แมวโชคร้าย! รับเคราะแทนเจ้าของ รอดหวุดหวิด พิตบูลบุกเข้าบ้าน

วันที่ 23 มีนาคม 2565 ข่าวล่าสุด เกิดเรื่องโหดร้ายขึ้นกับแมวอีกครั้ง เพราะรับเคราะแทนลูกเจ้าของ รอดหวุดหวิด ลูก 2 คน รอดจากพิตบูลแต่แมวโดนขย้ำตายคาที่ หลังกลุ่มสุนัขวิ่งสวนเข้ามาในประตูเข้าบ้านระทึก

รอดหวุดหวิด ลูกชายเจ้าของบ้าน แต่น้องแมวไม่รอด พิตบูลบุกวิ่งเข้าบ้านรุมกัดเลือดสาดจนตาย ภายหลังทราบว่าเป็นสุนัขของพระลูกวัด

เมื่อวานนี้ (22 มี.ค. 65) ตำรวจ สภ.เมืองกาญจนบุรี ได้รับแจ้งเหตุระทึก พิบูลบุกเข้าบ้านทำร้ายคน รอดหวุดหวิด ลูกเจ้าของบ้าน 2 คน ทว่าเรื่องเศร้าตกอยู่ที่แมวสัตว์เลี้ยง ภาพจากกล้องวงจรปิดเผยให้เห็นว่าพิตบูลกว่า 3 ตัวบุกเข้าบ้านหันไปเห็นแมวแล้วรุมกัดขย้ำทำร้ายจนตาย

นายสันติ กสินธุรัมย์ วัย 29 ปี เจ้าของเรื่อง เดินทางเข้ากแจ้งต่อ ร้อยตำรวจโท อาชวินทร์ อ่อวงศ์ รองสารวัตรสอบสวน เขาได้รับคลิปภาพจากวงจรปิดภายในบ้านมายื่นให้เจ้าหน้าที่ ก่อนจะเล่าว่า เรื่องระทึกนี้เกิดขึ้นเมื่อเวลา 5 โมงเย็นของวันที่ 22 มีนาคม 2565 ขณะนั้นลูกชายของตน 2 คน ได้กำลังนั่งเล่นอยู่ภายในบ้าน แต่ไม่นานจู่ๆสุนัขจากที่ไหนไม่รู้วิ่งกรูเข้ามาทางประตูเป็นสุนัขพันธุ์พิบูล จำนวน 3 ตัว สุนัขได้พังประตูที่เป็นลวดเข้ามาภายในบ้านได้ จากภาพลูกชายต่างแตกตื่นและตกใจก็รีบวิ่งหนีกัน เพื่อที่จะเอาชีวิตรอดจากสุนัขและเวลานั้นเองสุนัขได้หัวไปเห็นแมวดจึงวิ่งรุมแมวไล่กัดจนตายไปที่ด้านนอกของบ้าน

เบื้องต้นรู้ข้อมูลมาว่า พิตบูลทั้ง 3 ตัว ผู้เป็นเจ้าของนั้นคือพระสงฆ์ซึ่งเป็นพระลูกวัดที่หนึ่งอยู่บริเวณใกล้กับบ้านที่เกิดเหตุ พระรูปนั้นได้เลี้ยงเอาไว้ หลังจากเกิดเรื่องขึ้น ชายเจ้าของบ้านได้เดินทางไปพูดคุยกับพระเจ้าของหมา ทั้งนี้ก็ไปถามพระว่าจะแสดงความรับผิดชอบกับเรื่องที่เกิดขึ้นอย่างไร แต่พระเจ้าของสุนัขดันตอบปัดมาว่า สุนัขกัดแมวตายแค่นั้น ส่วนคนไม่ได้รับบาดเจ็บอะไรเด็กชายทั้งสองยังปลอดภัยดี เมื่อเจ้าของบ้านที่เดือดร้อนฟังอย่านั้นแล้ว ได้เปลี่ยนไปคุยกับพระที่เป็นเจ้าอาวาสวัดแห่งนั้น

ทางเจ้าอาวาสได้กล่าวว่า ได้มีการกล่าวตักเตือนพระที่เลี้ยงพิตบูลก่อนหน้าที่หลายครั้ง หากจะเลี้ยงสุนัขพิตบูลต้องจัดการดูแลให้ดี อย่าให้หลุดออกไปทำร้ายใครให้ได้รับความเอดร้อน แต่พระลูกวัดรายนี้ก็ไม่เชื่อฟัง ยังปล่อยสุนัขเที่ยววิ่งเหมือนสุนัขธรรมดาทั่วไป

