ผัวเมียชาวตราด ถูกหลอก 2 ต่อ แสนเจ็บช้ำ ถูกหลอก บริษัทลวง ถูกไล่ออกจากบ้าน

ข่าวเด่นออนไลน์ เมื่อวันที่ 8 พฤศจิกายน 2564 ผู้สื่อข่าวรายงาน 2 ผัวเมียชาวตราด ปกติอาศัยอยู่บ้านเลขที่ 56 หมู่ที่ 2 ตำบลบางปิด อำเภอแหลมงอบ จังหวัดตราด ล่าสุดออกคำสั่งให้ย้ายออกเพราะเจ้าของใหม่ได้ไปฟ้องร้องต่อศาล

ขาดความรับผิดชอบ หลอกปลอมเอกสารให้ค้ำประกันรถยนต์ ผัวเมียชาวตราด  บ้านที่สร้างมาทั้งชีวิตต้องถูกศาลสั่งยึด ไร้ที่อยู่ เจ้าของใหม่ไล่ออกจากบ้าน

ผัวเมียชาวตราด หรือ นางวิรัชดา หาญชนะ และ นายวิชัยยศ ทองดี ผู้เป็นเจ้าของบ้านที่กำลังจะถูกศาลสั่งให้ย้ายออก เพราะเพิ่งมารู้ตอนที่มีเจ้าหน้าที่มาแจ้ง เนื่องจากบ้านที่ตนอยู่อาศัยได้ถูกประมูลขายทอดตลาดไปแล้วเมื่อวันที่ 22 มิ.ย. 64 ทั้งนี้ นางวิรัชดา ไม่ยอมที่จะย้ายออกจากบ้านตามคำสั่ง

นางวิรัชดา ได้ออกมาเล่าว่า บริษัทไฟแนนซ์ได้บอกว่าตนนั้นค้ำประกันรถของ นายวิชัยยศ ทองดี ซึ่งเป็นคนที่ทำเรื่องซื้อรถกับบริษัทตั้งแต่ปี 2555 ระยะแรกได้มีการจ่ายงวด 2-3 งวด ก่อนบริษัทมาทำการยึดรถไป เจ้าพนักงานของไฟแนนซ์ยึดรถไปแล้วก็ไม่ได้ทำการส่งมอบให้กับบริษัท จนเป็นสาเหตุให้ไฟแนนท์ดำเนินการไปฟ้องและให้ศาลใช้อำนาจสั่งให้ตนและนายวิชัยยศย้ายออกจากบ้านเพื่อที่จะยึดทรัพย์ที่เป็นบ้านที่อยู่อาศัย โดยไฟแนนซ์ได้ให้เหตุผลต่อศาลว่าได้รับความเสียหายต่อเป็นจำนวน 7 แสนบาทจากการทำเรื่องซื้อคนแต่ไม่จ่ายคค่างวด

ก่อนหน้านั้น นายณัฐวุฒิ ทองดี ผู้เป็นลูกชายของนายวิชัยยศ ซึ่งเป็นผู้ที่ได้รับหมายศาลแม้กลัวความผิด ไม่ชอบนำมาให้พ่อของเขาและตน เพราะก่อนหน้านั้นเจ้าตัวได้มีการทำเอกการเพื่อปลอมแปลงแต่งเรื่องขึ้นมา ทั้งที่เป็นเอกสารค้ำรวมถึงเอกสารที่ทำเรื่องซื้อรถยนต์

เมื่อปีที่ 2562 ทางด้านของศาลจังหวัดตราด ก็ได้ออกคำสั่งลงมาเพื่อให้แจ้งว่าจะดำเนิการยึดบ้านที่ตนใช้อยู่อาศัยภายในวันที่ 16 ต.ค. 62 เมื่อไฟแนนซ์ได้รับข้อมูลจากศาลก็ได้นำหลักฐานประกาศขายบ้านของตนทอดตลาดไป จนเวลาผ่านไปถึงปี 63 ได้มีการเปิดประมูลบ้านได้ 5.4 แสนบาท ตอนนั้นยังไม่มีใครมาซื้อ บริษัทประมูลเรื่อยมาจนเป็นครั้งที่ 4 ผู้ที่ชนะการประมูลอยู่ที่จำนวน 4 แสนบาท บวกค่าโอนอีกจำนวน 3 หมื่นบาท

