เตือนภัยชาวบ้าน! เห็ดคางคก กินไม่ได้! อันตรายถึงชีวิต เกือบขิตไปแล้ว อาเจียนจนหมดสติ

ข่าวทั่วไทย ล่าสุด ผู้สื่อข่าวรายงานหลังจากได้รับแจ้งจากชายชาวบ้าน หลังจากที่บริโภคเห็ดคางคก เมื่อเก็บมาแล้วก็ทำการล้างให้สะอาด และมีการนำเอาเห็ดไปถามคนแก่แล้วด้วยให้มีการโรยข้าว…จากนั้นเอามาต้มแกงกินตามปกติ สุดท้ายหมดสติกลางวงข้าว

อาเจียนจนหมดสติ ชาวแปดริ้ว ครอบครัวเร่งหามส่งโรงพยาบาล เกือบขิตไปแล้ว เห็ดคางคก กินไม่ได้และพิษร้ายแรงถึงชีวิต ไม่รู้จักอยากไปเก็บ!! เร่งล้างท้องเกือบไม่รอด

เห็ดคางคก คือเห็ดที่มีพิษร้ายแรงและคนที่กินเข้าไปทำให้หมดสติ นายประสิทธิ์ วัย 55 ปี แจ้งเรื่องราวมาหาผู้สื่อข่าวในวันที่ 2 สิงหาคม ที่ผ่านมา ชาวบ้านตำบลเกาะขนุน อำเภอพนมสารคาม จังหวัดฉะเชิงเทรา เปิดเผยว่าเหตุการณ์นี้เกิดขึ้นในคืนของวันที่ 1 สิงหาคม ช่วงเวลาประมาณ 2 ทุ่มครึ่ง ตอนนั้นคนในครอบครัวและเจ้าหน้าที่กู้ภัยได้เร่งนำตัวเขาส่งโรงพยาบาล เพื่อทำการล้างท้องอย่างเร่งด่วน และตอนนั้นเขาก็หมดสติไปแล้ว

ทั้งนี้ นายประสิทธิ์ ได้เล่าว่า ตนคิดว่ามีเห็ดที่กินได้ตามที่ผู้สูงอายุเคยบอก เห็ดที่เกิดขึ้นในกลุ่มเห็ดที่กินได้นั่นหมายความว่ามันสามารถกินได้เช่นเดียวกัน เขาก็เลยเก็บปะปนกันไป เอาทั้งหมดมาทำอาหารรวมกัน ก่อนหมดสติแทพย์จึงล้างท้องช่วงคืนที่ผ่านมา ตอนนี้อาการดีขึ้นและได้หายเป็นปกติแล้ว แต่ยังไม่อนุญาตให้ดื่มน้ำอาหาร ยังอยู่ที่โรงพยาบาลไม่ได้ให้กลับบ้าน

ที่ต้องอยู่ที่โรงพยาบาลต้องรอดูอาการสักพัก  เพราะอาจจะมีอาหารเป็นพิษกลับมาที่เกิดจากสาเหตุการบริโภคเห็ด หมอได้บอกว่าเป็นที่ผู้ป่วยบริโภคคือ “เห็ดคางคก” มันค่อยข้างจะมีพิษที่ร้ายแรงมาก อยากฝากเตือนชาวบ้าน เพราะช่วงนี้เป็นหน้าฝน ทำให้มีเห็ดขึ้นเยอะ ต้องเช็คดูให้แน่ใจก่อนว่าเห็ดที่เก็บมานั้นเป็นเห็ดพิษหรือไม่ เพราะแม้ว่าเห็ดที่ขึ้นอยู่ใกล้กับเห็ดที่กินได้ที่เรารู้และคุ้นเคย ไม่ได้หมายความว่ามันขึ้นอยู่ใกล้จะกินได้ด้วย

ทางด้านของลูกสาวของนายประสิทธิ์ ผู้ป่วยที่กินเห็ดคางคกจนหมดสติ นางสาวธัญชนก ได้ออกมากล่าวว่า พ่อของเธอมักจะออกไปหาหน่อไม้ที่ป่าอยู่บ่อยครั้ง แต่ละครั้งจะนำเห็ดกลับมาทำอาหารที่บ้านด้วย แต่เธอไม่เคยเห็นเห็ดคางคกมาก่อนเช่นเดียวกัน ช่วง 4-5 โมงเย็นในวันที่ 1 สิงหาคม พ่อได้ไปเก็บเอาเห็ดที่ขึ้นอยู่ในสวนข้างบ้านบริเวณริมรั้ว ลักษณะของมันมีทรงคล้ายกับร่ม มันมีสีขาวด้านบน ส่วนบริเวณใต้ดอกมีสีน้ำตาลร่วมถึงก้าน จนกึ่งกลางของเห็ดจะเป็นหลุมไม่นูนออกมา

ภายหลังจากที่พ่อเก็บเอาเห็ดทั้งหมดมา เขาได้นำเอาเห็ดที่เก็บไปถามไถ่ผู้คนเฒ่าคนแก่ที่รู้จักกัน พวกท่านอาศัยอยู่ที่บริเวณหน้าวัดหินดาษ หลายคนบอกว่าสามารถเอาเห็ดไปล้างให้สะอาดและเอาข้าวสารไปโรยใส่ลงไป ถ้าใส่ไปแล้วข้าวสารไม่เปลี่ยนสีก็แปลว่ากินได้แล้ว(ไม่มีพิษ) เมื่อเห็นว่าข้าวไม่เปลี่ยนสีก็เอาเห็ดมาแกงทำกินตามปกติ ก่อนที่จะอาเจียนหมดสติ

ฝั่งภรรยาของนายประสิทธิ์ที่ร่วมกินแกงเลียงเห็ดด้วยก็มีอาการอาเจียนเช่นเดียวกันแต่น้อยกว่าเท่านั้น ส่วนสามีนั้นกินน้ำแกงหมดทำให้ ก่อนจะอาเจียนหนักและหมดสติลงไป