ดราม่า “ยาสีฟัน” ขนาด 120 มล. ถูกห้ามเอาขึ้นเครื่อง เพราะเป็นไปตามกฎของท่าอากาศยานไทย ทำชาวเน็ตเถียงกันสนั่นโซเชียล

ข่าวเด่นออนไลน์ ดราม่ายาสีฟัน ขนาด 120 มล. ถูกเจ้าหน้าห้ามเอาขึ้นเครื่องพร้อมบอกให้บีบออกแล้วใส่อะไรก็ได้แล้วใส่กระเป๋า แต่ห้ามนำหลอดที่บีบออกแล้วขึ้นเครื่อง เพราะเป็นไปตามกฎของท่าอากาศยานไทย ทำชาวเน็ตเถียงกันสนั่นโซเชียลหลังเรื่องราวดังกล่าวนั้นถูกเผยแพร่ออกมาบนโลกออนไลน์

ดราม่ายาสีฟัน เกิน 100 มล. เจ้าหน้าที่ให้บีบเนื้อยาสีฟันออกแล้วใส่ภาชนะขึ้นเครื่องได้ แต่ห้ามนำหลอดเปล่าขึ้นเครื่อง เจ้าของเรื่องราวเถียงจนมึน!!

เมื่อวันที่ 29 พฤศจิกายน 2565 ที่ผ่านมา บนโลกออนไลน์นั้นมีประเด็นดราม่าร้อนแรงเกิดขึ้นหลังจากที่มีผู้ใช้งาน Facebook ท่านหนึ่งที่เขานั้นเล่าประสบการณ์ที่เขานั้นได้ไปประสบพบเจอกับตัวเองมาเล่าให้เพื่อนๆพี่ๆน้องๆฟัง เกี่ยวกับการเดินทางด้วยเครื่องบินของสายการบินหนึ่งโดยสิ่งที่เขานั้นเล่าให้ฟังนั้นประมาณว่า

เขาไม่ได้อยากจะร้องเรียนหรืออยากจะฟ้องร้องสนามบินหรือใครทั้งสิ้นแค่อยากมาบ่นให้ฟังว่า เมื่อวันอาทิตย์ที่ 27 พฤศจิกายน 2565 ที่ผ่านมา เขานั้นได้เดินจากหาดใหญ่มาที่กรุงเทพ ประมาณเวลา 10.30น. ในการเดินทางนั้นเขามาได้มีสัมภาระที่ต้องโหลดเอาไว้ท้องเครื่อง เพราะเขานั้นมีกระเป๋าใบเล็กหนึ่งใบเท่านั้น

และในกระเป๋านั้นก็มีแค่เสื้อผ้าและชุด Toilet kit หลังจากที่กระเป๋านั้นเข้าไปยังเครื่องเอ็กซเรย์ปัญหาก็เกิดขึ้นมาทันที่ และเจ้าหน้าที่ก็ขอตรวจกระเป๋าก่อนจะไปเจอหลอดยาสีฟันขนาด 120 มล. และเจ้าหน้าที่ก็เลยแนะนำว่าให้เขานั้นเอามันไปโหลดลงใต้ท้องเครื่อง แต่เขานั้นไม่ยินยอมอยากเอาใส่ไว้กับตัว พร้อมกับพูดคุยกันเรื่องสีฟันใช้ไปมากแล้วเหลือไม่เท่าไหร่

และเจ้าหน้าที่เขาก็ไม่ยินดีและยังยืนยันว่าสิ่งที่เขาบอกและแนะนำเป็นไปตามกฎการบิน แม้ว่าเขานั้นจะอ้างว่าเรื่องของเหลวเกิน 100 มล.หรือ เรื่องการห้ามใช้โทรศัพท์มือถือก่อนเครื่องขึ้นมันเป็นระเบียบเก่าที่เคยมีงานวิจัยออกมาว่าไม่เป็นปัญหา เจ้าหน้าที่ก็ยังยืนยันที่จะไม่ยอม

