เมื่อวันที่ 5 กันยายน 2564 ผู้สื่อข่าวรายงาน ดราม่าไลฟ์สด 2 มหาดัง วัดสร้อยทอง รัฐบาลพรอมเรียกสอบ มหาสอมปอง-มหาไพรวัลย์ หลังมีการไลฟ์สดสอนธรรมะ 4.0 สอนทันสมัยเข้ากับชีวิตละสังคมปัจจุบัน และยังมีการพูดในไลฟ์เชื่อมโยงไปถึงการเมืองในปัจจุบัน
ดราม่าไลฟ์สด 2 มหาดัง วัดสร้อยทอง เปิดภาพลักษณ์ใหม่สำหรับการบรรยายธรรมะ เรียกคนดูทะลุ 2 แสน
ดราม่าไลฟ์สด 2 มหาดัง วัดสร้อยทอง เป็นที่ฮือฮาอีกครั้งเมื่อการไลฟ์สดสามารถเรียกคนดูที่ต้องบันทึกเป็นประวัติการณ์ เพราะว่ามีมากจนขึ้นหลัก 2 แสน ทั้งนี้คนดูยังเป็นวัยรุ่นยุคใหม่กันเป็นส่วนใหญ่ ทั้งนี้ยังไม่ได้มีการบังคับขู่เข็นให้มาเข้าฟัง สำหรับการไลฟ์สดของ มหาสมปอง-ไพรวัลย์ ครั้งล่าสุด
เมื่อช่วงค่ำของวันที่ 3 ก.ย. 64 พระมหาไพรวัลย์ จัดไลฟ์สดคู่กับ พระมหาสมปอง ซึ่งทางเพจของมหาไพรวัลย์มีผู้เข้าชมเป็นหลักแสนคน ส่วนมหาสมปองมีเป็นหลักหมื่น โดยเมื่อรวมกันแล้วมีคนดูทั้งที่ไม่ม่การบังคับร่วมสองแสนคน และจากการไลฟ์สดในครั้งนี้ทำให้ประชาชนเข้ามาติดตามเพจของมหาไพรวัลย์ทะลุล้านคน และแน่นอนว่าเมื่อสองมหามาไลฟ์สดด้วยกันความฮาจะเกิดขึ้นแน่นอน สอนธรรมแบบคำศัพท์วัยรุ่น 4.0 ไลฟ์สดเป็นชั่วโมงแต่คนดูเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ทำให้มีกระแสดราม่าเกิดขึ้นในวงการพระสงฆ์ เพราะยังมีพระผู้ใหญ่หลายท่านที่ไม่ให้การสนับสนุนการไลฟ์สดของมหาสมปอง-มหาไพรวัลย์ โดยให้เหตุผลว่าไม่เช่นเหตุอันสมควรที่พระจะมาไลฟ์สดสอนธรรมะด้วยความเฮฮา ซึ่งหลังๆมานี้มีการพูดเชื่อมโยงติดตลกไปพาดพิงรัฐบาลปัจจุบันด้วย เป็นที่ถูกใจวัยรุ่นแต่ไม่ถูกใจพระผู้ใหญ่
ทั้งนี้มี 2 พระผู้ใหญ่ออกมาพูดแสดงความคิดเห็นของ 2 มหาไลฟ์สดแล้ว ท่านแรกคือ เจ้าคุณพิพิธ หรือ พระเทพปฏิภาณวาที (สุนทร ญาณสุนฺทโร) วัดสุทัศนเทพวรารามราชวรมหาวิหาร ได้กล่าวว่า วิธีการเทศแบบนี้ที่เกิดขึ้นเป็นแนวใหม่ ซึ่งถือมาเป็นการเปลี่ยนภาพลักษณ์ของการแสดงธรรมในวงการพระสงฆ์ จึงปฏิเสธไม่ได้ว่าจะต้องมีทั้งคนชอบและไม่ชอบสำหรับการแสดงธรรมของรุ่นน้อง 2 มหา ส่วนตัวรู้เลยว่าพระผู้ใหญ่คงไม่เป็นด้วยกับการกระทำในครั้งนี้ จึงมีความห่วงใยสำหรับอนาคตในวงการสงฆ์ของพระทั้ง 2 รูป และได้กล่าวด้วยว่าการเทศน์ของพระสงฆ์มันมีหลักการสำคัญอยู่ คือ
1.การเทศน์ของพระสงฆ์ต้องทำให้เกิดปัญญา
2.ให้กล้าปฏิบัติ
3.เทศน์ให้กำจัดความชั่ว
4.การเทศน์ต้องมีการสร้างเสียงหัวเราะ
