เจ้าสัวธนินท์เห็นด้วยกับรัฐบาล ให้ขายที่ดินกับชายต่างชาติ ย้อนถามขายชาติตรงไหน

ข่าวเด่นออนไลน์ ล่าสุด เปิดคลิปสัมภาษณ์ เจ้าสัวธนินท์เห็นด้วยกับรัฐบาล การขายที่ดินให้กับชาวต่างชาติ ไม่ได้แปลว่าขายชาติ ช่วยหนุนเศรษฐกิจ โอกาสมาแล้วต้องรีบคว้าเอา แถมยังมีมูลค่าเพิ่มทรัพย์ให้คนไทย มากกว่าการท่องเที่ยวเสียอีก รัฐบาลทำดีแล้วใจกล้าที่จะฉวยโอกาสนี้

ชาวเน็ตเดือดอีกครั้ง! แห่แชร์คลิปเจ้าสัวธนินท์เห็นด้วยกับรัฐบาล ขายที่ดินให้ต่างชาติ ไม่ได้แปลว่าขายชาติ

เจ้าสัวธนินเห็นด้วยกับรัฐบาล ชี้ใจกล้ารีบฉวยโอกาส กฎหมายหนุนให้มีการอนุญาตต่างชาติซื้อที่ดิน สามารถสร้างรายได้ให้กับคนไทย มองว่าเรื่องนี้ไม่ได้มีการขายชาติตรงไหน ยิ่งไปกว่านั้นยังทำให้ได้เงินมากกว่าเศรษฐกิจการท่องเที่ยว

จากกรณีดราม่าที่ยังคงร้อนแรงเสมอ รัฐบาลวางแผนขายที่ดินในประเทศไทยให้กับชาวต่างชาติ หวังสร้างกฎหมายให้ถูกต้องถูกเกณฑ์ แต่ได้รับเสียงต่อต้านจากคนในสังคมอย่างมากเพื่อให้ถอดถอนร่างกฎหมายดังกล่าว ซึ่งทางนายกรัฐมนตรีคนปัจจุบัน “บิ๊กตู่” หรือ พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา ได้มีการยกเลิกแพลนนี้เอาไว้ชั่วคราว หน่วยยังอยู่ในขั้นตอนการพิจารณาพร้อมกับรับฟังความคิดเห็นว่าทำไมถึงจะต้องไม่ขายที่ดินให้กับชาวต่างชาติ นั่นหมายความว่ามีการร่างกฎหมายแล้วแต่ยังไม่ได้มีการประกาศใช้งาน

วันที่ 2 ธันวาคม 2565 รายการข่าวดังของวิก 3 “เรื่องเล่าเช้านี้” ล่าสุดได้มีการรายงานเกี่ยวกับความคิดเห็นที่ประธานของเครือซีพี หรือ นายธนินท์ เจียรวนนท์ ได้ออกมาพูดเกี่ยวกับกรณีการซื้อที่ดินของชาวต่างชาติในประเทศไทย โดยบางช่วงมีการพูดระบุประมาณว่า การที่ชาวต่างชาติมาซื้อบ้านอยู่ในประเทศไทยเพื่อที่จะปักหลักอยู่มันย่อมดีกว่าการที่ต่างชาติมาท่องเที่ยวอย่างมาก เนื่องจากต่างชาติมาท่องเที่ยวเป็นการชั่วคราวแล้วก็บินกลับไป แต่ทว่าหากต่างชาติซื้อที่ดินมันคือการคิดที่จะลงทุนเพื่อที่จะสร้างผลประโยชน์ จะส่งผลให้มีการสร้างงาน พร้อมกับสร้างรายได้ให้กับคนไทย แต่พอจะมีการซื้อบ้านก็มีการคัดค้านว่า “ไม่ได้” ไม่ให้มีการซื้อพร้อมต่างชาติมาเจอแบบนี้ก็ลำบาก กลับกลายเป็นว่าไม่เข้าใจจุดประสงค์ ความหวังดีกับประเทศแต่ก็ทำให้เสียหาย ลองคิดดูว่าให้เขามาเช่าที่ทำชั่วคราว เขาก็มาทำธุรกิจเพียงชั่วคราวแล้วก็ถอนกลับไป แล้วสิ่งนี้จะเรียกว่าเป็นประโยชน์กับประเทศได้ยังไง

