ข้าราชการนักพัฒนาสังคม C6 หรือ นักซ้ำเติมสังคม ยักยอกเงินสำหรับคนพิการกว่า 50 ล้านบาท เพื่อเล่นพนันจนหมดตัว

ข่าววันนี้ 20 กันยายน 2564 ผู้สื่อข่าวรายงานการเข้าจุบกุมตัวข้าราชการ ข้าราชการ นักพัฒนาสังคม C6 ขณะกำลังหนีออกนอกประเทศเพื่อหนีความผิด หลังยักยอกเงินคนพิการไปเล่นการพนันจนหมดตัว สารภาพทำคนเดียวมันใช่หรือ? ก่อนโอนต้องลงรหัส 2 คน

ข้าราชการ นักพัฒนาสังคม C6 ทำได้ลงคอแม้แต่เงินคนพิการก็ไม่เว้น ยักยอกเสพสุขเล่นการพนันจนหมดตัว

เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.พญาไท ได้บุกรวบ ข้าราชการ นักพัฒนาสังคม C6 ขณะหลบหนีออกนอกประเทศในเขตจังหวัดเชียงราย  หลังเจ้าหน้าที่ตรวจสอบพบว่ามีการยักยอกเงินสำหรับกลุ่มคนพิการ

นางพัชรี อาระยะกุล ปลัดกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงขอมนุษย์  ร่วมกับอธิบดีกรมส่งเสริมและพัฒนาคุณภาพชีวิตคนพิการ และยังมีผู้แทนจากปปท.พร้อมกับเจ้าหน้าที่ตำรวจปราบปรามทุจริต ได้ออกมาแถลงการณ์ในการจับกุม นายพิศาล สุขใจธรรม อายุ 41 ปี หนึ่งในข้าราชการพัฒนาสังคมชำนาญการ C6 ของกรมส่งเสริมและพัฒนาคุณภาพชีวิตของคนพิการ เนื่องด้วยเจ้าหน้าที่ได้เข้าจับกุมขณะกำลังหนีออกนอกประเทศในเขตพื้นที่จังหวัดเชียงราย อำเภอแม่สาย

การตรวจสอบโดยเบื้องต้นทราบว่า นายพิศาลยักยอกเงินไปแล้ว 13 ล้านบาท ภายหลังเจ้าหน้าที่ได้ตรวจสอบงบการเงินในปี64ย้อนหลังไปเพียง 3 เดือน ตั้งแต่ช่วงเดือนมิถุนายน-สิงหาคม 2564 ซึ่งเจ้าหน้าที่มั่นใจว่าอาจจะมีการยักยอกมากกว่า 13 ล้าน หรือ อาจมีการยักยอกไปแล้วมากกว่า 50 ล้าน เพราะนายพิศาลได้ให้การสารภาพว่า ได้ดำเนินการยักยอกมาแล้ว 1 ปี

ทั้งนี้นายพิศาลได้ให้การว่าเงินที่ตนยักยอกไม่ใช่เงินเพื่อใช้ช่วยเหลือกลุ่มคนพิการ แต่ที่ยักยอกไปเป็นบัญชีเงินนอกเนื่องจากงบประมาณ โดยปกติจะเอาไว้ใช้เบิกจ่ายเป็นรายเคส และปกติจะมีเคส 2-3 เดือนมีทีก็จะเบิกที จึงทำให้เจ้าหน้าที่ไม่มีการตรวจสอบบัญชีบ่อยครั้ง จึงกลายเป็นช่องว่าในตนได้ยักยอกเงินได้

เมื่อเจ้าหน้าที่มาตรวจสอบบัญชีดังกล่าวอีกครั้งจึงเห็นถึงความผิดปกติ จึงเดินทางไปแจ้งความไว้ที่ สน.พญาไท ก่อนที่เจ้าหน้าที่จะร่วมมือกับตำรวจ เพื่อวางแผนดำเนินการจับกุมผู้ก่อเหตุหรือนายพิศาลได้ขณะหลบหนี และล่าสุดได้คุมตัวไปที่ สน.พญาไทเพื่อสอบปากคำโดยละเอียดในขั้นตอนต่อไป

ทางด้านอธิบดีกรมส่งเสริมและพัฒนาคุณภาพชีวิตคนพิการ นางสาวสราญภัทร อนุมัติราชกิจ ได้กล่าวว่า นายพิศาล ได้ทำงานในด้านการเงินและยังเคยทำงานอยู่ในกรมบัญชีกลางมาก่อน เจ้าหน้าที่ได้ตรวจสอบพบการยักยอกเมื่อช่วงเย็นวันที่ 13 กันยายน ที่ผ่านมานี้ พบการโอนเงินจากบัญชีนอกงบประมาณขององค์กรพัฒนาสังคม จึงได้ทำเรื่องแจ้งความร้องทุกข์และสั่งการอายัดเงินในบัญชีของนายพิศาลทั้งหมดทุกบัญชี เพื่อจะได้ตรวจสอบและป้องการถ่ายเทเงินไปยังบัญชีของผู้อื่น เจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องรวมถึงปปง. ให้มีการไปตรวจสอบเส้นทางการเงิน รวมถึงการถ่ายโอนของเงินว่าโอนไปยังบัญชีไหนบ้าง เพื่อจะได้ดำเนินการเอาความผิดต่อบุคคลทั้งหมดที่อาจจะมีความเกี่ยวข้องกับการก่อเหตุในครั้งนี้ แม้ว่านายพิศาลจะสารภาพแล้วก็ตามว่า ดำเนินเรื่องทั้งหมดนี้คนเดียว แต่เจ้าหน้าที่ก็ต้องสืบหารายละเอียดหรือข้อเท็จจริงว่านายพิศาลได้มีการร่วมมือและเกี่ยวข้องกับหน่วยงานไหนอีกบ้าง ไม่ว่าจะเป็นคนในหรือคนนอกกระทรวงก็ตาม เนื่องจากมีเจ้าหน้าที่รู้รหัสที่จะเข้าเพียง 3 คน สำหรับการโอนหนึ่งครั้งต้องมีผู้กรอกรหัสสองในสามคน จึงเป็นไม่ได้ว่าจะดำเนินงานเพียงคนเดียว