สิ่งที่เจ้าหน้าที่นั้นคือต้องการอยากให้เขานั้นบีบเอายาสีฟันออกให้หมด และจะหาอะไรก็ได้เอามาใส่ยาสีฟันแล้วให้เราเอาขึ้นเครื่องใส่กระเป๋าเอาไปด้วย แต่ต้องทิ้งหลอดเปล่าเอาไว้ที่ด้านล่าง เนื่องจากหลอดยาสีฟันนั้นมีปัญหาด้านขนาดบรรจุ เขามองว่าเรื่องนี้มันไร้ซึ่งเหตุผลมากเกินไป

สุดท้ายเรื่องราวนี้ก็ต้องลากยาวจนหัวหน้าได้มาคุยเอง ใช้เวลานานอยู่ในการพูดคุยกันในเรื่องนี้และก็มีเจ้าหน้าที่สายการบินเข้ามาร่วมพูดคุยกันก็แล้ว ยกสารพัดแม่น้ำมาอธิบายให้ฟังก็ไม่ได้ ทั้งหัวหน้าทั้งลูกน้องยังไม่ยินยอมกับเหตุผลที่ให้ไป เขาเลยถามหัวหน้าว่าที่ให้บีบยาสีฟันออกจนหมดจึงยอมให้นำยาสีฟันไปได้

แต่ไม่ให้หลอดเปล่าขึ้นเครื่องติดตัวไปด้วยเด็ดขาด เขาเลยถามไปว่าปัญหาเรื่องนนี้มันอยู่ที่ไหนมันอยู่ที่ของเหลวมากกว่า 100 มล.หรืออยู่ที่หลอดเขียนขนาดเกิน 100 มล. เจ้าหน้าที่ก็ตอบว่าอยู่ที่หลอดบรรจุไม่ได้อยู่ที่ของเหลว ฟังแค่นี้ก็ปวดหัวทางตัวหัวหน้าเองก็ยอมรับว่ามันฟังดูขาดเหตุผล แต่เขานั้นทำอะไรไม่ได้หากปล่อยเราคนเดียวก็ต้องปล่อยคนอื่นๆด้วย

และเราก็ได้เถียงกันเกี่ยวกับเรื่องนี้อยู่นานและเขาก็ขอให้เจ้าหน้าที่นั้นใช้วิจารณญาณ เจ้าหน้าที่ก็ยืนยันว่ายึดตามกฎระเบียบ ตัวของเราเองก็เดินทางำปหลายประเทศ มีทั้งนอกประเทศในประเทศและยาสีฟันหลอดนี้ก็ไม่เคยมีปัญหาในการเดินทางเลยสักครั้ง แต่ถ้าว่ากลับมามีปัญหากับเจ้าหน้าที่และหัวหน้าที่สนามบินหาดใหญ่นี่แหละ

อย่างที่บอกตั้งแต่ต้นว่าไม่อยากเอาเรื่องใครเพราะไม่มีใครผิด แค่อยากมาเขียนเรื่องราวเอาไว้ให้เป็นอุทาหรณ์ว่าเวลาขึ้นเครื่องบินนั้นให้ระวังเรื่องของน้ำหนักของเหลว สุดท้ายทั้งตัวเองและทั้งหัวหน้าเจ้าหน้าที่ต่างยืนหัวเราะให้แก่กัน ก่อนที่จะรีบขึ้นเครื่องแล้วทิ้งหลอดยาสีฟันเอาไว้ที่สนามบิน

หลังจากที่เรื่องราวนี้ถูกเผยแพร่ออกมาบนโลกออนไลน์ก็มีผู้คนเข้ามาแสดงความคิดเห็น และเข้ามาแชร์เรื่องราวนี้ออกต่อไปเป็นจำนวนมาก เพราะเรื่องราวแบบนี้เป็นเรื่องที่เกิดขึ้นบ่อย และมันก็เป็นหนึ่งในประเด็นที่ถูกนำมาพูดถึงอย่างหนักมากบนโลกออนไลน์