สำหรับที่ดินของเรา 105 ล้านไร่ที่ใช้ในการเพาะปลูกทำการเกษตร มันจะสามารถขายได้กี่มากน้อย เราก็ขายได้เพียงคนละไร่ พอเขาซื้อไปก็เอาไปจากประเทศไม่ได้  ประเทศดูไบที่ร่ำรวยเขาก็มีที่ดินเพียงเล็กน้อย แต่เขาก็แบ่งให้รัสเซียกับยูเครนมาซื้อบ้านอยู่อย่างถาวร ร้านเจ้าสัวธนินยังได้มีการบอกอีกว่า ถ้าหากเขาเป็นรัฐบาล เขาจะฉวยโอกาสนี้ ไปเชิญชวนชาวต่างชาติคนยุโรปให้เข้ามาซื้อบ้านอยู่ในประเทศไทย ยิ่งเป็นคนรัสเซียเขาก็ยิ่งอยากออกจากประเทศตัวเอง คนที่อยู่โซนยุโรปเวลาหน้าหนาวพวกเขาอยากออกจากบ้านก็ไม่ได้ออก พออยู่ในบ้านก็ทำให้เปลืองค่าใช้จ่ายในเรื่องแก๊ส

ถ้ามีการอนุญาตให้ชาวต่างชาติมาซื้อที่ดินในประเทศไทย เขาก็มาซื้อได้แต่ก็เอากลับไปประเทศตัวเองไม่ได้อยู่ดี ซึ่งมันก็จะเป็นการเพิ่มการสร้างงานให้กับคนไทยเพราะเขาต้องจ้างคนไทยให้มาดูแลบ้านให้ จ้างมาทำความสะอาด แล้วจะเรียกว่าคนไทยเสียหายยังไง ตรงนี้จะเรียกว่าเป็นการขายชาติในส่วนไหน

เจ้าสัว CP ยังเปิดใจอีกว่า เขาไม่คิดว่าโควิดจะอยู่นานขนาดนี้ เพราะคิดว่าโควิดคงอยู่แค่ 1 ปีและหลังจากนี้จะมีการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจอย่างรวดเร็ว เนื่องจากมันไม่มีการถูกทำลายเหมือนสงครามโลกครั้งที่ 2 ไม่ว่าจะเป็นสนามบิน สถานีรถไฟ ก็ยังคงอยู่ครบ เพราะว่ามันก็มีปัญหาอื่นๆสารพัดที่ทำให้เศรษฐกิจไม่ฟื้นตัวดีไม่ว่าจะเป็นการเมือง ภาวะโลกร้อน ภัยธรรมชาติ สงครามในต่างประเทศ ทั้งหมดประกอบกันทำให้คนทั่วโลกเริ่มมาสนใจปักหลักในประเทศแถบอาเซียนมากขึ้น

เจ้าสัวธานินทร์ยังบอกอีกว่าตอนนี้ทั้งรัฐบาลเก่าและรัฐบาลใหม่ ต้องหาวิธีการทำให้ประชาชนเข้าใจเกี่ยวกับเรื่องนี้ เพราะโอกาสดีๆ 1,000 ปีถึงมาครั้ง มีโอกาสมาแล้วก็ต้องรีบฉวย การสร้างกฎหมายซื้อที่ดินของชาวต่างชาติต้องสร้างเงื่อนไขกำหนดเอาไว้ด้วย

คนทั่วโลกจะชอบมาสตาร์ทอัพที่ประเทศไทย แต่ทำไมเราถึงไม่เอื้อต่อกฏหมายให้ถูกต้อง ทำให้ต่างชาติมาใช้ชีวิตในเมืองไทยง่ายขึ้น มาทำงานได้ง่ายขึ้น แถมยังเป็นการสร้างงานสร้างรายได้ให้กับคนไทยอีกด้วย มันก็จะเป็นการกระตุ้นเศรษฐกิจให้ประเทศไทยให้กับคนไทย เจ้าสัวยังเปยอีกว่าหากเปรียบเทียบกับนักท่องเที่ยว 10 คน มันเป็นเรื่องที่มีประโยชน์เสียมากกว่า ทำไมถึงไม่มีการคิดบวก เขาจะมาแย่งงานเราได้ยังไง เพราะเราขาดคนเข้าสู่สังคมสูงวัย ทำไมเราไม่คิดว่าเรากำลังดึงเอาคนเก่งๆเข้ามาในประเทศ เพราะเราเองก็สร้างสรรค์คนไม่ทันเช่นกัน เรื่องนี้วันอยู่ที่รัฐบาลแล้วว่าจะกล้าทำในสิ่งที่ถูกต้องหรือไม่

