“ทับทิม” สาวไทยขับรถชนวัยรุ่นสหรัฐฯ เจอตัวแล้ว! อ้างตกใจ เลยบินกลับไทย

ข่าวเด่นออนไลน์ เจอตัวแล้วผู้ร้ายหลบหนี “ทับทิม“ สาวไทยขับรถชนวัยรุ่นสหรัฐฯ ลั่นกับเจ้าหน้าที่ว่าไม่คิดหลบหนีแต่ที่บินกลับประเทศไทยเพราะว่าตกใจเท่านั้น เจ้าหน้าที่ฝั่งไทยเตรียมประสานงานส่งกลับไปรับโทษในสหรัฐทันที

“ทับทิม” สาวไทยขับรถชนวัยรุ่นสหรัฐฯ ยันไม่ได้หนี แค่ตกใจเลยลินกลับไทย

สืบเนื่องมาจากเหตุการณ์ที่สื่อมวลชนทั้งในไทยและต่างประเทศออกมาเปิดเผยในวันที่ 6 กุมภาพันธ์ 2566 ที่ผ่านมา รายงานกรณีหญิงไทยที่อาศัยอยู่ในอเมริกาก่อเหตุ ขับรถชนวัยรุ่นชายวัย 22 ปี จนเสียชีวิตซึ่งเหตุการณ์นี้เกิดขึ้นตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2566 ในพื้นที่เมืองมิชิแกนสหรัฐอเมริกา ภายหลังจากก่อเหตุก็เดินทางหลบหนีบินกลับมาที่ประเทศไทยบ้านเกิด ทำให้เจ้าหน้าที่ของสหรัฐเร่งสืบค้นหานางทับทิมวัย 57 ปี และมีการออกหมายจับเป็นที่เรียบร้อยรวมไปถึงได้มีการประสานมาหาเจ้าหน้าที่ฝั่งไทยให้ช่วยติดตามส่งมอบตัวผู้ร้ายข้ามแดน

พลตำรวจเอกดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผู้บัญชาการตำรวจได้มอบหมายงานให้รองผู้บัญชาการตำรวจ คุณตำรวจเอกสุรเชษฐ์ หักพาล ในเบื้องต้นได้มีการรวบรวมข้อมูลที่มีความเกี่ยวข้องกับหญิงไทยผู้ก่อเหตุขับรถชนคนตายในอเมริกาเป็นที่เรียบร้อย และส่งมอบข้อมูลให้กับรองผู้บัญชาการตำรวจให้ไปปฏิบัติหน้าที่สืบค้นตัวตามข้อมูลที่ได้รับเพื่อนำตัวผู้ก่อเหตุมาสอบสวนตามขั้นตอน

จากข้อมูลเปิดเผยว่านางทับทิมได้เดินทางบินกลับมายังประเทศไทยถึงในวันที่ 5 มกราคม 2566 และได้เดินทางไปพักอาศัยอยู่ที่บ้านในพื้นที่จังหวัดชลบุรี ถัดมาวันที่ 10 กุมภาพันธ์ 2566 ได้มีการรายงานเพิ่มเติมว่านางทับทิมได้ย้ายไปพักอยู่ที่ห้องพักหรืออพาร์ทเม้นท์ที่อยู่ในอำเภอสวนผึ้ง จังหวัดราชบุรี เมื่อเจ้าหน้าที่ตำรวจของฝั่งประเทศไทยได้รับรู้ข้อมูลในเบื้องต้นจึงเร่งเดินทางไปตรวจสอบและได้พบตัวของนางทับทิมที่อาศัยอยู่ในห้องพักดังกล่าวจริงๆ

เจ้าหน้าที่ได้ทำการสอบสวนนางทับทิมเธอยอมรับว่าเป็นบุคคลที่อยู่ภายในขาวได้ก่อเหตุขับรถชนคนตาย เธอไม่ได้ตั้งใจจะหนีหรือหลบหนีความผิดอะไรแต่เพียงเพราะตกใจจึงกลับมาตั้งหลักที่ประเทศไทย เธอให้ความร่วมมือกับทางเจ้าหน้าที่ตำรวจและเตรียมตัวเดินทางเข้าไปสู่กระบวนการรับโทษทางกฎหมายในสหรัฐอเมริกา

ในวันที่เกิดเหตุภายหลังจากที่เธอรู้ว่าขับรถชนคนก็รู้สึกตกใจเป็นอย่างมาก ทำอะไรไม่ถูกเลยเธอก็พยายามที่จะโทรหาตำรวจ เธอทำอะไรไม่ได้เลยแต่ในขณะนั้นเธอก็คิดว่าตัวเองกำลังถูกปล้นด้วยซ้ำ ในตอนนั้นเหมือนว่าคนอยากจะให้จอดรถแต่เนื่องด้วยมันมีรถ uber จอดอยู่ข้างๆแต่เธอก็มองไม่ชัดเพราะว่ามันมืดก็ทำให้ชนสิ่งที่ขวางหน้าไป หลังจากชนก็ไม่กล้าลงไปดูกลัวว่าตัวเองจะเกิดอันตราย จึงซื้อตั๋วเครื่องบินกลับมายังประเทศไทย มาอยู่บ้านน้องสาวที่เธอซื้อให้และจะปรึกษาหารือกันสำหรับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น

ทางด้าน พลตำรวจเอกสุรเชษฐ์ ได้ออกมาเปิดเผยว่า หลังจากที่พบตัวนางทับทิม ได้มีการประสานกลับไปหาเจ้าหน้าที่ของสหรัฐ ผู้บัญชาการตำรวจได้สั่งให้ดำเนินและปฏิบัติตามกฎหมายไทยที่กำหนดเอาไว้ ภายหลังจากที่สอบถามและพูดคุยกับนางทับทิมก็ได้รู้ว่าเธอมีความรู้สึกเสียใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นอย่างมาก ยินดีและให้ความร่วมมือที่จะเดินทางกลับไปรับโทษที่สหรัฐอเมริกาตามขั้นตอนกฎหมาย จากเหตุการณ์ครั้งนี้ก็แสดงให้เห็นว่าความสัมพันธ์ระหว่างไทยและสหรัฐอเมริกาในการร่วมมือการก่ออาชญากรรมมั่นคงยิ่งขึ้น ทั้งสองฝ่ายให้ความร่วมมือและไม่ปกปิดหรือปกป้องคนผิด