เดรัจฉานหน้าคน พ่อเมายาบ้า บุกขืนใจลูกสาว 12 ปี ชวนลูกชายเมียร่วมก่อเหตุ

ข่าวทั่วไทย ล่าสุกด รายงานสลดที่ไม่ควรเกิดขึ้นในสังคมมนุษย์ การถูกขืนใจของเด็กสาวโดยพ่อแท้ๆ เดรัจฉานหน้าคน มีการรายงานข่าวมากมาย และดูเหมือนมันจะไม่ได้ช่วยเป็นการเตือนสติของคนได้เลย ยังมีพ่อแม่ที่รังแกลูกตัวเองย่ำยีไร้สติ

จิตใต้สำนึกคืออะไร? เดรัจฉานหน้าคน พ่อพาลูกชายของเมีย(ลูกเลี้ยง)อีก 2 คน หลังจากที่เสพยาบ้าจนเมา บุกไปย่ำยีลูกสาว 12 ปี ทนนาน 2 เดือน บอกญาติแจ้งจับ!!!

สุดอื้อฉาวเด็กสาวตกเป็นเหยื่อให้พ่อแท้ๆและพี่ชายต่างพ่อทำร้ายย่ำยี นี่มันไม่ต่างจากเดรัจฉานหน้าคน ไม่มีจิตสำนึกไม่คิดถึงความถูกต้อง คิดจะเอาแต่ความถูกใจอย่างเดียวหรือไม่ มันยังมีคำถามมากมายจากสังคมไทยที่ยังต้องการคำตอบ ไม่มีที่ไหนปลอดภัยแล้วใช่ไหม? แม้แต่คำว่า “ครอบครัว” สิ่งที่คิดว่าจะสร้างความอบอุ่นในกับเด็กหนึ่งคน เคสล่าสุด พ่อแท้ๆชวนลูกชายที่เป็นลูกเลี้ยง หลังจากที่เมายาบ้าเข้าไปข่มขืนลูกสาวของตัวเองในวัย 12 ปี กระทำนาน 2 เดือน จนเด็กหญิงไม่สามารถทนต่อไปได้ไหวจึงฟ้องญาติให้ช่วยเหลือ

ในวันที่ 4 สิงหาคม 2565 เจ้าหน้าที่ตำรวจของ สภ.ท่าศาล จังหวัดนครศรีธรรมราช ได้เดินทางเข้าไปจับกุมผู้ก่อเหตุซึ่งมีศักดิ์เป็นพ่อของเหยื่อ พ่อที่ก่อเหตุอายุ 46 ปี และลูกชายซึ่งเป็นลูกเลี้ยง 2 ราย อายุอยู่ที่ 19 และ 17 ปี ชายทั้งสามได้ร่วมกันก่อเหตุขืนใจเด็กหญิงที่เป็นลูกสาวแท้ๆและน้องสาวต่างพ่อต่างแม่ ตำรวจได้นำเอาหมายจับและควบคุมตัวผู้ก่อเหตุทั้งหมดไปสอบสวนที่โรงพักเป็นที่เรียบร้อย

ในเบื้องต้นผู้ต้องหาจำนวน 3 คนนี้ ทั้งหมดให้การปฏิเสธ บอกไม่ได้ทำตามที่ถูกกล่าวหา ทว่าเจ้าหน้าที่ได้ทำการตรวจสอบจนได้หลักฐานที่ชัดเจน ผู้ที่เข้าไปแจ้งความกับเจ้าหน้าที่เป็นคูรน้าของเด็กหญิง น้ารายงานว่าหลานสาวถูกพ่อแท้ๆขืนใจนานร่วม 2 เดือนแล้ว เด็กหญิงตอนนี้สภาพจิตใจย่ำแย่มีอการผวาตกใจและเกรงกลัวที่จะอาศัยอยู่ที่บ้านพักตัวเอง

แม่ของเด็กหญิงได้มีการเลิกราหย่าร้างกับพ่อที่ก่อเหตุไปแล้ว เด็กหญิงถูกพ่อเลี้ยงมา และต่อมาพ่อก็มีเมียใหม่ โดยแม่เลี้ยงคนนี้ก็มีลูกติดมาด้วยเป็นเด็กผู้ชาย 2 คน ดังนั้นเด็กหญิงโดนพ่อและพี่ชายต่างสายเลือดกระการย่ำยี

อย่างไรก็ตามในทีแรกผู้ก่อเหตุให้การปฏิเสธแต่สุดท้ายต้องยอมจำนนจากหลักฐาน เด็กหญิงจึงบอกว่าที่เขาขืนใจ เนื่องมาจากอาการเมายาที่เสพไปก่อนหน้า เขาเสพบ่อยครั้ง หลังจากที่ถูกกระทำมาเป็นเวลานานทำให้ไม่สามารถทนต่อไปได้ไหวอีกแล้ว จึงตัดสินใจไปบอกญาติให้ช่วยเหลือแจ้งความเจ้าหน้าที่จับพ่อตัวเองไปลงโทษตามกฎหมาย