เจ้าสัวมองว่าคนที่มีคุณสมบัติที่จะบริหารประเทศได้ จะต้องเป็นคนที่กล้าคิดกล้าทำ และที่สำคัญต้องกล้าตัดสินใจ เพราะที่ทำนั้นมันเป็นประโยชน์ของประเทศชาติ แต่จะให้ทุกคนมีความคิดเห็นเหมือนกันก็ไม่ได้ เพราะต่างก็มองกันต่างมุม ทำ 10 เรื่อง ผิด 3 ถูก 7 แต่สักวันหนึ่งเดี๋ยวทุกคนก็รู้เอง

ภายหลังจากที่มีการนำเสนอข่าวดังกล่าวนี้ไป ชาวเน็ตแห่มาแสดงความคิดเห็นกันดุเดือดต่างมุมมองเป็นจำนวนมากบางรายได้โผล่ลั่นว่าให้เจ้าสัวเอา 7/11 ที่คุณมีขายให้เค้าไป เอามันไปขายให้ต่างชาติ  คนไทยบางคนยังไม่มีที่ซุกหัวนอนเลย และในตอนนี้กะจะให้ต่างชาติมาฉวยโอกาสมาเป้นนักธุรกิจแต่เอาจะนักธุรกิจหวังต่อยอด คนไทยเค้าไม่ได้โง่ หลายคนมองว่ามันเป็นการเอื้อต่อนักธุรกิจด้วยกันเองมากกกว่าที่จะสร้างรายได้ให้กับคนไทยเสียอีก ฟังยังไงมันก็ฟังไม่ขึ้น

บางรายลั่นตอกกลับเจ้าสัวก่อนจะมองถึงผลประโยชน์ประเทศชาติ #สอนตัวเองให้เลิกผูกขาดก่อน ปล่อยให้คนอื่นตัวเล็ก เขาได้ลืมตาอ้าปากบ้าง ธุรกิจในเครือตัวเองมีที่ดินกี่แสนกี่ล้านไร่ ถ้าไฟเขียวให้ซื้อได้ #ใน7-11 ก็มีโฉนดขายที่ดินขายเชื่อ หลายคนยังจับตามองว่าหากเจ้าสัวไม่ได้รับประโยชน์จากเรื่องนี้จะออกมาพูดขนาดนี้ไหม ออกหน้าออกตาลั่นว่าเป็นประโชยน์มากกว่าเสียประโยชน์

มองคนละด้าน มองในมุมนักธุรกิจ กับมองในมุมผู้บริหารประเทศ เอาคนต่างชาติเข้ามาซื้อต้องนึกถึงผลกระทบในระยะกลาง-ระยะยาวด้วย ทั้งเรื่องการบังคับใช้กฎหมาย กรรมสิทธิ์ มรดก ฯลฯ เพราะที่ทำกันมาประเทศไทยส่วนให้สร้างกฎหมายไม่ครอบคุ้ม สุดท้ายมันเอื้อต่อคนอื่นหรือนักลงทุนมากว่าคนในประเทศตัวเอง มันก็ดูเหมือนเปิดทางให้คนอื่นมาฆ่าคนของตัวเอง

ชาวเน็ตบางรายยกตัวอย่างง่ายๆให้เห็น คือ ดูประเทศลาวเป็นตัวอย่าง ประชาชนจะอดตายกันทั้งประเทศแล้ว เพราะรัฐบาลไปทำสัญญากับนายทุน คนรวยก็อยู่ได้สบายมันเอื้อผลประโยชน์ต่อกัน บอกว่ามาสร้างรายได้ให้คนไทย มันก็เลือกจะจ้องกิน แดกมาก หัวหมอ ผูกขาดตลาด ตัวเองชื้อดินไว้เยอะ