันแต่ทว่ายานั้นอยู่ที่บ้านอีกครั้งที่ยายข่อใช้พักกับลูกสาวที่อยู่ในหมู่บ้านการเคหะสตึก เจ้าหน้าที่ได้นับทีมพร้อมกับยายข่อไปเก็บหลักฐานตามคำให้การที่บ้านหลังดังกล่าว เมื่อเจ้าหน้าที่ได้หลักฐานครบแล้วก็ได้นำตัวยายข่อไปสอบสวนต่อที่ สภ.สตึก เพื่อสืบหน้าผู้ค้ารายอื่นๆที่มีความเกี่ยวข้องกับการค้ายาในหมู่บ้านชาวประมงสตึกในลำดับต่อไป

โดยเบื้องต้นเจ้าหน้าที่ได้ตั้งข้อหาแก่ยายข่อแล้วว่า  “จำหน่ายหรือค้ายาเสพติดที่ให้โทษประเภท 1 (เมทแอมเฟตามีนหรือยาบ้า) โดยผิดกฎหมาย และมียาเสพติดให้โทษประเภท 1 (เมทแอมเฟตามีนหรือยาบ้า) ไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่ายโดยผิดกฎหมาย”

ยายข่อ หรือ นางสาวสมควร ได้เราว่า ตนต้องหาเงินเลี้ยงหลานที่กำพร้าทั้ง 6 คน ก่อนหน้าไปหารับจากทั่วไปรายได้ก็ไม่เพียงพอต่อการใช้จ่าย จึงตัดสินใจมาค้ายาบ้าโดยที่ตนก็ไปรับจากคนในหมู่บ้านมาอีกทีนึง โดยส่วนใหญ่จะซื้อยามา 5 ถุงเอามาแบ่งขายได้กำไร 500 บาท คนส่วนที่มาซื้อนั้นก็จะเป็นวัยรุ่นแล้วก็คนทั่วๆไป ตนทำการค้ายาบ้ามาแล้ว 2 เดือน ทั้งนี้ตนก็มีบ้านพักอยู่สองหลัง หลังแรกคือบ้านที่อาศัยอยู่ในหมู่บ้านเคหะสตึกตนจะใช้อยู่กับลูกสาว ส่วนหลังที่สองเป็นหลังที่อยู่ในหมู่บ้านชาวประมงและที่นี่ส่วนใหญ่ตนจะใช้อยู่กับหลานทั้ง 6 คน ประกอบด้วย

1.หลานชายคนโตสุด อายุได้ 22 ปี ซึ่งไม่ได้ไปไหนเพราะป่วยเป็นพิการ

2.หลานชายคนกลาง อายุได้ 19 ปี

3.หลานชายคนเล็ก อายุได้ 4 ขวบ

4.หลานสาวคนโต อายุได้ 19 ปี ขณะนี้ได้กำลังศึกษาอยู่ชั้นปีที่ 1

5.หลานสาวคนกลาง อายุได้ 17 ปี ขณะนี้ได้กำลังศึกษาอยู่ชั้น ม.6

6.หลานสาวคนเล็ก อายุได้ 12 ปี กำลังศึกษาเรียนอยู่ชั้น ม.1

หลานทั้งหมดพ่อแม่แยกทางกัน เป็นเด็กกำพร้าจึงได้มาอาศัยอยู่ด้วยกันกับตน ไม่รู้จะหาเลี้ยงดูหลานๆยังไง รับจ้างทั่วไปเงินที่ได้ก็ไม่พอให้หลานใช้จ่ายจึงเป็นเหตุให้ตัดสินใจมาค้ายาบ้า เพราะตนเคยเห็นคนในหมู่บ้านขายแล้วได้เงินเยอะ ทั้งนี้แม้ว่าตนจะขายแต่ตนก็ไม่ได้เสพ เพียงแต่ตนสูบบุหรี่เท่านั้น เงินที่ได้จากการขายยาบ้าก็นำมาใช้จ่ายซื้อของใช้ในครอบครัว