Tuesday, 6 May 2025

เกาะสุรินทร์ไม่เงียบ: อุทยานฯ สวนกลับ ทุกข้อกล่าวหา “ทราย สก๊อต” ปมแรงงานเด็ก

เกาะสุรินทร์ไม่เงียบ: อุทยานฯ สวนกลับ กลายเป็นกระแสดราม่าที่หลายคนให้ความสนใจบนโลกออนไลน์ข่าวทั่วไทย เมื่ออินฟลูเอนเซอร์ชื่อดัง “ทราย สก๊อต” ได้โพสต์ข้อความวิพากษ์วิจารณ์อุทยานแห่งชาติหมู่เกาะสุรินทร์ จ.พังงา โดยกล่าวหาว่ามีการ “ใช้แรงงานเด็กชาวมอแกน” ภายในพื้นที่อุทยานฯ ซึ่งกลายเป็นที่วิพากษ์อย่างกว้างขวางในช่วงไม่กี่วันที่ผ่านมา

สล็อต xo Slotxo

อุทยานฯ สวนกลับ  โต้ “ทราย สก๊อต” ยันไม่ใช้แรงงานเด็กชาวมอแกนบนเกาะสุรินทร์

อุทยานฯ โต้ “ทราย สก๊อต” (2)

แต่ล่าสุด ทาง อุทยานแห่งชาติหมู่เกาะสุรินทร์ ได้ออกแถลงการณ์ชี้แจง โต้ทุกประเด็นข้อกล่าวหา ยืนยันว่าไม่มีการบังคับใช้แรงงานเด็ก ไม่มีการละเมิดสิทธิของชาวมอแกน และไม่มีการปฏิบัติที่ไม่เหมาะสมในพื้นที่ดังกล่าว โดยแถลงการณ์นี้มีการอ้างอิงข้อมูลจากการตรวจสอบข้อเท็จจริงในพื้นที่ พร้อมหลักฐานชัดเจน

เปิดข้อมูลอุทยานฯ โต้ “ทราย สก๊อต” อย่างละเอียด ชี้ชาวมอแกนทำงานโดยสมัครใจ ภายใต้กฎหมายแรงงาน

อุทยานฯ โต้ “ทราย สก๊อต”

อุทยานฯ ระบุว่า การจ้างงานชาวบ้านชุมชนมอแกนบนเกาะสุรินทร์เป็นไปอย่าง สมัครใจและโปร่งใส โดยผู้ที่มีอายุต่ำกว่า 18 ปีไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการจ้างงานแต่อย่างใด การให้บริการนักท่องเที่ยว เช่น การพายเรือ, นำเที่ยว หรือแนะนำวัฒนธรรม เป็นกิจกรรมที่ดำเนินโดยผู้ใหญ่ในชุมชน ซึ่งสอดคล้องกับแนวนโยบายของอุทยานฯ ที่เน้น การมีส่วนร่วมของชุมชนในการอนุรักษ์ทรัพยากร และการส่งเสริมรายได้อย่างยั่งยืน

เจ้าหน้าที่ของอุทยานฯ ยังได้ลงพื้นที่ตรวจสอบข้อมูลหลังเกิดประเด็นบนโลกโซเชียลทุกทิศทั่วไทย โดยไม่พบหลักฐานใด ๆ ที่บ่งชี้ถึงการละเมิดสิทธิเด็ก หรือการใช้แรงงานผิดกฎหมายตามที่ถูกกล่าวหา

ทำความเข้าใจ “มอแกน” คือใคร? ทำไมประเด็นแรงงานเด็กจึงอ่อนไหวเป็นพิเศษ

ชาวมอแกน หรือที่รู้จักในชื่อ “ยิปซีทะเล” เป็นกลุ่มชาติพันธุ์ที่อาศัยในทะเลอันดามันมานานหลายชั่วอายุคน พวกเขามีวิถีชีวิตที่ผูกพันกับทะเลและทรัพยากรธรรมชาติ ซึ่งในช่วงหลายปีที่ผ่านมา มีการผลักดันให้ชาวมอแกนมีส่วนร่วมในการท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรมเพื่อสร้างรายได้อย่างยั่งยืน

