ชีวิตรันทด!! อดีตพนักงานรถทัวร์ ตั้งใจเก็บเงินสร้างให้ลูก สุดท้ายเป็นมะเร็งเหลือเวลา 6 เดือน

ข่าวล่าสุด เมื่อวันที่ 2 พฤศจิกายน 2564 ผู้สื่อข่าวรายงาน เรื่องราวชีวิต อดีตพนักงานรถทัวร์ ภายหลังได้ป่วยติดเตียงเนื่องจากเป็นโรคมะเร็งจนไม่สามารถลุกเดินหรือนั่งได้ นอนป่วยให้บ้านผุพังโดยมีลูก 7-10 ขวบ คอยดูแล

เพราะความอยากจน! เวลาชีวิตเหลือน้อยลงทุกที อดีตพนักงานรถทัวร์ ลูก 3 คนร่ำไห้ดูแลแม่ป่วยมะเร็งไม่มีเงินรักษา

กรณี เรื่องราวสุดรันทดที่ได้เกิดขึ้นกับครอบครัว อดีตพนักงานรถทัวร์ ชาวบึงสามพัน จังหวัดเพชรบูรณ์ ซึ่งเวลานี้มีเวลาอยู่บนโลกนี้เพียง 6 เดือน และที่สำคัญเธอคนนี้เป็นคนแม่เลี้ยงเดี่ยว เพราะความจนที่ผ่านมาเธอตั้งใจทำงานเก็บเงินเพื่อดูแลลูกอีก 3 คน สุดท้ายต้องมาป่วยเป็นโรคมะเร็งกระดูกในระยะสุดท้าย เงินที่หาและเก็บมานานหลายปีก็นำเอาออกมาใช้รักษาตัว เนื่องจาอาการป่วยทรุดหนักถึงขั้นติดเตียงช่วยเหลือตัวเองไม่ได้ ลกสาวคนโตวัย 19 ต้องลาออกจากการทำงานเพื่อมาคอยดูแลแม่และน้องที่ยังเป็นเด็กเล็กจำนวน 2 คน

ผู้สื่อข่าวเมื่อได้ทราบเรื่องก็ได้เดินทางลงพื้นที่ไปที่ครอบครัวดังกล่าวนี้ โดยทั้งหมดได้อาศัยอยู่ที่บ้านเลขที่ 41 ม.4 บ้านราหุล ตำบลบึงสามพัน อำเภอบึงสามพัน จังหวัดเพชรบูรณ์ เมื่อเดินทางไปถึงพบว่าเป็นบ้านไม้หลังเก่าที่ใกล้จะผุพังเต็มที และจากสภาพที่เห็นนั้นดูแทบจะไม่เหมือนบ้านแต่คล้ายไปทางกระท่อมมากว่าซึ่งบริเวณที่ตั้งบ้านแหล่งนี้จะอยู่ในพื้นที่ลุ่ม

ผู้สื่อข่าวไปพบหญิงสาววัย 19 ปี ชื่อนางสาวปภาวรินท์ พุ่มศิริ กำลังที่จะดูแลผู้เป็นแม่ที่ป่วยติดเตียงจากโรคมะเร็งช่วยเหลือตัวเองไม่ได้ คือ นางสาวธันย์ชนก ธรรมสูณ วัย 43 ปี และข้างกันนั้นยังมีเด็กหญิงอีก 2 คน คือ 1.เด็กหญิงธนกานต์ พุ่มศิริ (น้องเอิร์น) วัย 10 ขวบ 2.เด็กหญิงธัชญาดา พุ่มศิริ (น้องเอย) วัย 7 ปีขณะนั้นกำลังบีบนวดแขน-ขา ให้กับผู้เป็นที่นอนป่วยไม่สามารถลุกนั่งได้