พระทั้ง 2 รูปเป็นพระรุ่นน้องจึงมีความห่วงใยและพระทั้ง 2 ยังเป็นบุคคลที่มีความรู้ดีและบวชได้มากกว่า 10 พรรษา แต่ถ้าจะดีก็อยากให้พระทั้ง 2 รูปได้มีการปรับเปลี่ยนการเทศน์ตาม 4 ข้อที่กล่าวไปแล้ว เพื่อการแสดงธรรมที่มาตรฐาน คือ ตลกน้อยสาระเยอะขึ้นมาหน่อย จะได้ไม่มีใครมาว่าได้ว่าไม่สำรวมในสมณะรูป เพราะสุดท้ายแล้วพระทั้ง 2 ก็จะกลายเป็นพระผู้ใหญ่ในอนาคต ทั้งนี้ยังมีพระผู้ใหญ่มาบอกเจ้าคุณพิพิธเสมอว่าไม่ปลื้มการเทศน์ของ 2 มหา
ทั้งนี้ เจ้าคุณพิพิธ ยังเคยถูกพระผู้ใหญ่ให้การตำหนิเรื่องการเทศน์ เพราะมีการพูดถึงทางการเมืองแค่เพียงน้อยนิด ทางด้านเจ้าคุณพิพิธก็เคยผ่านเหตุการณ์ที่พระสงฆ์ผู้ใหญ่ไม่ปลื้มมาหมดแล้ว แต่เมื่อปัจจุบันมีโซเซียลเข้ามาในหมู่พระสงฆ์ก็ต้องมีการควบคุมและตรวจสอบก่อน ในปัจจุบันถ้ามีการสื่อสารที่ไม่เหมาะสมคงมีการปิดหรือลบการสื่อสารนั้นเมื่อออกรายการทีวีได้ เจ้าคุณพิพิธจึงบอกว่าตนไม่ได้ติดใจอะไรถือว่าเป็นการเรียนรู้ สำหรับคนที่ไม่ชอบก็อย่างไปคิดว่า 2 มหาเป้นศัตรู เพราะพระพุทธเจ้าได้กล่าวไว้ว่า “คนที่เห็นโทษในตัวเรา ขอให้มองเป็นการชี้ขุมทรัพย์” ในส่วนของพระมหาไพรวัลย์ก็เป็นที่น่าเป็นห่วงเพราะเคยออกมาเขียนงานที่เข้มข้นและอาจเป็นอันตรายมากขึ้นเมื่อมาออกสื่อไลฟ์สดอีก
ส่วนมุมมอง 2 มหาดังจาก พระพยอม กัลป์ยาโณ เจ้าอาวาสวัดสวนแก้ว “อาจาร์หม่อมคึกฤทธิ์ ปราโมช บอกพระพยอมเทศน์ผมไม่ศรัทธาเลย เทศน์อะไรสนุกสนานเฮฮา ในตอนนั้นเราก็หัวแรงไปนิดนึง ไม่น่าไปเถียงผู้หลักผู้ใหญ่ บอกว่าที่บวชมานี่ไม่ได้บวชเพื่ออาจารย์นับถือหรอก เอาล่ะน้องท่านทั้ง 2 เมื่อสังคมส่วนใหญ่หรือพระผู้ใหญ่ว่าไม่ปลื้ม ท่านก้ลองปรับระดับ เหมือนที่ผมเคยปรับมาแล้วท่าน”
พระพยอม ยังได้กล่าวต่ออีกว่า “ก็เป็นปรากฎการณ์ใหม่ เกี่ยวกับทางเทคโนโลยี ซึ่งเอาภาพออกมา เสียงออกมา ท่าทางเสียงหัวเราะ เสียงขำ อะไรต่างๆออกมาครบ คนที่ฟังก็ต่างระดับกัน ผู้สูงอายุก็อาจรู้สึก พระออกมาทำแบบนี้ได้เหรอ? แต่ที่จริงพระร้องแหล่ในสมัยก่อนนี้ก็มีกันมาตั้งนานแล้วล่ะ และเรื่องนี้เนี่ย อาตมาเองก้มีประสบการณ์ เมื่อตอนบวชใหม่ๆเริ่มเทสน์แล้วคนไม่สนใจ ก็เลยหามุขหาวิธีเทคนิคต่างๆ เทศน์สนุกจนคนแห่ฟังตั้ง 5 หมื่นคน อย่างที่จังหวัดอุบลราชธานี ทุ่งศรีเมือง นครศรีธรรมราช สนามหน้าเมือง คนล้มหลามหมด ออกทีวีช่อง 3 จำได้ เรตติ้งอยู่อันดับ 2 รองจากคุณไตรภพ ลิมปพัทธ์ รายการธรรมะพระพะยอมเท่านั้น ต่อมาก็เกิดผู้ใหญ่ในบ้านเมือง 