เนื่องจากที่ตนนั้นไม่ยอมย้ายออก เพราะเรื่องทั้งหมดที่เกิดขึ้นเป็นเรื่องราวที่ตนไม่เคยรับรู้มาก่อน มารู้อีกทีก็ถูกเจ้าหน้าที่มาแจ้งให้ย้ายออกจากบ้าน ทั้งที่บ้านหลังนี้ตนและสามีช่วยกันหาเงินมาทั้งชีวิตเพื่อที่จะสร้างบ้านนี้ให้เป็นบ้าน ถ้าตนย้ายออกจากบ้านหลังนี้แล้วจะไปอาศัยอยู่ที่ไหนเพราะไม่มีที่ให้อยู่แล้ว

ก่อนหน้าที่จะเกิดเรื่องวุ่นวายนี้ขึ้น เริ่มจากน้องชายของตนอยากได้รถเป็นจำนวน 1 คัน โดยตอนนั้น นายณัฐวุฒิ ได้นำบัตรประชาชนของตนและน้องชายไป โดยได้อ้างว่าจะนำไปเช็คเครดิตว่าจะสามารถซื้อรถได้หรือไม่ สุดท้ายก็หายเงียบไปเลย

จนเวลาล่วงเลยมาจนถึงปี 62 ศาลมีคำสั่งยึดบ้าน จนมารู้สาเหตุว่ามีคนได้เอาเอกสารปลอมแปลงลายเซ็นของตนเพื่อนำไปใช้ค้ำประกันรถยนต์ให้ นายณัฐวุฒิ ทองดี ตนและนายวิชัยยศ ทองดี หลังจากรู้ความจริงก็ได้แจ้งความตำรวจ

ช่วงเวลาที่ผ่านมาหลังจากรู้ความจริงทั้งหมายตนนั้นก็พยายามหาหนทางเพื่อที่จะช่วยเหลือเองให้รอดจากคดี ทั้งเดินทางไปร้องทุกข์ต่อเจ้าหน้าที่ของหน่วยงานต่างๆที่เกี่ยวข้องรวมถึงได้หาทนายอาสาเพื่อขอความช่วยเหลือ แต่เวลาก็ผ่านไปไม่มีอะไรเกิดขึ้นตลอด 2 ปี

สุดท้ายแล้ววันที่ต้องมาขึ้นศาลเป็นวันแรกก้คือวันที่เจ้าของใหม่มาฟ้องศาลให้ใช้อำนาจสั่งตนให้ย้ายออกจากบ้านที่ตนสร้างมากับมือ มันจุกอกมากไม่มีโอกาสสู้คดีตนจึงอยากให้และขอร้องให้หน่วยงานที่ช่วยเรื่องนี้ได้เข้ามาช่วยเหลือตนด้วย

สุดท้ายนางวิรัชดาก็ต้องถูกศาลสั่งทั้งบังคับนำทรัพย์สินที่อยู่ภายในบ้านออกจากบ้านของตนเอง เพราะเจ้าของใหม่จะต้องย้ายเข้าไปอยู่ต้องจากให้เหลือไว้แต่เพียงบ้าน และมากไปกล่าวนั้นมี 2 โอ่งใหญ่ซ฿งเป็นทรัพย์สินอีกอย่างหนึ่งที่ไม่สามารถนำเอาไปด้วยได้ สุดท้ายเลยได้ตัดสินใจทุบทิ้ง

ทางด้านเจ้าของใหม่ที่มาซื้อบ้านหลังจากที่ถูกขายทอดตลาด ได้ออกมาเล่าว่าตนไม่รู้หลอกว่าใครอะไรยังไงเกิดขึ้นบ้าง จากการประมูลก็ได้มีการซื้อและขายตามปปกติไม่มีปัญหาอะไร เมื่อมาบอกให้นางวิรัชดาย้ายออกก็ไม่ยอมย้ายสักที ตนเลยต้องมาฟ้องศาลให้ใช้อำนาจสั่งให้ย้ายออกให้ตนผู้เป็นเจ้าของบ้านใหม่