นายสันติ เจ้าของบ้านที่ถูกพิตบูลบุกพังเข้าประตูบ้านกัดแมว เขาได้เอ่ยด้วยความบริสุทธิ์ใจว่า ตนเองไม่ได้ต้องการที่จะแจ้งความเพื่อดำเนินการเอาความผิดต่อพระลูกวัดรายนี้ แต่หากมาแจ้งความเพื่อให้เจ้าหน้าที่หรือหน่วยงานเข้าไปตรวจสอบและเข้าไปดูแล เนื่องจากพระลูกวัดรายนี้มีการเลี้ยงพิตบูลภายในวัดมากกว่า 10 ตัว อยากจะให้เจ้าหน้าที่ไปช่วยพูดและคุยกับพระลูกวัดให้มีการดูและสุนัขไม่ให้หลุดออกมาทำร้ายชาวบ้านได้อีก จากกรณีที่เกิดขึ้นหากไม่มีแมวลูกชายของตนคงโดนสุนัขทั้งสามรุมกัดและอาจจะตายได้ ไม่ใช่สุนัขทุกตัวจะเป็นมิตรกับเด็ก

ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจรับแจ้งเรื่องเอาไว้แล้ว พร้อมกับได้ลงบันทึกประจำวัน เพื่อบันทึกลายลักษณ์อักษร ก่อนจะเดินทางเข้าไปที่วัดดังกล่าวเพื่อขอคุยกับพระลูกวัดเจ้าของสุนัขพิตบูลในวันที่ 23 มี.ค. 65 เพื่อช่วยกันหาแนวทางป้องกันเรื่องร้ายหรือความสูญเสียที่ชาวบ้านที่อยู่อาศัยบริเวณวัดจะได้รับความเดือดร้อนจากพิตบูลอีก

ล่าสุด เมื่อวันที่ 23 มี.ค. 65 พระสนธยา ชนะเลิศ วัย 60 ปี พระที่เป็นเจ้าของพิตบูล ผุ้ที่เข้ามาศึกษาหลักธรรมได้ 9 พรรษา พระลูกวัด “วัดเขาเทพนิมิตร” ตำบลแก่งเสี้ยน อำเภอเมือง จังหวัดกาญจนบุรี ได้ออกมาให้สัมภาษณ์ว่า ได้มีการเลี้ยงดูสุนัขจำนวน 9 ตัว ได้แก่

1.พิตบูลแท้ 2 ตัว

2.พิตบูลลูกผสม 5 ตัว

3.สุนัขพันธุ์ไทย 2 ตัว

พระสนธยา ให้การยืนยันว่าสุนัขทั้งหมดที่เลี้ยงไม่ได้มีพฤติกรรมที่ดุร้ายแน่นอน สังเกตจากที่ชาวบ้านปล่อย แพะ ไก่ หรือ นก สัตว์เหล่านี้มาหากินในเขตวัดแต่สุนัขก็ไม่เคยวิ่งไล่กัดทำร้าย นอกจากนี้ชาวบ้านที่เดินทางมาทำบุญที่วัดแห่งนี้ยังเคยหยอกล้อและเล่นกับสุนัขอยู่เป็นประจำ

จากคลิปที่สุนัขพิตบูล 3 ตัว บุกเข้าบ้านชาวบ้าน ตอนนั้นได้ปล่อยให้มันไปอาบน้ำบ่อหลังวัดช่วงเย็น เหมือนปกติทุกวัน ตอนนั้นมีแมวของชาวบ้านไปวิ่งเล่นในเขตวัด ทำให้สุนัขวิ่งไล่ตามสัญชาติญาณของมันก่อนวิ่งไล่เข้าไปในบ้านหลังเกิดเหตุที่อยู่ห่างจากวัดไปเพียง 200 เมตร

อย่างไรก็ตาม พระสนธยา ให้การยอมรับว่าตนเองเป็นฝ่ายที่ผิดในเรื่องนี้ ได้คุยกับชาวบ้านคู่กรณีและเจ้าอาวาสวัดว่าตนจะนำเอาสุนัขทั้งหมดไปเลี้ยงดูที่บ้านของตัวเองและขอลาสิกขาออกจากความเป็นพระสงฆ์ ตนเลี้ยงดูสุนัขเหล่านี้มาเป็นเวลานา 8 ปีแล้ว ตนยินดีมากหากที่คนใจบุญมารับแบ่งไปเลี้ยงด้วย