นางสาวธันย์ชนก ที่กำลังนอนป่วยติดเตียงได้กล่าวต่อผู้สื่อข่าวว่า ตนนั้นมีความรู้สึกเสียใจมากๆ เพราะต่อไปคงไม่สามารถทำในสิ่งที่ตัวเองตั้งใจไว้ก่อนหน้าที่จะป่วย ตอนนั้นทำงานเก็บเงินได้ท้ะงหมดก็หวังจะนำมาสร้างบ้านใหม่ให้กับลูก 3 คน ได้อยู่อาศัยที่ดีขึ้นและได้อยู่กันอย่างมีความสุขกัน เวลาที่ผ่านมาตนตั้งใจทำงานเป็นพนักงานรถทัวร์จนไม่ค่อยมีเวลาให้ลูกๆมีแต่ส่งตั้งให้ใช้ พอมีโรคระบาดโควิดก็ตกงาน ไม่ได้ทำงาน ไม่มีรายได้ และต้องมากทุกข์มากกว่าเดิมเมื่อมาตรวจรู้มาตนเองกำลังป่วยเป็นโรคมะเร็งในระยะสุดท้าย ทำให้ตอนนี้ตนรู้สึกสิ้นหวัง ความฝันที่หวังไว้คงไม่มีอีกแล้ว ฝันสลายอยากให้ลูกอยู่สบายในบ้านหลังใหม่ไม่มีแล้ว

ทางด้านลูกสาวคนโตนางสาวปภาวรินท์ ได้ออกมาเผยอีกว่า ระยะเวลาที่ผ่านมาแม่ที่กำลังนอนป่วยอยู่นี้เป็นเสาหลักของบ้าน ต้องออกไปทำงานหาเงินเก็บเงินอยู่คนเดียว ไม่ค่อยได้มีเวลามาอยู่กับตนและน้องๆ เพราะแต่ก่อนแม่ทำงานในรถทัวร์ที่ต้องเดินทางตลอดเวลา แม้ว่าแม่จะไม่ค่อยมีเวลาก็จะหาเวลาแวะเอาเงินมาให้ตนไว้ดูแลน้องอีก 2 คนที่บ้านหลังนี้ เวลาที่แม่เอาเงินมาให้แม่ยิ้มแย้มแจ่มใส่ดูไม่รู้ว่ามีอาการป่วยอะไร พร้อมกันนั้นแม่จะบอกเสมอว่าให้อดทนนะลูกแม่กำลังเก็บเงินสร้างบ้านใหม่ให้เราอยู่ด้วยกันจะไม่ลำบากแล้วนะ

บ้านไม้ที่อยู่อาศัยกันในทุกวันนี้เริ่มจะผุและพังขึ้นทุกวัน เวลามีฝนตก น้ำจะรั่วจากหลังคาลงมาหลายที่จนแทบจะไม่มีพื้นที่เพื่อใช้หลับนอนได้เลย และยิ่งวันไหนมีฝนตกหนักพายุเข้า ปริมาณน้ำจะท่วมบ้านเพราะเป็นที่ลุ่มน้ำท่วมขังง่าย ญาติๆที่เห็นก็เอามาช่วยเหลือโดยการเอาเครื่องสูบน้ำมาสูบน้ำออกให้ แต่เกรงใจเขาก็เอาเงินจ่ายค่าน้ำมันเครื่องสูบน้ำให้เขา และเงินจำนวนนั้นเดิมจะนำไปซื้อข้าวสารเพื่อเอามาไว้กินในครอบครัว ลูกสาวคนโตวัย 19 ปี เล่าต่อไปอีกว่า พอแม่เริ่มป่วยอาการทรุดหนักจากโรคมะเร็ง ตนรู้สึกเครียดมากเพราะไม่รู้จะช่วยเหลือยังไง แม่มีเวลาเหลืออยู่เพียง 6 เดือนแล้ว ทุกครั้งที่แม่อาการป่วยกำเริบแม่เจ็บป่วยมาก

ตนและน้องอีก 2 คน ไม่รู้จะทำอย่างไรได้แต่คอยบีบนวดให้แม่ เพราะคิดว่าจะช่วยแม่บรรเทาอาการปวดลงได้มาก ตนขอให้โลกนี้มีปาฏิหาริย์ด้วยเทอญ อยากให้แม่กลับมาลุกเดินนั่งได้เหมือนเดิม จะได้สร้างบ้านหลังใหม่ได้อยู่ด้วยกันก่อนที่แม่จะจากตนและน้องไป อยากให้แม่ได้สมหวังกับความฝันที่ตั้งใจไว้