ผู้โดยสารช็อก: กระเป๋าเดินทางเปื้อน ของเสียเหม็นหึ่ง สายการบินยันไม่ใช่อุจจาระ!

ผู้โดยสารช็อก: กระเป๋าเดินทางเปื้อน โลกออนไลน์แทบแตกเมื่อผู้โดยสารรายหนึ่งโพสต์วิดีโอเหตุการณ์ขณะรอรับสัมภาระที่สายพานหมุนในสนามบินปลายทาง แต่กลับพบว่ากระเป๋าเดินทางของตัวเองเต็มไปด้วยคราบของเหลวสีน้ำตาลคล้ายอุจจาระ ส่งกลิ่นเหม็นหึ่งจนคนรอบข้างถึงกับเบือนหน้าหนี ภาพที่เห็นในคลิปเผยให้เห็นความตกใจอย่างชัดเจน ข่าวเด่น  ใบหน้าของเจ้าของกระเป๋านั้นทั้งงง ทั้งกลัว ทั้งขยะแขยง ท่ามกลางเสียงผู้โดยสารคนอื่นที่พูดคุยกันอย่างตื่นตระหนก

คลิปไวรัลสนามบิน กระเป๋าเดินทางเปื้อน เขย่าโซเชียลด้วยกลิ่นที่ไม่มีใครลืม

เหตุการณ์ดังกล่าวกลายเป็นไวรัลทันทีภายในไม่กี่ชั่วโมง คลิปถูกแชร์ซ้ำบน TikTok, Facebook และ X พร้อมติดแฮชแท็ก #กระเป๋าเดินทางเหม็น #ไวรัลสนามบิน โดยมีคอมเมนต์หลายหมื่นที่เข้ามาแสดงความเห็นหลากหลาย บางคนตำหนิสายการบินเรื่องมาตรฐานความสะอาด ขณะที่บางคนเสนอให้ตรวจสอบสัมภาระอย่างเข้มงวดก่อนโหลดขึ้นเครื่อง

สายการบินรีบแจง ไม่ใช่อุจจาระ แต่เป็นของเสียจาก “ปลาหมัก” ผู้โดยสารรายอื่น

หลังจากกระแสดราม่ารุนแรงขึ้น สายการบินต้นทางได้ออกแถลงการณ์อย่างเป็นทางการ โดยชี้แจงว่าสิ่งที่เปื้อนกระเป๋าเดินทางไม่ใช่อุจจาระตามที่เข้าใจในตอนแรก แต่เป็นของเหลวเน่าเสียจากสัมภาระของผู้โดยสารอีกราย ซึ่งภายในบรรจุอาหารหมักจำพวกปลาร้าและปลาหมักในภาชนะที่ไม่ได้ปิดสนิท ทำให้รั่วไหลตลอดการขนส่งและไหลซึมออกมาเลอะสัมภาระอื่นๆ

สายการบินระบุว่าได้ประสานงานกับผู้เสียหายเพื่อชดเชยค่าทำความสะอาดและค่าเสียหายที่เกิดขึ้น พร้อมทั้งเสนอส่วนลดในการเดินทางครั้งถัดไปเป็นการปลอบขวัญ อย่างไรก็ตาม โซเชียลยังคงตั้งคำถามถึงมาตรการป้องกันของสายการบิน เพราะกรณีแบบนี้อาจกระทบต่อความรู้สึกและสุขอนามัยของผู้โดยสารโดยตรง

ผู้เชี่ยวชาญเตือน ห้ามโหลดของหมักหรือของเน่าเสียโดยไม่ปิดผนึก

อาจารย์ผู้เชี่ยวชาญด้านความปลอดภัยทางการบินออกมาให้ความเห็นว่า  ข่าวเด่นออนไลน์ เหตุการณ์ลักษณะนี้ถือเป็น “ภัยเงียบ” ที่เกิดจากการไม่ตระหนักถึงความเสี่ยงของสัมภาระที่มีของเหลวหรือกลิ่นแรง เช่น อาหารหมัก ปลาร้า หรือผลไม้หมัก ซึ่งสามารถเน่าเสียระหว่างเดินทางและทำปฏิกิริยากับแรงดันในห้องสัมภาระ จนทำให้เกิดการรั่วไหลและสร้างกลิ่นเหม็นอย่างรุนแรงได้