2 ท่าน ท่านแรกคือ อาจารย์มอบคึกฤทธิ์ ปราโมช บอกพระพะยอมเทศน์ผมไม่ศรัทธาเลย เทศน์อะไรสนุกสนานเฮฮา ในตอนนั้นเราก็หัวแรงไปนิดนึง ไม่น่าไปเถียงผู้หลักผู้ใหญ่ บอกว่าที่บวชมานี่ไม่ได้บวชเพื่ออาจารย์นับถือหรอก แล้วคุณสมัครบอกผมชอบฟังหลวงพ่อปัญญา ท่านเทศน์แบบสุนทราภรณ์ พระพะยอมนี่ลูกทุ่งเกินไป จนมีคนไปถามหลวงพ่อพุทธทาสว่า หลวงพ่อรู้สึกยังไงกับพระพะยอมที่ออกไปเทศน์สนุกสนานเฮฮา แต่หลวงพ่อพุทธทาสรู้เรื่องหนึ่ง รู้ว่าเด้วัยรุ่นเนี่ยเอาซาวด์เบ้าท์ใส่หูเดินฟังพระพะยอมเทศน์ หัวเราะมีความสุข หลวงพ่อก็เลยถามนักข่าวออกไปว่า ระหว่างที่เอาพระพยอมขึ้นตาชั่งเนี่ยได้กับเสียเนี่ย พระพยอมทำอันไหนมากกว่ากัน? ถ้าทำเสียมากก้จะตักเตือน ถ้ามันพอได้ก็น่าจะปล่อยให้ท่านได้บรรยายไปบ้าง และบวกกับอายุเรามากขึ้นๆ เราค่อยๆละเรื่องนี้ไป พระ 2 ท่านเนี่ยก็คงอีกไม่นานพออายุขึ้น 60 70 ท่านก้จะทิ้งสไตล์นี้ไปเอง ที่จริงพระมหาไพรวัลย์สไตล์เดิมเป็นนักคิด นักเขียน นักวิชาการ จะไม่ค่อยออกอาการหัวเราะยังที่เข้าใจกันว่าหัวเราะเหมือนยังเด็กแบเบาะ อะไรเหล่านี้จะหายไปเองในระยะอีกไม่นาน ช่วงนี้อาจจะเป็นวัยหนุ่มวัยรุ่น ยังจะเป็นแบบนี้ไปบ้างเพราะอาตมาก็เคยเป็นแบบนี้มาแล้ว ต่อมาๆก็เริ่มระงับบังคับไม่ให้หัวเราะในเวลาเทศน์และไม่ให้สนุกจนเกินไป เพราะว่าเราอยู่ส่วนโมสได้เปรียบอย่าง เป้นเทศน์แบบวิชาการ พระอาจารย์จะเทศน์ทุกวันเสาร์ไม่มีคนฟังก็จะเทศน์ เทศน์เอาเนื้อเอาสาระอย่างเต็มที่เลย สะเทือนใจที่มาอยู่สำนักนี้แล้วไม่ได้เทศน์ตามต้นฉบับ ถอยหลังกลับมาเทศน์เน้นในเรื่องอาชีพ การงาน ถ้าการเทศน์บูมขึ้นมา มันจะหยุดมิจชาชีพ หากิน หาโกง ลงไปได้บ้าง และคนที่เลี้ยงชีวิตก้ไม่ควรเอายาเสพติดมาเลี้ยงชีวิต เน้นๆสุดๆคืออย่าให้บ้านเมืองนี้ล็อคแผ่นดินล่ามโซแผ่นดินจนไม่มีที่ปลูกกระชาย ที่ปลูกฟ้าทลายโจร เป็นไปได้ไงที่ฟ้าทลายโจรขาดตลาด”
“เมื่อสังคมส่วนใหญ่หรือพระผู้ใหญ่ว่าไม่ปลื้ม ท่านก็ลองปรับระดับ ผมก็ปรับและพลาดมาแล้ว ทั้งตอนนี้ก็ถูกตำหนิว่าเทศน์ไม่สนุกเหมือนก่อนเลย เราก็ต้องแล้วแต่คนเรานะ แต่ท่านก็เป็นพระนักปราชญ์อยู่แล้ว ท่านคงฉลาดที่จะปรับปรุงให้คำชมมากกว่าคำตำหนิติเตียน หรือหลีกเลี่ยงโลกวัชชะได้มากกว่าพระทั่วไป”
สนับสนุนโดย
UFABET | UFA365 | UFABET เข้าสู่ระบบ | UFABET เว็บตรง | สล็อต เว็บตรง | SLOTXO | สล็อต | PG SLOT | สล็อต XO | สล็อต | JOKER123 | สล็อต เว็บตรง | สล็อตโจ๊กเกอร์