แต่เพราะสถานะทางกฎหมายและการเข้าถึงสิทธิบางอย่างยังเป็นประเด็นเปราะบาง การพูดถึง “แรงงานเด็กมอแกน” จึงเป็นเรื่องที่อ่อนไหวและอาจนำไปสู่ความเข้าใจผิดได้ง่าย โดยเฉพาะในโลกโซเชียลที่ข้อมูลสามารถกระจายอย่างรวดเร็วโดยขาดการตรวจสอบ

อุทยานฯ ย้ำจุดยืน: พร้อมตรวจสอบทุกกรณี – แต่อย่าด่วนตัดสินจากโซเชียล

ทางอุทยานฯ ยืนยันว่า ยินดีรับฟังข้อเสนอแนะและพร้อมเปิดพื้นที่พูดคุยกับทุกฝ่าย แต่การ กล่าวหาโดยไม่มีหลักฐาน อาจส่งผลกระทบต่อภาพลักษณ์ของทั้งเจ้าหน้าที่และชุมชนที่ตั้งใจทำงานอย่างสุจริต โดยเฉพาะกับชาวมอแกนที่อาจถูกตีตราในทางลบโดยไม่เป็นธรรม

นอกจากนี้ อุทยานฯ ยังได้เชิญหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เช่น กระทรวงพัฒนาสังคมฯ, กรมแรงงาน และหน่วยงานด้านสิทธิมนุษยชน เข้ามาร่วมตรวจสอบข้อเท็จจริงเพื่อสร้างความโปร่งใสและเป็นกลาง

สรุปข่าว: ต้องรู้ก่อนแชร์ ดราม่า “ทราย สก๊อต – แรงงานเด็กมอแกน” กับข้อเท็จจริงจากอุทยานฯ

แม้เจตนาของการตั้งคำถามอาจมาจากความห่วงใย แต่การเผยแพร่ข้อมูลที่ยังไม่ยืนยันอาจส่งผลเสียมากกว่าผลดี โดยเฉพาะกับกลุ่มชาติพันธุ์อย่างชาวมอแกนที่ยังต้องการความเข้าใจและสนับสนุนจากสังคม

ดังนั้น ก่อนจะแชร์หรือตัดสินเหตุการณ์จากโพสต์ในโลกออนไลน์ทันเหตุการณ์ข่าวทั่วไทย ควรติดตาม แถลงการณ์จากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง และศึกษาข้อมูลรอบด้านเพื่อไม่ให้เกิดความเข้าใจผิดที่อาจกระทบต่อคนทำงานและชุมชนที่ตั้งใจดี

สามารถติดตามข่าวสารเพิ่มเติมสดใหม่ทุกวันได้ที่นี่

สามารถติดตามข่าวสารเพิ่มเติมสดใหม่ทุกวันได้ที่นี่

Related posts
“มอแกน: วิถีชีวิตบนเกลียวคลื่น และมรดกวัฒนธรรมที่ต้องอนุรักษ์”
ย้อนรอย: อดีต “ทราย สก๊อต” ถูกพี่เลี้ยงล่วงละเมิดในวัยเด็ก เผยบาดแผลในใจที่ไม่เคยหาย
ทะเลรักแต่คนไม่เอาด้วย: “ทราย สก๊อต” เหยียบตีนใคร กับกระแสตีกลับในดินแดนทะเลบ้านเรา
ปะทะแรงจนสะเทือนวงราชการ: สรุปดราม่า “ทรายสก๊อต” ประกาศวางมือที่ปรึกษาอธิบดีกรมอุทยานฯ
โลมาสีชมพู 2 ตัว พุดขึ้นมาจากน้ำ สร้างความฮือฮากับชาวระนองที่พบเห็นเป็นอย่างมาก
ผู้พิพากษาถูกขอให้ลาออก หลังมีคลิปใช้ถ้อยคำเหยียดเชื้อชาติ