คำแนะนำสำหรับผู้โดยสารคือ หากต้องการขนของกินขึ้นเครื่องบิน ควรบรรจุอย่างรัดกุม ใช้ภาชนะสุญญากาศ และแจ้งเจ้าหน้าที่โหลดสัมภาระล่วงหน้า หรือหลีกเลี่ยงการโหลดของเน่าเสียทั้งหมดเพื่อป้องกันปัญหาที่อาจเกิดกับผู้อื่นแบบไม่ตั้งใจ

ดราม่าบนโซเชียล ชาวเน็ตแห่แชร์ประสบการณ์กระเป๋าเจอของแปลก

หลังคลิปไวรัลดังกล่าว ชาวโซเชียลหลายรายออกมาแชร์ประสบการณ์คล้ายกันอย่างไม่คาดคิด บางคนเคยเจอกระเป๋าเปื้อนน้ำปลา บางคนเคยโดนกลิ่นทุเรียนอบอวลในกระเป๋าเดินทางที่โหลดใต้เครื่อง แม้จะเป็นของถูกกฎหมายในการพกพา แต่หากไม่มีการบรรจุที่เหมาะสม ก็สามารถสร้างปัญหาที่ไม่ควรมองข้าม

หลายคอมเมนต์เรียกร้องให้สายการบินทุกแห่งเข้มงวดกับการตรวจสอบสัมภาระมากขึ้น และเสนอให้มีการแยกโหลดสัมภาระที่มี “ของเสี่ยง” ไว้ต่างหากเพื่อป้องกันไม่ให้สัมภาระปกติได้รับผลกระทบ รวมถึงบางรายเสนอให้มี “ห้องฆ่าเชื้อ” เฉพาะสำหรับกรณีเปื้อนของเหลว

มุมกฎหมาย ระบุสายการบินต้องรับผิดชอบหากพิสูจน์ได้ว่าเกิดจากความบกพร่อง

นักกฎหมายด้านการขนส่งทางอากาศระบุว่า หากผู้โดยสารสามารถพิสูจน์ได้ว่าความเสียหายของสัมภาระเกิดจากความบกพร่องของสายการบิน ไม่ว่าจะเป็นการจัดเก็บสัมภาระอย่างไม่เหมาะสม หรือการอนุญาตให้ของเหลวรั่วซึมออกมาจากกระเป๋าอื่น ก็สามารถเรียกร้องค่าเสียหายได้ตามกฎหมาย

อย่างไรก็ตาม กรณีนี้อาจมีความซับซ้อนในการพิสูจน์ต้นตอของของเสีย และจำเป็นต้องอาศัยหลักฐานอย่างภาพกล้องวงจรปิด และรายงานจากเจ้าหน้าที่ภาคพื้นดินประกอบการร้องเรียน จึงเป็นอีกหนึ่งบทเรียนสำคัญ ข่าวเด่นประจำวัน ที่สะท้อนว่าเรื่องเล็กๆ อย่างการแพ็กของ อาจกลายเป็นปัญหาใหญ่ที่ลุกลามระดับประเทศ

ทำอย่างไรเมื่อกระเป๋าเดินทางเปื้อนของเสีย? คู่มือเอาตัวรอดฉบับไวรัล

หากคุณเจอสถานการณ์แบบนี้ สิ่งแรกที่ควรทำคือแยกกระเป๋าออกจากของอื่นทันที ถ่ายภาพทุกมุมเพื่อเก็บไว้เป็นหลักฐาน พร้อมแจ้งเจ้าหน้าที่สนามบินหรือสายการบินทันที แล้วขอเอกสารยืนยันเหตุการณ์ จากนั้นควรทำความสะอาดด้วยน้ำยาฆ่าเชื้อแรงสูง และห่อด้วยพลาสติกให้มิดชิดก่อนนำกลับเข้าบ้าน

ในกรณีที่กลิ่นไม่สามารถลบออกได้ อาจต้องเปลี่ยนกระเป๋าใหม่ และยื่นคำร้องของเงินชดเชยจากสายการบิน พร้อมแนบใบเสร็จหรือหลักฐานตามคำแนะนำของฝ่ายบริการลูกค้า เพื่อให้ได้รับสิทธิประโยชน์อย่างเต็มที่

สามารถติดตามข่าวสารเพิ่มเติมสดใหม่ทุกวันได้ที่นี่